ขับ'โจว หย่งคัง'สะท้อนอำนาจการเมือง'สี จิ้นผิง'

ขับ'โจว หย่งคัง'สะท้อนอำนาจการเมือง'สี จิ้นผิง'

ผู้สังเกตุการณ์ฯ ชี้การตัดสินใจจับกุมและขับ"โจว หย่งคัง" ออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นการกระทำอันกล้าหาญ

ผู้สังเกตุการณ์ทางการเมืองในจีนชี้ การตัดสินใจจับกุมและขับ"โจว หย่งคัง" ออกจากพรรคคอมมิวนิสต์ เป็นการกระทำอันกล้าหาญ และสะท้อนถึงอำนาจของประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในรอบหลายทศวรรษของประวัติศาสตร์การเมืองจีน

ทั้งนี้ คณะกรมการเมืองจีน หรือโปลิตบูโร ซึ่งเป็นคณะกรรมการกำหนดนโยบายของพรรคคอมมิวนิสต์จีน แถลงว่า การจับกุมเกิดขึ้น หลังจากที่ทางพรรคได้เริ่มต้นสอบสวนพฤติกรรมของนายโจว หนึ่งในนักการเมืองทรงอิทธิพลที่สุดของประเทศเมื่อทศวรรษที่แล้ว ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา และพบว่า นายโจว ละเมิดวินัยของพรรคอย่างร้ายแรง ด้วยการใช้ตำแหน่งหน้าที่ไปหาประโยชน์จากบุคคลอื่น ทั้งยังรับสินบนจำนวนมหาศาล ทั้งด้วยตัวเอง และผ่านทางครอบครัว

นอกจากนี้ ยังใช้อำนาจในทางมิชอบ เอื้อประโยชน์ให้กับญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง และภรรยาน้อย ในการทำธุรกิจ ส่งผลให้รัฐต้องขาดทุนอย่างมาก นอกเหนือจากเรื่องการนำความลับทั้งของพรรคและของประเทศออกไปเปิดเผย

ผู้เชี่ยวชาญด้านกฏหมายจีนจากฟอร์ดแฮม ลอว์ สคูล นายคาร์ล มินซ์เนอร์ ให้ความเห็นว่า การตั้งข้อกล่าวหานายโจวของประธานาธิบดีสี ถือเป็นการแหวกธรรมเนียมปฎิบัติที่มีมาช้านานของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่มักจะยกเว้นเจ้าหน้าที่ระดับสูงมากๆในพรรคคอมมิวนิสต์ ไม่ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดี หลังจากที่เกษียณจากตำแหน่งไปแล้ว

นายมินซ์เนอร์ กล่าวด้วยว่า การโค่นอำนาจนายโจว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในจีน สะท้อนให้เห็นถึงอำนาจอันมหาศาลของนายสี ในระบบการเมืองของจีนชนิดที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน นับตั้งแต่เริ่มยุคปฏิรูปประเทศ ในปลายปี 1970 ทั้งยังตอกย้ำว่า ขณะนี้เกมการเมืองในจีนได้เปลี่ยนไปแล้ว