จ่อฟัน'ไทยพีบีเอส-รายการตอบโจทย์ประเทศไทย' หมิ่นเบื้องสูง

พล.ต.อ.ศรีวราห์  รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.)เป็นประธานการประชุมคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่ง ตร.ที่ 36/2559 พิจารณาสำนวนคดีที่ พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ"เสธอ้าย" กับพวกเป็นผู้ต้องหา กรณีนำมวลชนองค์การพิทักษ์สยามชุมนุมที่ราชตฤณมัยสมาคม(สนามม้านางเลิ้ง) เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2555 โดยกล่าวหา 4 ข้อหาคือ

1. ร่วมกันทำให้ปรากฏด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน

2.ข้อหาความผิดมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง และเมื่อเจ้าพนักงานสั่งผู้มั่วสุมให้เลิกแล้วไม่เลิก

3.ข้อหาร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฝ่าฝืนประกาศ และข้อกำหนดห้ามบุคคลเข้าหรือต้องออกจากพื้นที่ หรือสถานที่ที่กำหนดตามพ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ.2551

และ 4. ร่วมกันพยายามเป็นกบฏและซ่องโจรเพื่อเป็นกบฏ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า คดีนี้เดิมทีอยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิต รองผบ.ตร.(ตำแหน่งในขณะนั้น) ก่อนที่จะย้ายไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้รับผิดชอบตรวจความเรียบร้อยสำนวนสอบสวน ซึ่งคดีนี้ได้สรุปสำนวนไปแล้ว แต่ในวันนี้ตนและคณะพนักงานสอบสวนนำสำนวน และพยานหลักฐานมาตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อให้ครบถ้วนสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ก่อนเสนอให้ผบ.ตร.ลงนามเห็นชอบส่งสำนวนให้พนักงานอัยการต่อไป

พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะพนักงานสอบสวนตามคำสั่งตร.ที่ 37/2559 ได้พิจารณาคดีนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล กับพวกเป็นผู้ต้องหา ความผิดหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 กรณีพูดในรายการตอบโจทย์ประเทศไทย ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ 11-14 มี.ค.2556 และวันที่ 18 มี.ค.2556 โดยมีนายภิญโญ  ไตรสุริยธรรม  เป็นพิธีกร โดยมีผู้เข้าร่วมรายการประกอบด้วย นายสุรเกียรติ เสถียรไทย พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร และนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ เป็นคดีที่มีผู้มาแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการออกอากาศรายการดังกล่าว

แต่ขณะนั้นยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใคร ล่าสุดหลังจากเข้ามารับผิดชอบสำนวนการสอบสวนจะพิจารณาเนื้อหารายการว่า เข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่ หากพบ เข้าข่ายผิดฐานหมิ่นสถาบันฯจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทันที  นอกจากผู้ร่วมรายการแล้วยังมีผู้บริหารรวมถึงสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสต้องถูกดำเนินคดีด้วย ขอเวลาในการสอบสวน 15 วันจะเรียกประชุมคณะทำงานสอบสวนสรุปความคืบหน้าทางคดีอีกครั้ง