แม่ทัพภาค4 สั่งจนท.อุดช่องโหว่ สกัดการก่อเหตุซ้ำ

แม่ทัพภาค4 สั่งจนท.อุดช่องโหว่ สกัดการก่อเหตุซ้ำ

"พล.ท.ปราการ" แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งอุดช่องโหว่ สกัดคนร้ายก่อเหตุซ้ำ พบระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นระเบิดบรรจุกระป๋องสเปรย์

ความคืบหน้าเหตุคนร้ายวางระเบิดป่วนพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงคาบเกี่ยวของคืนวันที่ 10 และ 11 ก.ค. 58 ที่ผ่านมา รวมทั้งสิ้น 8 จุด หลังจากตรวจสอบพบอีก 1 จุด ที่ไม่มีเหตุไฟไหม้ คือ ที่บริเวณภายในโกดังขายส่งสินค้า ซึ่งตั้งอยู่ ถ.บายพาส ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก ส่งผลทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 คน และได้รับบาดเจ็บ 8 คน รวมทั้งทรัพย์สินได้รับความเสียหายนั้น

ล่าสุดจากเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ทั้ง 3 จุด ที่ยังหลงเหลือจากตรวจไปแล้ว 5 จุด ของ พ.ต.ท.เนติธร วัตตธรรม หน.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พบว่า ส่วนใหญ่คนร้ายได้ประกอบระเบิดในลักษณะเดียวกันทั้งหมด

คือประกอบใส่ไว้ในกระป๋องสเปร์ที่ใช้บรรจุสีและยาฆ่าแมลง ซึ่งมีน้ำหนัก ประมาณ 1 ก.ก. จุดชนวนด้วยการตั้งเวลาด้วยนาฬิกาข้อมือแบบดิจิตอล แล้วนำไปซุกไว้บริเวณที่เป็นเชื้อเพลิงได้ง่าย คือ ละแวกกลุ่มสินค้าที่เป็นส่วนผสมของแอลกอฮอล์และถังทินเนอร์ และจากการประเมินคาดว่าระเบิดดังกล่าวมาจากแหล่งผลิตเดียวกัน ที่แจกจ่ายให้คนร้ายกลุ่มเดียวกันตระเวนก่อเหตุ

ส่วนด้านโครงสร้างของอาคารที่ถือว่าได้รับความเสียหายหนักสุดทั้ง 3 จุด คือ ที่ร้านแสงเจริญ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังของตลาดสดเก็นติ้ง ร้านสมชายอะหลั่นยนต์ ซึ่งตั้งอยู่ ถ.ประชาวิวัฒน์ และ หจก.อุปกรร์ก่อสร้างสุไหงโก-ลก ซึ่งตั้งอยู่ซอยดาร์ริงนั้น

นางสุชาดา พันธุ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุไหงโกลก กล่าวว่า จากการให้ช่างโยธาของเทศบาลมาตรวจสอบโดยเฉพาะที่ร้านสมชายอะไหล่ยนต์ในเบื้องต้น คาดว่าน่าจะใช้การไม่ได้ โดยในวันพรุ่งนี้จะให้ช่างโยธาใช้เครื่องมือทำการตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ แต่ในส่วนอาคาร หจก.อุปกรณ์ก่อสร้างสุไหงโกลกรวมทั้งร้านแสงเจริญนั้น อาคารแข็งแรงคาดว่าน่าจะใช้การได้ แต่ต้องรอให้ช่างโยธาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งเพื่อความมันคงแข็งแรง

สำหรับด้านการเปิดศูนย์เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั้น ทางศูนย์เยียวยาได้มอบเงินให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไปแล้วทั้งสิ้น 13 ราย คือ จ่ายเงินชดเชย 3 ศพที่เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและบาดเจ็บเล็กน้อย ยานพาหนะเสียหาย และบ้านเรือนได้รับความเสียหาย เป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านบาท

ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาค 4 และคณะ ได้เดินทางมายังศูนย์ปฏิบัติการ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อประชุมร่วมกับนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผวจ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่กองกำลัง 3 ฝ่าย รวมทั้งชุด อีโอดีและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เพื่อรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งความคืบหน้าทางด้านคดี

โดยมี พ.ท.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก ผบ.ฉก.นราธิวาส 36 เป็นตัวแทนบรรยายสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะการก่อเหตุใช้วัตถุระเบิดแบบและชนิดเดียวกัน ซึ่งเป้าหมายเป็นร้านค้าและจำหน่ายอุปกรณ์ที่มีขนาดใหญ่ จำพวกกลุ่มร้านค้าขายส่ง ที่มีผลต่อความเสียหายและสกัดกั้นต้นเพลิงยาก

โดย พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ย้ำในที่ประชุม ให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายนำเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นไว้เป็นบทเรียน ในการบูรณาการร่วมกันจัดทำแผนป้องกันเมือง โดยเฉพาะช่องโหว่ในจุดต่างๆ ควรที่จะมีการอุดรอยรั่ว เพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายวางแผนก่อเหตุซ้ำ ซึ่งจะสร้างความเสียหายต่อสภาวะเศรษฐกิจที่ต้องใช้เวลานานในการฟื้นฟู

รวมทั้งต้องรีบสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนชาวสุไหงโก-ลก ซึ่งทั้งชาวประเทศเพื่อนบ้านที่ไปมาหาสู่ในการค้าร่วมกันตามแนวชายแดนโดยเร็ว ก่อนที่แม่ทัพภาค 4 จะเดินทางไปดูความเสียหายยังจุดเกิดเหตุต่างๆ รวมทั้งเยี่ยมประชาชนที่อาศัยอยู่ในละแวกจุดเกิดเหตุก่อนที่จะเดินทางกลับ