'สุรพงษ์'เย้ย'ประยุทธ์' หลังปธน.สหรัฐจับมือด้วย ชี้แค่มารยาท

'สุรพงษ์'เย้ย'ประยุทธ์' หลังปธน.สหรัฐจับมือด้วย ชี้แค่มารยาท

"ปึ้ง สุรพงษ์" อดีตรมว.ต่างประเทศ จากเพื่อไทย เย้ย "หัวหน้า คสช." หลัง "โอบาม่า" ปธน.สหรัฐ จับมือด้วย ชี้แค่ทำตามมารยาท

นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงภาพจับมือระหว่างพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กับนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐว่า งานเลี้ยงต้อนรับก็เดินเข้าไปจับมือกับเจ้าภาพแล้วถ่ายรูปคู่กันซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฎิบัติแค่นั้นเอง จากภาพนั้นเจ้าภาพจะยืนด้านฃ้ายและแขกผู้มาเยือนจะยืนด้านขวา ตอนเข้าพบและการเดินเข้าไปจับมือก็เข้าทีละคนก่อนงานเลี้ยง และแต่งตัวไม่เป็นทางการ ถอดไทค์กินเลี้ยงกัน แต่ที่เห็นมีข่าวนั้นสหรัฐเขามองว่าการประชุมระหว่างผู้นำอาเฃียนกับสหรัฐในครั้งนี้มีผู้นำอาเซียนบางประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ถูกเขามองว่าเป็นการรวมตัวของเหล่าผู้นำเผด็จการ ซึ่งปรากฎว่ารวมถึงนายกฯ ของไทยเข้าไปด้วย ตนรู้สึกไม่สบายใจ เพราะในสายตาคนอเมริกันนั้นเขาเห็นเราเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยมาโดยตลอด

และเมื่อครั้งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไปร่วมประชุมผู้นำเอเปคที่สหรัฐก็ได้รับเกียรติมากจากสหรัฐ และน.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ได้ใช้โอกาสนั้นเข้าพบหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีบารัค โอบาม่า ตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศก็ได้มีการหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีต่างประเทศ ทั้งนางฮิลลารี่ คลินตัน และนายจอนห์ แคร์รี่ เมื่อครั้งตนเดินทางไปประชุมที่สหรัฐอเมริกา

นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า ที่น่าเป็นห่วงมากก็คือ การปิดกั้นและละเมิดสิทธิเสรีภาพในไทย โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่พระถูกทหารออกมาปิดกั้นไม่ให้เข้าไปในบริเวณพุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ จนเป็นเหตุให้ฝ่ายสงฆ์ต้องมาช่วยกันขยับรถทหารที่มากีดขวางการสัญจร ถือได้ว่าเป็นการปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกโดยสันติในระบอบประชาธิปไตยในสายตาประชาคมโลกและพุทธศาสนิกชนทั้งโลกที่มีหัวใจประชาธิปไตย อยากจะฝากถึงหัวหน้าคสช.ว่า ต้องใช้ความระมัดระวังให้มากกับเรื่องที่อ่อนไหวและละเอียดอ่อนเช่นนี้ เพราะไทยเรายังไม่เป็นประชาธิปไตยในสายตาของอสหรัฐและยุโรป เราอาจจะเจอผลกระทบด้านต่างๆ ที่เขาจะมีมาตรการเพิ่มเติมขึ้นมาถ้าไทยเรายังไม่รีบกลับคืนสู่ประชาธิปไตยที่สากลให้การยอมรับ และยิ่งรัฐธรรมนูญที่กรธ.กำลังรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะอยู่ในขณะนี้ซึ่งมีท่าทีและแนวโน้มไม่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ยิ่งทำให้ไทยเราไม่ได้รับการยอมรับ การค้าและการลงทุนจะมีปัญหาในสายตานักลงทุนต่างชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้