SAT : ถือ

คาดกำไรอ่อนตัว เนื่องจากการจ่ายโบนัสพนักงานกดดัน

คาดกำไร 4Q55 อ่อนตัวลง 26% QoQ แต่ยังดีกว่าปีก่อนที่ขาดทุน


เราคาดกำไรงวด 4Q55 ของ SAT จะอยู่ที่ 190 ล้านบาท ลดลง 26% QoQ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นจากการจ่ายโบนัสประจำปีให้กับพนักงานสูงกว่าที่ SAT ได้ตั้งสำรองไว้ในช่วง 9M55 นอกจากนี้ ความสามารถในการทำกำไรยังถูกกดดันจากความต้องการสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นมากกว่ากำลังการผลิตทำให้ SAT ต้อง Out Source งานบางส่วนให้บริษัทอื่นช่วยผลิต อย่างไรก็ตาม กำไรงวด 4Q55 ยังดีกว่างวด 4Q54 ที่อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมทำให้ SAT มีผลขาดทุน 96 ล้านบาท ทั้งนี้ เราคาด SAT จะจ่ายเงินปันผลงวด 2H55 จำนวน 0.54 บาทต่อหุ้น


โรงงาน ICP2 เริ่มใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ


ผู้บริหาร SAT เปิดเผยว่าการดำเนินงานโรงงานหล่อเหล็ก ICP2 ที่เพิ่งเริ่มเดินเครื่องเมื่อปีที่แล้ว เริ่มสามารถใช้กำลังการผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตั้งแต่เดือน ม.ค. 56 ที่ผ่านมา และคาดว่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นโดยรวมในปี 2556 ของ SAT เพิ่มขึ้น 1 – 2% จากปีก่อน โดยเราคาดอัตรากำไรขั้นต้นปี 2556 ของ SAT จะอยู่ที่ราว 18% เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน


การลงทุนที่อินโดนีเซียคาดว่าจะได้ข้อสรุปใน 1Q56


SAT มีแผนขยายการลงทุนไปประเทศอินโดนีเซีย และอินเดียที่อุตสาหกรรมยานยนต์มีแนวโน้มเติบโตสูงในอนาคต โดยล่าสุดผู้บริหาร SAT เปิดเผยว่าแผนการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1Q56 และคาดว่าจะเริ่มเดินเครื่องการผลิตได้ในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า


เปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ถือ” ราคาหุ้นใกล้มูลค่าเหมาะสมและ 2H56 มีความเสี่ยง


แม้เราคาดผลประกอบการปี 2556 ของ SAT จะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากปีก่อน คาดยอดขายรวมเติบโตราว 10% YoY สอดคล้องกับเป้าหมายของผู้บริหาร และคาดว่ากำไรมีโอกาสเติบโตถึง 31% YoY หลังจากโรงงาน ICP2 เริ่มเดินเครื่องได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทำให้ SAT มีความสามารถในการทำกำไรดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาที่ระดับราคาหุ้น SAT นับตั้งแต่ต้นปี 2556 จนถึงปัจจุบันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 22% YTD เข้าใกล้มูลค่าเหมาะสมที่เราประเมินแล้ว ประกอบกับในช่วง 2H56 อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยมีความเสี่ยงจากการอ่อนแรงของตลาดในประเทศหลังหมดแรงส่งจากนโยบายรถคันแรก เราจึงเปลี่ยนคำแนะนำเป็น “ถือ” (จากเดิม “ซื้อ”) โดยยังคงประเมินมูลค่าเหมาะสมเท่ากับ 40.50 บาท (เทียบเท่า P/E Ratio ’56 ที่ 13 เท่า)