'ทุนธนชาต'ไตรมาส3กำไรลด

'ทุนธนชาต'ไตรมาส3กำไรลด

"ทุนธนชาต" เผยกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปีนี้ ลดลง 2.67% ผลจากธุรกิจบริหารสินทรัพย์ที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

นายศุภเดช พูนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลประกอบการในไตรมาส 3 ปี 2557 ว่า กลุ่มธนชาตมีกำไรสุทธิจำนวน 2,557 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66 ล้านบาท หรือ 2.65% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 1,202 ล้านบาท ลดลง 33 ล้านบาท หรือ 2.67% จากไตรมาสก่อน สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวลงของธุรกิจบริหารสินทรัพย์

ธุรกิจธนาคาร ยังคงเติบโตได้ดี แม้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวลดลงจากการหดตัวของสินเชื่อเช่าซื้อ และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นตามการปรับโครงสร้างเงินฝากและเงินกู้ยืมให้มีระยะเวลายาวขึ้น แต่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น จากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น ตามภาวะตลาดทุนที่ดีขึ้น และค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองลดลง 13.06% ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีและลดความกังวลต่อคุณภาพสินทรัพย์ โดยคาดว่าสินเชื่อด้อยคุณภาพจะปรับลดลงได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาสต่อๆ ไป

ขณะที่ นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปีนี้ ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของธนาคารจำนวน 2,428 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 81 ล้านบาท หรือ 3.45% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นผลมาจากการเติบโตของสินเชื่อประเภทอื่น ซึ่งทดแทนสินเชื่อรถยนต์ที่ชะลอตัวตามภาวะตลาดยานยนต์ที่ยังไม่ฟื้นตัว การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและการบริหารสำรองอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ธนาคารได้มุ่งพัฒนาสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันโดยการสานต่อการพัฒนาศักยภาพของระบบโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้าและพัฒนาการบริการให้ดีที่สุด โดยธนาคารได้เริ่มดำเนินการใช้ระบบงานอนุมัติสินเชื่อ (LOS SYSTEM) ซึ่งจะช่วยให้การอนุมัติสินเชื่อมีความถูกต้อง รวดเร็ว และลดความเสี่ยงการเกิดสินเชื่อด้อยคุณภาพในอนาคต

"สำหรับความเพียงพอของเงินกองทุน ธนาคารมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งของเงินกองทุนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2557 อัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 15.35% และเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 มากกว่า 10%"

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนก.ย.ที่ผ่านมา บริษัทมีเงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับ 772,835 ล้านบาท ลดลง 19,354 ล้านบาท หรือ 2.44% จากสิ้นปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นการลดลงของสินเชื่อเช่าซื้อตามภาวะตลาดรถยนต์ที่ชะลอตัวลง โดยสินเชื่อเช่าซื้อลดลง 5.99% ขณะที่สินเชื่อธุรกิจและเอสเอ็มอี รวมถึงสินเชื่อบ้านเพิ่มขึ้น 2.03% จากการเพิ่มการกระจายตัวไปในสินเชื่อด้านอื่นๆ

สำหรับเงินรับฝากในสิ้นเดือนก.ย. อยู่ที่ 692,546 ล้านบาท ลดลง 3.72% จากสิ้นปีก่อนที่มี 715,931 ล้านบาท ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลอยู่ที่ 37,470 ล้านบาท ลดลง 70 ล้านบาท หรือลดลง 0.19% จากสิ้นปีก่อน ส่งผลให้เอ็นพีแอลต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 4.66%

ส่วนการเคลื่อนไหวราคาหุ้นทุนธนชาตวานนี้ (20 ต.ค.) ปิดตลาดที่ระดับ 35.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.71% โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 25.55 ล้านบาท