ศาลยกฟ้องดคีเพิกถอนท่อส่งก๊าซไทย-มาเลย์

ศาลยกฟ้องดคีเพิกถอนท่อส่งก๊าซไทย-มาเลย์

ศาลปกครองสงขลา อ่านผลแห่งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ยกฟ้องในดคีเพิกถอนมติคชก. และใบอนุญาตก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย

ที่ศาลปกครองสงขลา ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา ชาวบ้านจากอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาจำนวนหนึ่งได้เดินทางมาร่วมรับฟังคำพิพากษาในคดีฟ้องเพิกถอนมติ คมช.(คณะกรรมการผู้ชำนาญการ) และใบอนุญาตก่อสร้างท่อส่งก๊าซธรรมชาติไทย-มาเลเซีย ซึ่งเป็นคดีที่ต่อสู้กันมากว่า 10 ปี โดยวันนี้ศาลปกครองสูงสุดนัดฟังคำพิพากษา ในคดีหมายเลขดำที่ 43/2547 ระหว่างนายกิตติภพ สุทธิสว่าง ที่ 1 กับพวกรวม 17คน เป็นผู้ฟ้องคดี กับกรมการขนส่งทางน้ำและพานิชย์นาวี ที่ 1 คณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ที่ 2 สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 3 ผู้ถูกฟ้องคดี โดยมี มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ บุรุษรัตนพันธ์ ซึ่งเคยเป็น คชก.ด้านสังคม พิจารณาคดีท่อก๊าซไทย-มาเลเซีย และเป็นคนที่เซ็นไม่ผ่าน โครงการดังกล่าว ได้เดินทางมาติดตามคดีและให้กำลังใจชาวบ้านอำเภอจะนะ

ซึ่งคดีนี้ สืบเนื่องจากการที่บริษัททรานส์ไทย-มาเลเซีย ผู้ดำเนินโครงการท่อส่งก๊าซธรรมราชาติไทย-มาเลเซีย โดยการวางท่อก๊าซจากในทะเลบริเวณอ่าวไทย เชื่อมต่อกับบนบก มีจุดขึ้นฝั่งบริเวณตำบลตลิ่งชัน และตำบลสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ได้ยื่นรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบวิ่งแวดล้อมเข้าสู่การพิจารณาของ คณะกรรมการผู้ชำนาญการ พิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโครงสร้างพื้นฐานและอื่นๆ และ คชก.มีมติให้ความเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ในประเด็นเทคนิควิชาการ ยกเว้นประเด็นด้านสังคม ซึ่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ฉบับดังกล่าว เป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาเพื่อการออกใบอนุญาตปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำของโครงการ

ผู้ฟ้องคดีซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่ เห็นว่าการที่กรมการขนส่งทางน้ำพาณิชย์นาวี ออกใบอนุญาตให้แก่บริษัททรานส์ไทย-มาเลเซีย (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อดำเนินโครงการ และมติให้ความเห็นชอบ อีไอเอของคชก. ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งการรอคอยในการตัดสินของศาลมาเป็นเวลากว่า 10 ปี ผลคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด คือ ยกฟ้อง เนื่องจากอุธรณ์ของผู้ฟ้องทั้ง 17 คน ในประเด็นนี้ฟังไม่ขึ้น