ชมฝนดาวตกเปอร์ซิอิดส์ หรือฝนดาวตกวันแม่

ชมฝนดาวตกเปอร์ซิอิดส์ หรือฝนดาวตกวันแม่

ห้ามพลาด!!!คืนนี้ชมฝนดาวตกเปอร์ซิอิดส์ หรือฝนดาวตกวันแม่

นายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต นักดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 12 ส.ค. 56 นี้ จะมีปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์บนท้องฟ้า คือ ฝนดาวตกเปอร์ซิอิดส์ ( Perseids) ตกมาจากกลุ่มดาวเปอร์ซิอุส ( Perseus ) โลกโคจรปะทะดาวตกสูงสุด ตั้งแต่เวลา เที่ยงคืนวันที่ 12 ส.ค. 56 โดยเวลาสังเกตดีที่สุดคือหลัง 24.00 น. ถึงเวลา 05.00 น. วันที่ 13 ส.ค.56 สามารถชมได้ทั่วทุกภาค คาดว่ามีจำนวนสูงสุด 35-60 ดวงต่อชั่วโมง สำหรับวิธีการชมให้หันหน้าไปทางมองด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ทางขอบฟ้าสูงประมาณ 45 องศา จะเห็นฝนดาวตกพุ่งมาจากทุกทิศทาง วิธีสะดวกที่สุดคือ นอนราบกับพื้น แต่อุปสรรคที่สำคัญที่สุดตลอดระยะ 16 ปีที่เฝ้าติดตามคือเป็นช่วงฤดูฝน ท้องฟ้าส่วนใหญ่จะปิดจากฝนหรือเมฆฝนไม่สามารถชมได้

นายวรวิทย์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับประเทศไทยอยู่หลังช่วงเกิดปะทะฝนดาวตก( peak Perseid maximum ) จะได้ชมน้อยมากประกอบกับใน เดือนสิงหาคมของทุกๆ ปีเป็นช่วงเวลาฤดูกาลของเมฆฝน ฝนดาวตกเปอร์เซอิด (Perseid) เกิดจากการที่โลกของเราเคลื่อนที่ผ่านวงโคจรของดาวหางสวิฟต์ ทัตเทิล (109 PSwift-Tuttle) ซึ่งมีคาบโคจรรอบดวงอาทิตย์ 135 ปี และทิ้งเศษชิ้นส่วนไว้ในวงโคจร เมื่อโลกโคจรผ่านบริเวณดังกล่าวจะทำให้เศษดาวหางเสียดสีในชั้นบรรยากาศ แล้วลุกไหม้เป็นดวงไฟสว่างไสวชั่วครู่ก่อนจะมอดดับไป

ฝนดาวตกเพอร์ซิอิดค้นพบโดย Lewis Swift ( Marathon Newyork USA ) วันที่ 16 JULY 1862 และ Horace Parnell Tuttle ( Cambridge Massachusetts USA ) 19 JULY 1862

สำหรับฝนดาวตกซึ่งมีช่วงเวลานัดหมายทุกเดือนสิงหาคม เป็นที่รู้จักของชาวตะวันตกในอีกชื่อว่า "น้ำตาของนักบุญลอเรนซ์" (The Tears of St. Lawrence) เนื่องจาก "ลอเรนติอุส" (Laurentius) นักบวชชาวคริสเตียนซึ่งถูกทรมานด้วยการย่างสดโดยชาวโรมันเมื่อ 258 หลังคริสตกาล และได้มีพิธีรำลึกถึงการเสียชีวิตของเขาในวันที่ 8 ส.ค.ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีปริมาณฝนดาวตกเปอร์เซอิดค่อนข้างหนาแน่น ส่วนฝนดาวตกเปอร์เซอิดที่จะสังเกตได้เหนือท้องฟ้าเมืองไทยจะตรงกับวันสำคัญคือ วันแม่แห่งชาติ