มิตซุยเพิ่มหุ้นน้ำตาลฯแปลงสิทธิวอร์แรนท์ก้อนโต

มิตซุยเพิ่มหุ้นน้ำตาลฯแปลงสิทธิวอร์แรนท์ก้อนโต

"กลุ่มมิตซุย"มั่นใจศักยภาพน้ำตาลครบุรี ใช้สิทธิแปลงวอร์แรนท์ก้อนโดต ช่วยให้เงินลงทุนเพิ่ม635ล้านบาท

ส่งผลเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นเป็น 16.7% "ทัศน์ วนากรกุล" เตรียมนำเงินที่ได้กว่า 635 ล้านบาท เดินหน้าลุงทนโครงการ "ชูการ์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์" มูลค่าลงทุนกว่า 4,200 ล้านบาทตามแผน ระบุช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต-ลดต้นทุน และเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน

นายทัศน์ วนากรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) หรือ KBS เปิดเผยว่า กลุ่มบริษัทมิตซุยจากประเทศญี่ปุ่น ได้แก่ Mitsui & CO.,LTD. และ Mitsui Sugar CO. LTD. ใช้สิทธิแปลงใบสำคัญแสดงสิทธิรวม 50 ล้านหน่วย แปลงเป็นหุ้นสามัญในสัดส่วน 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ในราคาใช้สิทธิ 12.70 บาท ทำให้กลุ่มน้ำตาลครบุรี จะมีเงินทุนเพิ่มเติม 635 ล้านบาท เพื่อนำไปใช้ในการลงทุนในโครงการขยายงานของกลุ่มน้ำตาลครบุรี

"การที่ผู้ถือหุ้นกลุ่มมิตซุยใช้สิทธิ์แปลงวอร์แรนท์เป็นหุ้นสามัญเต็มทั้งจำนวนในราคา 12.70 บาทต่อหุ้น แม้วอร์แรนท์ดังกล่าวจะอยู่ในสถานะ OUT-OF-THE MONEY แสดงถึงความเชื่อมั่นของกลุ่มมิตซุยที่มีต่อบริษัท บริษัทจะใช้เงินทุน 635 ล้านบาท ที่ได้จากการใช้สิทธิครั้งนี้ เพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนหลักของบริษัท เพื่อมุ่งสู่การเป็นชูการ์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์ อย่างสมบูรณ์"

บริษัทอยู่ระหว่างการขยายการลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้แกร่งยิ่งขึ้น โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้โรงงานของบริษัทเป็น "ชูการ์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์" ที่สมบูรณ์ภายในปี 2558/59 หรืออย่างช้าในปี 2559/60 โดยบริษัทจะลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตอีก 12,000 ตันอ้อย/วัน หรือเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 50% ของกำลังการผลิตปัจจุบัน

อีกทั้งจะก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลกำลังการผลิต 200,000 ลิตรต่อวัน ทั้งสองโครงการจะต้องใช้เงินลงทุนรวม 4,291.7 ล้านบาท โดยบริษัทได้รับการสนับสนุนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเป็นแหล่งเงินทุนหลักของโครงการ 3,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินงานของกลุ่มบริษัท รวมถึงเงินเพิ่มทุนที่ได้จากการใช้สิทธิของกลุ่มมิตซุยในครั้งนี้

กลุ่มมิตซุย เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของน้ำตาลครบุรี ตั้งแต่เดือนก.พ. 2556 และมีสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจต่อกันโดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาธุรกิจน้ำตาลและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเสริมศักยภาพและมูลค่าเพิ่มให้น้ำตาลครบุรี ในหลายๆ ด้าน เช่น การซื้อขายน้ำตาลระหว่างกัน เพื่อส่งเสริมจุดแข็งในการเป็นผู้นำในตลาดน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ของน้ำตาลครบุรี ความร่วมมือเพื่อพัฒนาเทคนิคและประสิทธิภาพการผลิตของน้ำตาลครบุรี และการร่วมมือด้านการตลาดในการจำหน่ายน้ำตาลคุณภาพสูงในตลาดต่างประเทศ

ที่ผ่านมา การทำงานร่วมกันระหว่างน้ำตาลครบุรี และกลุ่มมิตซุยเป็นไปได้ด้วยดี มีการพัฒนาด้านต่างๆ เป็นลำดับขั้น ถือว่าบรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ การใช้สิทธิครั้งนี้ จะทำให้กลุ่มมิตซุยเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นจาก 9.1% เป็น 16.7% เป็นการยืนยันความสัมพันธ์ของกลุ่มน้ำตาลครบุรี และกลุ่มมิตซุยที่แน่บแน่นยิ่งขึ้น

"ทั้งสองกลุ่มจะทำงานใกล้ชิดยิ่งขึ้น เพื่อไปสู่จุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้ โดยน้ำตาลครบุรี มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม อ้อย น้ำตาล และชีวพลังงาน การมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่างกลุ่มมิตซุย จะสนับสนุนสร้างความความได้เปรียบเพิ่มเติมให้กลุ่มน้ำตาลครบุรี โดยเฉพาะการขยายตลาดในต่างประเทศหลังจากมีการเปิดเออีซี ในปี 2558" นายทัศน์กล่าว