'เฉลิม'ฉะประชาธิปัตย์ยุ่งย้าย'ถวิล'

'เฉลิม'ฉะประชาธิปัตย์ยุ่งย้าย'ถวิล'

"เฉลิม"ฉะปชป.ยุ่งย้าย"ถวิล" ย้อนหากเป็นรัฐบาล"ภราดร"นั่งเลขาสมช.รับได้หรือไม่ เผยหลัง15 มิ.ย.ลงใต้

ร.ต.อ.เฉลิม อยุ่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีว่า เพื่อยุติความสับสน พรรคประชาธิปัตย์ถือว่าเป็นสถาบันการเมือง เป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยตนขอถามนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคประชาธิปัตย์ว่า ถ้าวันนี้นายอภิสิทธิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี แล้ว พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เป็นเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ทางพรรคประชาธิปัตย์จะรับได้ไหม และถ้ารับได้คราวที่แล้วย้าย พล.ท.สุรพล เผื่อนอัยกา อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ย้ายพล.ท.ภราดร และย้ายนายพีรพล ไตรทศาวิทย์ หรือ ดร.ป๋อง ทำไม

ส่วนกรณีการย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของรัฐบาลที่จะอุธรณ์ศาลปกครองสูงสุด พรรคประชาธิปัตย์ออกมายุ่งทำไม นายอภิสิทธิ์ ไม่รู้สึกบ้างหรือที่ออกมาแนะนำน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าให้คืนตำแหน่งให้นายถวิล ตนคิดว่าที่ให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ทางพรรคประชาธิปัตย์ควรหยุดพูด อย่างที่ไปจัดเวทีผ่าความจริง หรือช่องบลูสกายแชลแนล ซึ่งนายอภิสิทธิ์เริ่มมีเทคแอ็คชั่น เอียงซ้าย เอียงขวาในการพูด แข่งกับน.ส.มัลลิกา บุญมีตระกูล รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์แล้ว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า เมื่อมารับหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบาย และยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้(ศปก.กปต.) ได้ดำเนินการจัด 2 ชุด โดยชุดแรกมีนายประชา ประสพดี รมช.มหาดไทย และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งในวันที่ 7 มิ.ย.นี้ ก็จะลงพื้นที่รับฟังคำร้องทุกข์ในพื้นที่ภาคใต้ และในขณะเดียวกันตนก็ได้ขอความกรุณาไปยังพล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รองผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งทำหน้าที่ผู้ช่วยผอ.ศปก.กปต. ให้บูรณาการหน่วยงานกำลัง 6 หน่วยงานลงพื้นที่ โดยตนได้มอบอำนาจเต็มที่ในการแก้ไขปัญหาพื้นที่ภาคใต้ และจากนี้ต่อไปจะเติมเต็มทุกพื้นที่

ทั้งนี้หลังจากวันที่ 15 มิ.ย.นี้ตนจะลงพื้นที่ภาคใต้และอาจจะไปค้างคืน อย่างไรก็ตามในการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น ตนได้บอกกับพล.ท.ภราดร แล้วว่า ได้หารือกับกองทัพบกแล้วเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.และทำหนังสือข้อสรุปส่งให้เลขาสมช.คนปัจจุบันแล้วให้เอาเป็นกรอบว่าต้องมีการเจรจา แต่ในการเจรจาต้องมีกรอบ ต้องกำหนดหัวข้อชัดเจน ตนได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวเมื่อคืนนี้ว่ากลุ่มบีอาร์เอ็นมีความกังวล เพราะเกรงใจรัฐบาลมาเลเซียว่าถ้ามีการเจรจาแล้วไม่ได้ผลก็จะถูกกดดันจากรัฐบาลมาเลเซีย