'นายกฯ'สั่งเยียวยาน้ำท่วม หลังแถลงนโยบาย ดันโครงการแสนล้าน แก้ท่วมซ้ำซาก

'นายกฯ'สั่งเยียวยาน้ำท่วม หลังแถลงนโยบาย ดันโครงการแสนล้าน แก้ท่วมซ้ำซาก

“อนุทิน“ สั่งจ่ายเยียวยาน้ำท่วมทันทีหลังแถลงนโยบาย ดันโครงการระบายน้ำ 1 แสนล้าน แก้ท่วมซ้ำซาก สัญญาไม่ปล่อยชาวบ้านเผชิญน้ำทุกปี หวังประชาชนไว้วางใจ กลับมาสานต่อ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 27 กรกฎาคม ที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ตอนนี้เกิดสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้สั่งการเร่งให้ดำเนินการจ่ายเงินเยียวยาตามเกณฑ์ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เนื่องจากช่วงที่ผ่านมาได้มีการเปลี่ยนรัฐบาล ทำให้ล่าช้าไป ดังนั้นหลังการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว ก็จะดำเนินการทันที เพราะความทุกข์ร้อนของประชาชนรอนานไม่ได้ 

เมื่อถามว่า จะลงพื้นที่ไหนอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า  มี แต่ว่าขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยเกิดที่ภาคกลาง ขณะเดียวกันมีแผนที่จะต้องเร่งโครงการต่างๆ เพื่อสนับสนุนโครงการที่ระบายทางน้ำ ด้วยการศึกษาทางระบายน้ำตอนใต้เขื่อนเจ้าพระยา ที่ จ.ชัยนาท ลงอ่าวไทย ส่วนเม็ดเงินที่จะมาทำโครงการนี้ถามว่าเยอะหรือไม่ ต้องใช้เวลา 7-8 ปี ก็ใช้ประมาณ 100,000 ล้านบาท ตกปีละ 10,000 กว่าล้านบาท ซึ่งไม่ได้เยอะ เพราะต้องรีบทำพื้นฐานให้เรียบร้อย เพื่อให้โครงการนี้เกิดขึ้น ถ้าเทียบกับเงินช่วยเหลือเยียวยาว ที่ต้องจ่ายให้ทุกปี ปีละ 3-4 หมื่นล้านบาท ก็เป็นจำนวนเงินที่มากกว่าไปทำโครงการที่เป็นถาวรวัตถุ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการระบายน้ำ และผันน้ำออกจากพื้นที่ภาคกลางได้ ก็จะแก้ไขปัญหาได้ในระยะยาว เพราะการมาเจอชาวบ้านทุกปีแบบนี้ไม่ไหว มาแล้วก็ต้องมาขอโทษ นำถุงยังชีพมาให้ ซึ่งชาวบ้านไม่ได้อยากได้ ดังนั้น ต้องสร้างโครงการที่แก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งพวกตนเองจะทำ 

เมื่อถามว่าเวลาที่มีอยู่ของรัฐบาลจะสามารถดำเนินโครงการช่วยบรรเทาปัญหาซ้ำซากได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า โครงการต่างๆรัฐบาลไหน ก็ไม่สามารถแล้วเสร็จ ภายในอายุรัฐบาลได้ แต่เราต้องตัดสินใจเริ่ม ไม่คิดว่าไปตัดแข้งตัดขาใคร ซึ่งไม่ว่าโครงการดังกล่าวใครจะนำเสนอขึ้นมา อยู่พรรคไหนพวกไหน แต่ถ้าประชาชนได้ประโยชน์ ตนขอให้คำยืนยัน เพราะนิสัยของตนเอง ไม่สนใจว่าใครจะได้เครดิต ถ้าหากได้ประโยชน์สูงสุด ใครเสนอมาตนก็เห็นชอบหมด 

เมื่อถามว่าถ้าเริ่มแล้วครั้งหน้าจะหวังกลับมาสานงานต่อหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “เราก็ต้องหวัง” ซึ่งต้องทำงานให้ประชาชนมั่นใจและเชื่อใจว่า เรามาแก้ไขปัญหาจริง และรักษางบประมาณของประเทศ เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์ ต้องไม่หายไปไหน ต้องถูกใช้เพื่อประโยชน์ของประเทศและเชื่อว่าประชาชนจะให้โอกาสเรากลับมาสานต่อ