บังยี ยึดนายกชนะขาด42-28 เลือกตั้งวุ่น-โวยสวมสิทธิ์

บังยี ยึดนายกชนะขาด42-28 เลือกตั้งวุ่น-โวยสวมสิทธิ์

บอลไทยฟ้าไม่เปลี่ยนสี "บังยี” วรวีร์ มะกูดี ชนะเลือกตั้งนั่งเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ สมัย 4

ติดต่อกัน ทิ้งห่าง "บิ๊กกร๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ 42 ต่อ 28 ท่ามกลางความวุ่นวายในการสวมสิทธิ์เลือกตั้ง

การเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มีขึ้นที่ห้องประชุมจตุรทิศแกรนด์บอลรูม โรงแรมโกลเดน ทิวลิป ซอฟเฟอรีน เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยมี 2 ผู้สมัครคือ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฯ คนเก่า 3 สมัย กับ “บิ๊กกร๊อง” วิรัช ชาญพานิชย์ อดีตผู้จัดการทีมชาติไทย โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์เนื่องจากใช้ข้อบังคับลักษณะปกครองฉบับแก้ไขหรือ "ธรรมนูญใหม่" ตามมาตรฐานและข้อกำหนดของ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งนานาชาติ (ฟีฟ่า) ในการเลือกตั้ง ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนมากมายที่แห่มาทำข่าวตั้งแต่ช่วงสาย พร้อมรายงานสดผ่านทางโทรทัศน์และโซเชียลเน็ตเวิร์ค ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาดูแลความสงบหลายสิบคน

บรรยากาศวุ่นวายตั้งแต่ช่วงเที่ยง เวลาประมาณ 12.30 น. เมื่อ องอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ ในฐานะเลขานุการ กกต. ได้เซ็นอนุมัติแต่งตั้ง วิวัฒน์ชัย กุลมาตย์ มาทำหน้าที่คณะกรรมการอุทธรณ์ เพื่อพิจารณาจำนวน 6 สโมสร ที่อ้างว่ามีตัวแทนมายื่นขออุทธรณ์ในการใช้สิทธิ์ ประกอบไปด้วย ระยอง ยูไนเต็ด, พังงา, นนทบุรี, ตรัง, สุรินทร์ และ ลูกอีสาน การบินไทย

วิวัฒน์ชัย แถลงว่าผลการพิจารณาได้มีข้อยุติ ดังนี้ ระยอง ยูไนเต็ด ให้ พินิจ ศศินิล มีสิทธิ์เลือกตั้ง, พังงา ให้ ก่อแก้ว พิกุลทอง มีสิทธิ์เลือกตั้ง, นนทบุรี ให้ กานต์ จันรัตน์ มีสิทธิ์เลือกตั้ง, ตรัง ให้ ธัญญา โพธิ์วิจิตร มีสิทธิ์เลือกตั้ง, สุรินทร์ ให้ นิรันดร์ กัลยาณบัณฑิต มีสิทธิ์เลือกตั้ง และลูกอีสาน การบินไทย ให้ ชัยโชค พุ่มพวง มีสิทธิ์เลือกตั้ง ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้กลับมามี 72 เสียงตามเดิม

ต่อมาตัวแทนจาก พังงา, สุรินทร์ และระยอง ยูไนเต็ด ได้แสดงตัวขอใช้สิทธิ์พร้อมแถลงข่าวตอบโต้การพิจารณาการอุทธรณ์ของคณะกรรมการอุทธรณ์ โดย จำรัส นุ้ยสง่า คณะกรรมการ บ.สโมสรฟุตบอลพังงา กล่าวว่าตนเองเป็นผู้บริหารทีมฟุตบอล พังงา และได้รับการอนุมัติจาก กกต. แล้ว แต่เหตุใดคณะกรรมการอุทธรณ์จึงมีมติให้ ก่อแก้ว พิกุลทอง ซึ่งเป็นผู้บริหารชุดเก่าได้ใช้สิทธิ์

ส่วน ภีมเดช อมรสุคนธ์ ตัวแทนจาก ระยอง ยูไนเต็ด เผยว่าทางประธานสโมสรระยอง ยูไนเต็ด ได้เดินทางมาเลือกตั้งด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการอุทธรณ์และมอบสิทธิ์ให้ พินิจ ศศิธร นอกจากนั้นตามธรรมนูญใหม่ การมอบอำนาจจะต้องเป็นผู้ที่มีความเกี่ยวพันกับสโมสร แต่จากรายชื่อผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด มีหลายทีมที่มอบหมายให้คนอื่นซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับทีมมาเลือกตั้งแทน อาทิ พล.อ.ชินเสณ ทองโกมล ประธานผู้ตัดสิน ได้สิทธิ์เลือกตั้งของ ปตท.ระยอง, จุติ ไกรเลิศ ผู้บริหาร บมจ.สยามสปอร์ตฯ ได้สิทธิ์เลือกตั้งของ สิงห์ท่าเรือ

เมื่อถึงเวลาเลือกตั้ง กลุ่มนายวิรัชได้แสดงความไม่พอใจที่ตัวแทนจากหลายสโมสร ได้มีบุคคลภายนอกที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารทีมได้เข้ามาใช้สิทธิ์เลือกตั้งแทนตัวแทน

จากนั้นเวลา 17.45 น. การลงคะแนนเสร็จสิ้นทุกตำแหน่ง ซึ่ง กกต. ได้เริ่มนับคะแนนในตำแหน่งนายกสมาคมฯ ก่อน ปรากฏว่าช่วงแรกเป็นไปอย่างสูสี ก่อนที่ วรวีร์ จะทิ้งห่างในช่วงสุดท้ายและชนะด้วยคะแนน 42 ต่อ 28 คะแนน โดยมีบัตรเสีย 1 ใบ และโนโหวต 1 ใบ ทำให้ “บังยี” นั่งตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน