สมช.เชื่อปฏิเสธบีอาร์เอ็น แต่ไม่ล้มเจรจา

สมช.เชื่อปฏิเสธบีอาร์เอ็น แต่ไม่ล้มเจรจา

อดีตเลขาสมช.เชื่อแม้ปฏิเสธข้อเสนอ"บีอาร์เอ็น"ไม่ล้มโต๊ะเจรจา เตือนรัฐจะถูกโดนหลอก ไม่หยุดยิงจริง

พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงการพูคดคุยสันติภาพกับกลุ่มบีอาร์เอ็นเพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า การพูดคุยถือเป็นแนวทางที่เดินมาถูกต้องแล้ว เพราะทำให้สังคมมีความกระจ่าง เพราะก่อนหน้านี้มีความพยายามจะทำให้เข้าใจว่า ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดจากความไม่ยุติธรรม และการกดขี่ข่มเหง ซึ่งตรงนี้เป็นเพียงแค่ปลีกย่อยของปัญหาเท่านั้น แต่ความกระจ่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้ คือ มีแนวคิดแบ่งแยกดินแดน หากดูจากข้อเรียกร้องของกลุ่มบีอาร์เอ็นจะเห็นชัดว่า ต้องการให้มีการแบ่งแยกดินแดน ดังนั้นการพูดคุยจะทำให้เกิดการปรากฎตัวตนและสังคมได้ตระหนักถึงความเป็นจริง ถ้าเราเดินตามสิ่งที่บีอาร์เอ็นยื่นขอมาอาจเป็นเรื่องที่ไม่เท่าเทียมกัน เขาอาจรวมตัวกันหยุดก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนได้ แต่เมื่อไม่พอใจก็กลับมาก่อเหตุใหม่ เพราะเขามีแต่ได้กับได้ เขาอาจเล่นละครหลอกเราก็ได้ และตนเชื่อว่า ถ้าเขาสามารถหยุดก่อเหตุในช่วงเดือนรอมฎอนได้ สังคมก็พร้อมที่จะให้อภัยเขา แต่หากเขาได้พื้นที่เป็นเขตปกครองพิเศษ ต่อไปอาจขยายเพื่อแบ่งแยกดินแดนได้ ซึ่งข้อแสนอดังกล่าวเป็นกลยุทธ์ในการพูดคุย อย่าไปให้น้ำหนักมาก

พล.ท.สุรพล มั่นใจว่า การที่รัฐบาลไทยออกมาปฏิเสธข้อเรียกร้อง ทางกลุ่มบีอาร์เอ็นจะไม่ล้มโต๊ะการพูดคุย การที่เรายอมตามข้อเสนอของเขา โดยที่เขายังอยู่เฉยๆ มันยังไม่พอ เพราะเราจะไม่ได้อะไรเลย มีแต่เสียมากหรือเสียน้อย ขั้นตอนต่อไปไม่ใช่แค่เพียงเรียกร้องให้เขาหยุดก่อเหตุ แต่จะต้องทำให้เขากลับคืนสู่สังคมไทยในปกติ มีการส่งมอบอาวุธ และหยุดการอบรมทางศาสนาที่ไม่ถูกต้อง ผมคิดว่า ทางรัฐบาลเองจะต้องนำไปสู่จุดนี้ เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องผิด เดินมาถูกต้องแล้ว เปรียบเหมือนกับการนั่งรถเมล์ หากต้องการไปสู่จุดหมายปลายทาง บางครั้งต้องมีการเปลี่ยนสายรถเมล์บ้าง ถ้านั่งเพียงสายเดียวจะไปไม่ถึงที่หมาย ต้องหาโอกาสเปลี่ยนสายในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อรักษาทิศทางที่เราต้องการไป ทั้งนี้ผมแนะนำให้ผู้เกี่ยวข้องไปอ่านวิทยานิพนธ์ของดร.วันกาเดร์ เจ๊ะมาน ประธานกลุ่มเบอร์ซาตูได้ศึกษาและเปรียบเทียบอย่างละเอียดเกี่ยวกับขบวนการก่อความไม่สงบบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า มีลักษณะอย่างไร ใช้ประเด็นอะไรในการระดมคน รวมถึงการสร้างความสนใจจากนานาชาติและมีวัตถุประสงค์สุดท้ายอย่างไร

"จากรายงานจะเห็นว่า ขบวนการของเขาไม่มีความเป็นเอกภาพ แต่ถ้าเมื่อไรมีความเป็นเอกภาพ และมีตัวแทนขึ้นมา การพูดคุยต่อรองหรือการให้ผลประโยชน์ทุกอย่างก็จะจบ ถ้าไม่ศึกษาจะกลายเป็นเหยื่อของโฆษณาชวนเชื่อ เนื่องจากเรื่องภาคใต้เปรียบเสมือนการเป็นไข้เลือดออก ไม่ใช่ไข้ธรรมดา การรักษาโดยการลดไข้ที่ดูเหมือนว่าจะหายนั้น แต่อาจจะเกิดปฏิกิริยากลับทำให้เราตายในที่สุด"อดีตเลขาสมช. กล่าว