'ดับบลิวอีเอฟ'เชิญประยุทธ์ร่วมเวที'ดาวอส'

ผู้บริหาร "เวิลด์อีโคโนมิค ฟอรั่ม" ส่งคำเชิญ "ประยุทธ์" ร่วมประชุม "ดับบลิวอีเอฟ" ที่เมืองดาวอส หลังเห็นไทยจริงจังแก้ปัญหาคอร์รัปชัน ด้าน "ปรีดิยาธร" ชี้เป็นโอกาสดีที่ไทยจะแสดงบทบาทในเวทีโลก พร้อมชี้แจงการปฏิรูปประเทศให้ทั่วโลกรับทราบ พร้อมเล็งจัด "ไทยไนท์" โชว์ศักยภาพธุรกิจไทย

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการหารือกับนายฟิลิป เรอสแลร์ กรรมการผู้จัดการ เวิลด์ อีโคโนมิค ฟอรั่ม หรือ ดับบลิวอีเอฟ ว่า กรรมการผู้จัดการใหญ่ของดับบลิวอีเอฟได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไปร่วมประชุมดับบลิวอีเอฟประจำปีที่เมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ที่จะจัดขึ้นในเดือน ม.ค. 2558 โดยดับบลิวอีเอฟเห็นว่า ขณะนี้ไทยได้ให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับการปราบปรามคอร์รัปชันในประเทศอย่างมาก

สำหรับการประชุมดับบลิวอีเอฟในครั้งนี้เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะหยิบยกเรื่องการปฏิรูปในทุกด้านของไทยมาชี้แจงให้ที่ประชุมรับทราบด้วย โดยมองว่าเป็นโอกาสอันดีที่ไทยจะมีส่วนร่วมและแสดงบทบาทในเวทีเศรษฐกิจโลกผ่านการประชุมประจำปี ดับบลิวอีเอฟ ซึ่งจะได้นำคำเชิญของ ดับบลิวอีเอฟ มากราบเรียนนายกรัฐมนตรีและแจ้งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทราบต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการหารือระหว่าง กรรมการผู้จัดการ ดับบลิวอีเอฟ และรองนายกรัฐมนตรีของไทย ทางกรรมการผู้จัดการของ ดับบลิวอีเอฟ ได้กล่าวถึงความสำคัญของการประชุมโดยระบุว่าเป็นเวทีที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับระหว่างประเทศ โดยที่ผ่านมามีผู้นำจากประเทศกลุ่ม G-8 ผู้บริหารระดับสูงภาคธุรกิจ องค์การระหว่างประเทศและนักวิชาการจากทั่วโลกเข้าร่วม

โดยในการประชุมครั้งนี้จะมีการหารือกันในประเด็นที่ไทยให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ประเด็นการเพิ่มการลงทุนในสาธารณูปโภค ความมั่นคงทางอาหาร เทคโนโลยีดีจิทัลสาธารณะ รวมไปถึงการขจัดการคอร์รัปชันที่ไทยกำลังให้ความสำคัญอยู่ในขณะนี้ กรรมการผู้จัดการ ดับบลิวอีเอฟ เห็นว่า เวทีการประชุมนี้จะเป็นโอกาสของไทยในการแสดงวิสัยทัศน์ทางด้านเศรษฐกิจและให้ข้อมูล เกี่ยวกับสถานะทางการเมือง แผนปฏิรูปของไทยและสร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเสถียรภาพทางด้านการเมืองและศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทยได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ในการประชุมดังกล่าว ไทยสนใจจะจัด Thai Night ซึ่งจะช่องทางสำคัญในการส่งเสริมภาพลักษณ์ของไทยและเป็นโอกาสพิเศษที่บริษัทชั้นนำของไทยจะสามารถนำเสนอผลงานต่อผู้บริหารระดับสูงจากทั่วโลกกว่า 1,000 คนจากทั่วโลกที่มาร่วมงานได้ โดยทาง ดับบลิวอีเอฟ จึงหวังว่าไทยจะ ดำเนินการส่งเสริมและกระตุ้นให้บริษัทชั้นนำอื่นๆ ของไทยให้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย