พาณิชย์คาดฮอนด้ารอดคดีแข่งไม่เป็นธรรม

พาณิชย์คาดฮอนด้ารอดคดีแข่งไม่เป็นธรรม

พาณิชย์คาดเอ.พี.ฮอนด้า หลุดข้อกล่าวหาแข่งขันทางการค้าไม่เป็นธรรม เชื่ออัยการไม่ทำเรื่องฟ้อง หวั่นกระทบความเชื่อมั่นนักลงทุน

ปี 2546 โดย บริษัท ไทยซูซูกิ มอเตอร์ จำกัด บริษัท ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ จำกัด และ บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอนเตอร์ไพรซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ร้องเรียนคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ว่าฮอนด้าเอาเปรียบคู่แข่ง โดยห้ามตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าไม่ให้จำหน่ายรถจักรยานยนต์คู่แข่ง จนสร้างความเสียหายทางธุรกิจ ซึ่งคณะกรรมการ มีมติหลายครั้งว่า เอ.พี.ฮอนด้า มีพฤติกรรมดังกล่าวจริง แต่ทุกครั้งที่ส่งเรื่องต่อไปให้สำนักอัยการฯ ทำสำนวนส่งฟ้องศาล ก็กลับเห็นค้าน และส่งเรื่องกลับมาให้คณะกรรมการ สอบสวนเพิ่มเติมอีก โดยอ้างเพื่อความชัดเจนของข้อมูล

นายสันติชัย สารถวัลย์แพศย์ รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า เดือน ม.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ที่มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน มีมติให้ส่งเรื่องไปยังสำนักงานอัยการฯ ให้ฟ้องร้องต่อศาล กรณี บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด ผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เนื่องจากมีพฤติกรรมเข้าข่ายแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม และมีความผิดตาม พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ศ.2542 ซึ่งหากมีการฟ้องร้องและศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง บริษัทจะมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

อย่างไรก็ตามถึงขณะนี้ มีความเป็นไปได้ที่สำนักงานอัยการสูงสุดจะไม่ทำเรื่องฟ้องร้องต่อศาล โดยคาดว่า สำนักงานอัยการฯ น่าจะประวิงเวลา เพื่อรอให้คดีความดังกล่าวหมดอายุลงในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถเอาผิดใดๆ กับเอ.พี.ออนด้า ได้

"ได้ข่าวภายในมาว่า อัยการน่าจะไม่ส่งเรื่องฟ้องแล้ว เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ต้องแจ้งมาที่กรมฯ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า ผมว่าถ้าจะฟ้องคงฟ้องนานแล้ว ไม่รอให้เวลาผ่านไปเป็น 10 ปีแบบนี้ เพราะคณะกรรมการฯ มีมติให้ส่งเรื่องไปให้อัยการส่งฟ้องศาลหลายครั้งแล้ว แต่ก็ถูกอัยการตีกลับให้สอบสวนใหม่ทุกครั้ง จนผู้จัดการ เอ.พี.ฮอนด้า เสียชีวิตไปแล้ว"นายสันติชัยกล่าว

ทั้งนี้ หากไม่มีการส่งฟ้องศาล จะทำให้พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าพ.ศ.2542 ของไทยขาดความศักดิ์สิทธิ์ และทำให้ผู้ประกอบการทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่ลงทุนในไทย หรือที่จะเข้ามาลงทุนภายหลังจากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ในปี 2558 ไม่เกรงกลัวกฎหมาย สามารถทำธุรกิจเอาเปรียบคู่แข่งได้ เพราะไทยไม่ให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม กรมฯอยู่ระหว่างการแก้ไขพ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าให้ทันสมัย และรัดกุมมากขึ้น เพื่อปิดช่องโหว่ต่างๆ โดยเฉพาะจะแก้ไขให้กรมการค้าภายใน ซึ่งเป็นเลขานุการคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า สามารถส่งเรื่องฟ้องร้องต่อศาลในกรณีความผิดต่างๆ ที่คณะกรรมการได้ตัดสินถึงที่สุดแล้ว จากปัจจุบันที่กฎหมายกำหนดให้คณะกรรมการต้องส่งเรื่องไปให้อัยการเป็นผู้ทำเรื่องฟ้องศาลได้เท่านั้น