'ยิ่งลักษณ์-ถวิล'ให้การศาลรธน.

'ยิ่งลักษณ์-ถวิล'ให้การศาลรธน.

เปิดคำให้การ "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร-ถวิล" แจงปมโยกย้ายเลขาฯ สมช.ต่อศาลรัฐธรรมนูญ

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวตอนหนึ่งระหว่างให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญในกรณีโยกย้ายนาย ถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่ง เลขาฯสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. ว่า ได้มอบอำนาจให้รองนายกฯ และรัฐมนตรี ในการกำหนดและพิจารณาบุคลากร ซึ่งผู้รับมอบอำนาจเข้าใจในการกำหนดแผนงานที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา ได้มอบให้ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ดูแลสมช. ส่วน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ ดูแลสำนักนายกรัฐมนตรี

"ดิฉันไม่ได้ก้าวก่ายหรือแทรกแซง ครม.ต้องใช้ดุลยพินิจในการบริหารแผ่นดิน เพื่อประโยชน์สูงสุด ไม่ได้คาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้า หรือวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน แต่คำนึงประโยชน์สูงสุดของประเทศ ไม่ได้คำนึงถึงความเป็นเครือญาติ ด้าน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้หย่าขาดกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ แล้วด้วย จึงพิสูจน์ได้ว่า พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ จะหมดอายุราชการแล้ว ก็ไม่ได้มาอยู่ในครม.ของดิฉันใดๆ การโยกย้ายก็ไม่ได้เร่งรีบ แต่การบริหารราชการเราต้องเร่งมือในการปฏิบัติ หัวหน้าส่วนราชการมีความสำคัญในการปฏิบัติ ก็ต้องมีผู้รับผิดชอบในการบริหาร ดิฉันไม่ได้รับประโยชน์ในการแต่งตั้งราชการกระทรวงใดๆ ”

นายไพบูลย์ นิติตะวัน ผู้ร้อง ถามว่าการที่ได้มีในบันทึกถ้อยคำว่าการเป็นรัฐมนตรีของข้าพเจ้าต้องสิ้นลงหลังยุบสภา จะให้สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ 182 อีก นางสาวยิ่งลักษณ์ ตอบว่า "ได้ประกาศยุบสภาไปแล้ว คืนอำนาจให้ประชาชน จึงไม่มีสถานะเป็นรัฐมนตรีในครม.ปัจจุบันแล้ว"

นายไพบูลย์ ซักอีกว่า รัฐธรรมนูญมาตรา 181 ครม.จะต้องรักษาการอยู่ในตำแหน่งนายกฯ ต่อไป นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "ขอเรียนว่าการยุบสภา นายกฯ ได้พ้นจากครม.ชุดปัจจุบันแล้ว แต่รัฐธรรมนูญกำหนดว่าการบริหารราชการแผ่นดิน ไม่ได้เป็นครม.ชุดปัจจุบันแล้ว"

นายจรูญ อินทจาร ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ถามว่า ในการโยกย้ายที่ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ไปเป็นเลขาฯ สมช. ดูแลความมั่นคง แต่ทำไมย้ายไปเป็นปลัดกระทรวงคมนาคม นายกฯ ตอบว่า "เรื่องนี้เป็นดุลพินิจของ พล.ต.ท.โกวิท ในการโยกย้ายทุกครั้งที่มีการเสนอแต่งตั้งโยกย้ายไม่ได้มีการพูดถึงตำแหน่งข้างหน้า ส่วนการย้ายไปเป็นปลัดคมนาคม เกิดจากการทาบทามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ซึ่งก็ให้ดุลพินิจของรัฐมนตรี เป็นการโยกย้ายตามฤดูกาล ดิฉันไม่ทราบถึงอนาคตข้างหน้าว่าตำแหน่งคมนาคมจะหมดลงเมื่อไหร่"

นายจรูญ ถามว่า เกณฑ์ในการตัดสินใจการย้าย พล.ต.อ.วิเชียร มาดำรงตำแหน่งเลขาฯ สมช.เป็นอย่างไร นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า "อยู่ในดุลพินิจของ พล.ต.อ.โกวิท ได้พิจารณาแล้ว ดิฉันได้ทราบไว้ล่วงหน้าว่า พล.ต.ท.โกวิท ได้ทาบทามแล้ว คุ้นเคยกัน เคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชามาดูแลความมั่นคง ตามนโยบายที่แถลงไว้ในรัฐสภา และมีเรื่องความไว้วางใจด้วยในการพิจารณา เพื่อให้งานบรรลุผล ซึ่ง พล.ต.อ.โกวิท เรียนว่า ที่ขอย้ายเพราะนายถวิล เคยร่วมงานกับ ศอฉ. ซึ่งเป็นห่วงในเรื่องต่างๆ ขณะนั้นมีความรุนแรง มีคนเสียชีวิต ซึ่งต้องพิจารณาเรื่องนี้ด้วย การที่ใครจะมาเป็น สมช. ก็ต้องพิจารณาในเรื่องความไว้วางใจด้วย ส่วนตัวไม่มีอำนาจในการตัดสินใจเรื่องโยกย้ายแต่อย่างใด เป็นเพียงผู้ลงนามเสนอเข้า ครม.เท่านั้น"

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชี้แจงด้วยว่า ได้ทราบจาก พล.ต.ท.โกวิท ว่า พล.ต.อ.วิเชียร ก็มีความสมัครใจในการย้ายมาเป็น เลขาฯ สมช. ถือว่าการสมัครใจแล้วไม่ว่าจะขู่เข็ญอย่างไรก็คงทำไม่ได้ โดยพล.ต.ท.โกวิท ก็เคยบอกว่าโดนโยกย้ายในสมัยองคมนตรี ซึ่งนำไปสู่การร้องศาลปกครองในที่สุด

นายนุรักษ์ มาประณีต ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถามว่า หนังสือเสนอย้ายนายถวิล มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอย่างไร นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ขั้นตอนเป็นเรื่องฝ่ายปฏิบัติที่รองนายกฯ ดำเนินการ แต่การโยกย้ายครั้งนี้อยู่ในช่วงฤดูกาลโยกย้ายปกติ

นายนุรักษ์ ซักว่า การโยกย้ายเป็นอำนาจหน้าที่ตามที่แถลงไว้ในรัฐสภา เป็นการเร่งด่วน เป็นนโยบายอย่างไรที่ต้องย้ายเร่งด่วน นางสาวยิ่งลักษณ์ ตอบว่า "การโยกย้ายเป็นไปตามฤดูกาล และเราเห็นว่าทุกตำแหน่งมีความสำคัญ ในปีแรกเรามี 16 นโยบาย พร้อมทั้งประสบกับปัญหาอุทกภัย เราจึงต้องเร่งนำนโยบายเหล่านี้ไปปฏิบัติ ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ต้องรับนโยบายไปปฏิบัติ"

นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ถามว่า ในฐานะนายกฯ ในการบริหารราชการแผ่นดิน ได้มีการระมัดระวังในการพิจารณาในเรื่องเครือญาติ ถึงแม้จะไม่นามสกุลเดียวกัน นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าวว่า ในการบริหารราชการแผ่นดิน ยึดหลักประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการทุกคน ซึ่งแทรกแซงไม่ได้ การพิจารณา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ นึกถึงความอาวุโส ผลงาน ปราบปรามยาเสพติด ขณะเดียวกันนโยบายปราบปรามยาเสพติด เป็นนโยบายเร่งด่วน

"ขณะที่เสนอไม่ได้มองความเป็นญาติ มองในเรื่องความเหมาะสม ผลงาน และมติกตช. ก็เห็นชอบโดยเอกฉันท์ พล.ต.อ.วิเชียร ก็เห็นชอบด้วย ถึงแม้ดิฉันจะเสนอตำแหน่ง ผบ.ตร. แต่ถ้าคณะกรรมการกตช. ไม่เห็นด้วย ก็ตกไป เช่นเดียวกับสมัย อภิสิทธิ์ ที่เสนอ พล.ต.อ.ประทีบ ตันประเสริฐ เป็นผบ.ตร. แต่กตช.ไม่เห็นด้วยก็ตกไป นอกจากนี้ดิฉันได้แต่งตั้ง พล.อ.อักษรา เกิดผล เป็นเสนาธิการทหารบก ถึงแม้พ่อ พล.อ.สายหยุด เกิดผล จะเห็นทางการเมืองแตกต่างกัน" นางสาวยิ่งลักษณ์ กล่าว

นายถวิล ชี้แจงต่อศาลว่า เหตุผลที่แท้จริงในการย้ายตนออกจากตำแหน่ง เรื่องมาจาก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพราะก่อนที่จะมีมติครม.โอนย้ายตน มีเรื่องของ สตช. โดย ร.ต.อ.เฉลิม ออกมาพูดเรื่องบ่อนการพนัน ซึ่งมีความบกพร่องของ พล.ต.อ.วิเชียร ซึ่งดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร.ที่ปล่อยให้มีบ่อนการพนัน และมีข่าวออกมาบ่อยครั้งระยะเดือนส.ค.2554 ว่ามีการบีบบังคับให้ พล.ต.อ.วิเชียร ได้ลุกขึ้นออกจากตำแหน่ง

"พล.ต.อ.วิเชียร เคยพูดกับผมตอนที่มีข่าวจะย้ายมา สมช. ว่าท่านไม่มาตำแหน่งที่ผม ขอให้ผมสบายใจได้ ท่านใช้คำว่าพี่ถวิลสบายใจได้ ผมไม่มาสมช. ผมจะต่อสู้ที่สตช. ผมก็บอกว่าดีแล้ว ผมไม่เคยเปิดเผยข้อมูลที่ใดมาก่อน"

นายถวิล กล่าวอีกว่า เมื่อจะทำให้ตำแหน่งที่สตช.ว่างลง จึงต้องเอา พล.ต.อ.วิเชียร ออก จึงมาลงที่ตน เหตุที่ย้ายตนออกเพื่อรองรับ พล.ต.อ.วิเชียร ก่อนแต่งตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ อีกทั้งรองนายกฯ ที่กำกับดูแลสตช. ก็บอกชัดเจนว่าไม่ไว้ใจตน เพราะทำงานในศอฉ.ในช่วงปี 2552-2553 ซึ่งตนเรียนว่าอยู่ในโครงสร้างตามกฎหมาย

ทนายนางสาวยิ่งลักษณ์ ถามว่า ตอนย้าย พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา อดีตเลขาธิการสมช. คุณถวิลดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสมช. ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ใช่หรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า "ใช่ครับ แต่เหตุผลที่ย้าย พล.ท.สุรพล ผมไม่ทราบ ท่านนายกฯ ย้ายผม ตอนย้าย พล.ท.สุรพล ผมจำได้ว่าย้ายประมาณเดือนก.ค. ซึ่งรัฐบาลอภิสิทธิ์ เข้ามาปี 2551 ให้ พล.ท.สุรพล ทำงานมา 8-9 เดือนแล้ว”

ทนายนางสาวยิ่งลักษณ์ ซักว่า เคยขึ้นเวที กปปส.หลายครั้ง นายถวิล กล่าวว่า "ถูกต้อง" ทนายนางสาวยิ่งลักษณ์ ถามว่า ตอนขึ้นเวที กปปส. ได้บอกว่าให้มวลชนไปขัดขวางการเลือกตั้ง นายถวิล กล่าวว่า "ผมจำได้ไม่เคยพูดให้ขัดขวางการเลือกตั้ง"

ทนายถามว่า ในศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยอำนาจถูกผู้ร้องว่ามีอำนาจโยกย้ายได้ ยกเว้นอย่างเดียวเรื่องดุลยพินิจ นายถวิล กล่าวว่า “ศาลปกครองวินิจฉัย แต่การใช้ดุลยพินิจไม่ชอบ มีข้อเท็จจริงที่สะท้อนให้เห็นว่าเร่งรีบดำเนินการ การย้ายต่างหน่วยต่างกรมต้องให้ความยินยอมกันก่อน ระหว่างหน่วยที่ให้โอนและหน่วยที่รับโอน เลขาธิการนายกฯ มีหนังสือลงวันที่ 4 ก.ย. 2554 มีไปถึงหน่วยที่กำกับดูแลผมอยู่ ซึ่งได้ให้ข้อมูลว่ามีตำแหน่งพร้อมจะรับโอน และรัฐมนตรีที่กำกับดูแลสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว แต่ปรากฏว่ารัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ดูแลได้ให้ความเห็นชอบในวันที่ 5 ก.ย. 2554 ซึ่งเท่ากับว่ารัฐมนตรีที่กำกับดูแลหน่วยที่รับโอนยังไม่ได้เห็นชอบ ซึ่งไม่สอดคล้องกันระหว่างหน่วยที่โอนและหน่วยรับโอน เป็นการปกติปิดข้อมูลบางอย่าง”

ทนายนางสาวยิ่งลักษณ์ ถามว่า ฝ่ายบริหารต้องรับผิดชอบนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา การโยกย้ายข้าราชการความไว้วางใจกับความสามารถ ฝ่ายบริหารจะต้องแยกจากกัน คนที่ไว้วางใจควรอยู่ในตำแหน่งเห็นด้วยหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า "ผมไม่เห็นด้วย"

ทนายถามว่าพยานเบิกความทั้งหมดดูแล้วเป็นสาระสำคัญในคดี เหตุใดจึงไม่ให้การกับศาลปกครอง นายถวิล กล่าวว่า น้ำหนักของตนที่ศาลปกครองคือ กรณีที่นายกฯ ไม่ใช้วิธีการที่กฎหมายกำหนด กระบวนการต่อสู้ของตนรับผิดชอบแค่นี้ ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องสตช. ตนต่อสู้ในประเด็นที่โยกย้ายไม่เป็นธรรม

นายจรูญ ถามว่า การย้ายในกรณีดังกล่าวเห็นว่าเป็นการย้ายตามปกติของระบบราชการหรือไม่ คิดว่าเป็นการแทรกแซงหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า "ผมไม่ทราบว่าเป็นการแทรกแซงก้าวก่ายหรือไม่ แต่ผมเห็นว่าเกี่ยวพันกัน เป็นการแบ่งงานกันทำ เพราะถ้าไม่เอาผมออกก็ไม่สามารถโอนพล.ต.อ.วิเชียร มาตำแหน่งผมได้ และถ้าไม่เอา พล.ต.อ.วิเชียร ออกจากตำแหน่งผบ.ตร.ได้ ก็ไม่สามารถเอา พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ขึ้นเป็นผบ.ตร.ได้”

นายอุดมศักดิ์ นิติมนตรี ตุลาการฯ ถามว่า ก่อนจะมีการย้ายได้มีการส่งคนมาทาบทามก่อนหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า “นายกฯ ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อว่าจะหาทางคุยกับผมก่อนวันที่ 6 ก.ย. 2554 โดยนายกฯ ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.โกวิท มาคุยกับผม ซึ่ง พล.ต.อ.โกวิท แจ้งว่า นายกฯ ถามผมว่าผมจะขัดข้องหรือไม่ ผมพิจารณาด้วยความถี่ถ้วนทุกอย่าง ผมจึงบอกไปด้วยความเกรงใจว่าจะขอต่อสู้ตามกฎหมาย"

นายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการฯ ถามว่า วันที่ 4 ก.ย. 2554 เป็นวันอาทิตย์หรือวันทำการอะไร นายถวิล กล่าวว่า "วันที่ 4 ก.ย. 2554 เป็นวันอาทิตย์ เป็นวันหยุดราชการตามปกติ"

นายจรัญ ซักต่อว่า ในบันทึกข้อความของสำนักนายกรัฐมนตรีลงวันที่ 4 ก.ย. 2554 ซึ่งระบุว่า นางสาวกฤษณา สีหลักษณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ ยินยอมให้รับโอนแล้ว นายถวิล กล่าวว่า “หนังสือจาก พล.ต.อ.โกวิท แจ้งว่า นางสาวกฤษณาเห็นชอบพร้อมรับโอนแล้ว แต่มีหนังสือลงวันที่ 5 ก.ย. 2554 ของ นางสาวกฤษณา ว่า เห็นชอบการรับโอน ผมเห็นว่าถ้าพิจารณาให้ดีแล้วการโอนย้ายต้องให้เกิดประโยชน์ต่อทั้ง 2 หน่วย ก็เห็นว่ามันไม่สอดคล้องกัน เพียงแต่ว่าเรื่องนี้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมและศาลปกครองสูงสุด ไม่ได้เห็นเป็นสาระสำคัญของการโอน”

นายจรัญ ถามว่า พยานผ่านงานระดับสูงมาแล้ว เห็นว่าการลงวันที่ไม่เหมือนกัน เพราะเหตุใดจึงมีความแตกต่างกัน นายถวิล กล่าวว่า "ผมคิดว่ามีการแก้ไขวันที่ ผมถ่ายเอกสารที่อยู่ในมือผมตั้งแต่ต้น ผมเห็นว่าหนังสือมีความลักลั่น"

นายเฉลิมพล เอกอุรุ ตุลาการฯ ถามว่า งานที่ปรึกษานายกฯ ได้ทำงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงหรือไม่ นายถวิล กล่าวว่า “ผมทำหน้าที่เอกสารอย่างเดียว เป็นเรื่องที่น่าจะต่ำกว่าความรู้ความสามารถที่ผมมีอยู่”

นายทวีเกียรติ มีนะกนิษฐ ตุลาการฯ ถามว่า ตอนย้าย พล.ท.สุรพล สมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ ใช้ขั้นตอนเร็วหรือช้า นายถวิล กล่าวว่า “ส่วนใหญ่การทำงานใน สมช.มีการเลือกกันเองในกอง แต่ พล.ท.สุรพล ได้โอนย้ายจากทหารมาเป็นรองเลขาฯ สมช.ในปี 2548 รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ และได้รับการแต่งตั้งให้ขึ้นมาเป็นเลขาฯ สมช.ในรัฐบาลสมัคร ก่อนมาพ้นตำแหน่งในรัฐบาลอภิสิทธิ์ ซึ่งไม่ได้ย้ายทันที ได้ทำงานมา 7-8 เดือน และ พล.ท.สุรพล ไม่ได้ฟ้องต่อศาล”