ผบ.ทบ.มอบการบ้าน5ข้อกลับไปคิดถกอีกพรุ่งนี้

ผบ.ทบ.มอบการบ้าน5ข้อกลับไปคิดถกอีกพรุ่งนี้

"ประยุทธ์"ถก7ฝ่ายชื่นมื่น แต่ไร้ข้อยุติ มอบการบ้าน 5 ข้อกลับไปคิด รอถกอีกครั้งพรุ่งนี้ "ปฏิรูป-เลือกตั้ง-นายกฯคนกลาง"แนวทางหลักแก้ปัญหา

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (กอ.รส.) พร้อมด้วย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะคณะที่ปรึกษา กอ.รส. โดยมี พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ในฐานะตัวแทนของ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่ขณะนี้ยังติดภารกิจที่ต่างประเทศ ได้เชิญตัวแทนคณะบุคคลในภาคส่วนต่างๆ ที่บทบาทในการขับเคลื่อนสถานการณ์ภายในประเทศเพื่อประชุมหารือแก้ไขปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ประกอบด้วย 7 องค์กร 1.รัฐบาล นำโดยนายชัยเกษม นิติสิริ รักษาการ รมว.ยุติธรรม นายวราเทพ รัตนากร รักษาการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงษ์ไพศาล รักษาการ รมว.พลังงาน นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รักษาการ รมช.ศึกษาธิการ ขณะที่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ติดภารกิจหารือกับ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่กระทรวงพาณิชย์ 2.ฝ่ายวุฒิสภา นำโดย นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ว่าที่ประธานวุฒิสภา นายพีระศักดิ์ พอจิต ว่าที่รองประธานวุฒิสภาคนที่ 2

3.ฝ่ายคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำโดย นายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. นายประวิช รัตนเพียร นายบุญทรง น้อยโสภณ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร คณะกรรมการ และ นายภุชงค์ นุตาวงศ์​ เลขาธิการ กกต. 4.ฝ่ายพรรคเพื่อไทย นำโดย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รองหัวหน้าพรรค นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรค นายพร้อมพงษ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค นายชูศักดิ์ ศิรินิล ฝ่ายกฎหมายพรรค และ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กรรมการยุทธศาสตร์พรรค 5.ฝ่ายพรรคประชาธิปัตย์ นำโดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายจุติ ไกรกฤษ์ นายจุรินทร์ ลักษณ์วิศิษฏ์ นายนิพิธ อินทรสมบัติ นายชำนิ ศักดิเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรค และ 6.ฝ่ายแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษา นายวีระกานต์ มุสิกพงษ์ อดีต ประธาน นปช. และ นายก่อแก้ว พิกุลทอง แกนนำ นปช. และ 7.ฝ่ายคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ และนายสมศักดิ์ โกศัยสุข ทั้งนี้การประชุมใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที

หลังจากนั้น เวลา 17.00 น. พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก พร้อมด้วย พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รอโฆษกกองทัพบก และ พ.อ.วีระชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกกองทัพบก ได้ร่วมกันแถลงข่าวว่า การประชุมในวันนี้ โดยบรรยากาศการพูดคุยกันเป็นไปด้วยดี และวันนี้การพูดคุยกันยังไม่ได้จบในวันนี้ แต่ได้มีข้อเสนอ 5 ข้อในที่ประชุมมีความคิดเห็นตรงกัน แต่เป็นมารยาทของการพูดคุยกัน ถ้าหากยังไม่มีข้อสรุปหรือมีข้อยุติก็ไม่ควรที่คนใดจะนำรายละเอียดการพูดคุยกันมาเปิดเผยต่อสาธารณะชน เพราะห่วงว่าหากมีการพูดไปแล้วอาจจะกลายเป็นประเด็นถูกวิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เพราะผลการประชุมจะออกมาในทิศทางใดทิศทางหนึ่งที่นอกเหนือจากนี้ก็เป็นได้

"ผอ.รส.ทำหน้าที่เป็นผู้ฟัง และเป็นโอกาสให้แต่ละฝ่ายได้พูดและแสดงความคิดเห็น ซึ่งต่างฝ่ายต่างรับฟังซึ่งกันและกันถือเป็นบรรยากาศที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกจุดไหนที่คิดเห็นไม่ตรงกันก็สามารถปรับความเห็นให้ตรงกันได้ สิ่งไหนที่เป็นปัญหาอยู่ก็ให้กลับไปคิดและทบทวน อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมเห็นตรงกันว่าหลังจากที่ประกาศกฎอัยการศึกแล้ว บรรยากาศของประเทศดีขึ้นทุกฝ่ายได้กลับไปตั้งสติ และทบทวนตัวเองมากขึ้น ซึ่งทุกฝ่ายพอใจที่ได้แสดงออก และแสดงความคิดเห็น และพอใจที่ได้พบปะกันในวันนี้ เพื่อที่จะได้มีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ทุกฝ่ายรับฟังซึ่งกันและกันเข้าใจเหตุผลของแต่ละฝ่าย บรรยากาศเป็นแบบฉันท์มิตรพี่น้องมีเสียงหัวเราะไม่มีท่าที่บึ้งตึง แม้แต่ละฝ่ายจะมีข้อเสนอที่แตกต่างกันก็ตาม วันนี้ถือว่าการประชุมไม่มีข้อยุติใดๆ เป็นการแสดงความคิดเห็นจุดยืนของแต่ละฝ่าย ส่วนเรื่องที่ติดขัดก็ให้กลับไปทบทวน และหาแนวทางแก้ไขปัญหาใหม่ในวันพรุ่งนี้" ทีมงานโฆษกกองทัพบก กล่าว

ทีมงานโฆษกกองทัพบก เปิดเผยต่อว่า สิ่งที่ทั้ง 7 ฝ่ายเห็นพ้องต้องกันคืออยากมีข้อสรุปโดยเร็ว และอยากนำข้อสรุปทั้งหมดไปแก้ไขปัญหาของประเทศ เพราะประชาชนกำลังรอคอยอยู่ว่าประเทศจะเดินทางไปในทิศทางไหน และเห็นตรงกันควรคืนความสุขให้กับประชาชนโดยเร็ว จึงมีการแจกการบ้านเพื่อให้ทุกฝ่ายกลับไปคิดทบทวนกับปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศ ส่วนการบ้านทั้ง 5 ข้อนั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่เป็นการนำข้อเสนอของแต่ละฝ่ายกลับไปคิด

เมื่อถามว่า จะได้ข้อสรุปอย่างไรเมื่อแต่ละฝ่ายยึดมั่นในแนวทางของตัวเอง ทีมงานโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เป็นการแสดงความคิดเห็นเฉยๆ เป็นมุมมองซึ่งแต่ละท่านมีมุมมองทางด้านกฎหมาย เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เสนอแนวคิดอย่างไรบ้าง ทีมงานโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้เปิดทุกส่วนเปิดใจแสดงความคิดแนวทางของแต่ละฝ่าย และทุกฝ่ายก็รับทราบว่าแต่ละฝ่ายมีความคิดเห็นแนวทางว่าเป็นอย่างไรถือเป็นข้อมูลให้กับทุกฝ่ายเพื่อนำกลับไปถกแถลงกลับกลุ่มของตัวเองว่ามีความคิดเห็นในแต่ละข้อเป็นอย่างไร กลุ่มของตัวเองคิดแบบนั้นหรือไม่ ดังนั้นจะต้องให้เวลาเพราะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่ง ผบ.ทบ.ได้คาดหวังว่าสิ่งที่ทุกคนรับทราบเหมือนกันจะเป็นบรรทัดฐาน เป็นข้อมูลให้นำไปตัดสินใจ เพื่อที่จะหาทางออกให้กับประเทศ การให้เวลากลับไปทบทวนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และพรุ่งนี้ก็มาคุยกันใหม่ และคงจะมีความคืบหน้าในรายละเอียดมากกว่านี้ รวมถึงการบ้านทั้ง 5 ข้อ จะได้ตกผลึก

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งอยู่ในหัวข้อของการพูดคุยหรือไม่ ทีมงานโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า ทุกเรื่องที่เป็นความคาดหวังของประชาชนถูกนำไปบรรจุใน 5 ข้อ แล้วนำกลับไปคิด ทั้งนี้การพบปะกันของฝ่ายต่างๆ เป็นนิมิตรหมายที่ดี เพราะหลายๆ ท่านที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมาก่อน เคยแต่พูดถึงกันผ่านสื่อ เมื่อนำเสนอไปแล้วก็อาจจะมีความคลาดเคลื่อนจึงทำให้เกิดความไม่เข้าใจ แต่วันนี้มาคุยกัน มาเห็นหน้ากันก็ทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจกันมากขึ้น และการเชิญมาในวันนี้ไม่ได้ใช้อำนาจของการประกาศกฎอัยการศึก แต่เป็นการเชิญมาหารือในฐานนะที่เป็นคนไทยด้วยกัน เพราะทุกคนได้สะท้อนให้เห็นถึงความรักชาติ รักบ้านเมือง ซึ่งในที่ประชุมทุกฝ่ายไม่ได้แสดงท่าที่ยอมรับหรือปฏิเสธการแสดงความคิดเห็นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าเป็นการพบกันครั้งแรกและถือเป็นการเริ่มต้น และทุกฝ่ายก็พอใจที่ได้ร่วมกิจกรรมในวันนี้ และ พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้แต่ละฝ่ายแสดงเหตุผล แต่ท่านไม่ได้เสนอหรือปฏิเสธแนวคิดของใคร ท่านรับฟัง และแสดงออกว่าเข้าใจความคิดเห็นของแต่ละฝ่าย ส่วนการหารือกันต่อในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ค.) ถือเป็นข้อเสนอของผู้ที่เข้าร่วมประชุม และ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เห็นด้วย

เมื่อถามว่า ที่ประชุมมีสิ่งใดที่สามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรมบ้าง ทีมงานโฆษกกองทัพบก กล่าวว่า มีอยู่สองอย่าง ฝ่ายหนึ่งแสดงความคิดเห็น ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้ตอบโต้ ซึ่งต่างจากที่ปรากฎผ่านสื่อ และสองมีรอยยิ้ม เมื่อถามว่า ประเทศไทยยังปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอยู่หรือไม่ หรือการเผชิญหน้าจะหมดไปหรือไม่ ทีมงานโฆษกกองทัพบก กล่าวยืนยันว่า ประเทศไทยยังปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย เพียงแต่มีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกัน จึงต้องไปหาจุดร่วมกันให้ได้ และยืนยันว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากที่ขจัดปัญหาความข้ดแย้งหมดไปแล้ว

มีรายงานว่าที่ประชุม พล.อ.ประยุทธ์ ได้เสนอต่อผู้ที่เข้าร่วมประชุมที่ให้กลับไปทำการบ้าน 5 ข้อ คือ 1.แนวทางการเลือกตั้งมีความคิดเห็นอย่างไร จะต้องใช้ระยะเวลา 6-9 เดือน 2.แนวทางของรัฐบาลคนกลางที่ทำหน้าที่รัฐบาลรักษาการ หรือ จะเอานายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจเต็ม 3.การปฏิรูปประเทศตามที่สังคมเรียกร้องจะเป็นรูปแบบใด และ 4.แนวทางของผู้ชุมนุมทั้งสองฝ่ายจะต้องตกลงกันอย่างไร เพื่อที่ไม่ให้เกิดการเผชิญว่าจะสลายการชุมนุมหรือจะให้อยู่ และ 5.มาตรการรักษาความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน และความมั่นคงทางงเศรษฐกิจ โดยในวันพรุ่งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะนัดประชุมอีกครั้งในเวลา 14.00 น.ที่สโมสรทหารบก วิภาดี ทั้งนี้ภายหลังประชุมเสร็จสิ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่เข้ามาร่วมประชุมที่ตนได้เชิญมาเพื่อเข้ามมาร่วมประเมินสถานการณ์และหาทางออก ซึ่งหลายฝ่ายอาจจะมองว่าทหารประกาศกฎอัยการศึก และจะต้องใช้อาวุธมาดำเนินการ ซึ่งหากใช้อาวุธปัญหาต่างๆ จะไม่ได้ข้อยุติ แม้ว่ากองทัพจะมีอาวุธ หากมีการรบก็จะต้องชนะอยู่แล้ว ฉะนั้นอยากเปิดโอกาสให้ทุกฝ่ายได้แสดงความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติ อยากให้ทุกอย่างยุติ อย่าให้ทหารต้องออกทำอะไรเลย