'ประยุทธ์'ประณามมือระเบิดหน้าสยามพารากอน

'ประยุทธ์'ประณามมือระเบิดหน้าสยามพารากอน

"นายกฯ" ประณามมือระเบิดหน้าสยามพารากอน มอบ "ประวิตร" ดำเนินการ เชื่อจนท.ควานหาตัวคนร้ายก่อเหตุบึ้มป่วนเมืองได้

เพราะมีหลักฐานจากกล้อง บอกเป็นนัยอาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่ถูกเรียกรายงานตัว เตรียมใช้กฎหมายเด็ดขาดดำเนินการผู้กระทำความผิด

เมื่อเวลา 08.00 น. ที่กองการบิน กรมการขนส่งทางบก(ขส.ทบ.) ดอนเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ก่อนลงพื้นที่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา ถึงกรณีเหตุลอบวางระเบิดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสยามสแควร์ ว่า ขณะนี้ให้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ไม่อยากให้เปิดพื้นที่ข่าาวให้คนเหล่านี้มากนัก เป็นคนทำผิดกฎหมายบ้านเมือง ขณะนี้เรากำลังเดินหน้าไปด้วยดี ซึ่งคงต้องไปสอบว่าใครเป็นผู้กระทำและยึดโยงกับกลุ่มใดฝ่ายใด ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งตนได้รับรายงานตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. และได้สั่งการไปยังพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพิ่มเติมไปแล้ว และคิดว่าคงจะหาหลักฐานได้

ผู้สื่อข่าวถามว่าจากรายงานเบื้องต้น มีความเกี่ยวโยงกับการเมืองหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจน ต้องรอดูก่อน และไม่ต้องถามว่าทำไมถึงเกิดเหตุ ต้องไปถามคนทำถามตนตอบไม่ได้ ซึ่งต้องไปดู ตนได้บอกไปแล้วว่า ต้องหาคนวางให้ได้ ซึ่งก็น่าจะหาได้และต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบต่อไป

ส่วนในทางการข่าว มีการเคลื่อนไหวในลักษณะดังกล่าวอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ก็ยังไม่มี แต่ต้องไปดูว่าใครที่ออกมาพูดจาใช้ความรุนแรงอะไรต่างๆ เหล่านี้ ก็ต้องไปสอบว่ายึดโยงกันหรือเปล่า ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเขาไปดูในเรื่องนี้ด้วย สำหรับพวกที่ออกมาพูดจาทำนองว่าจะใช้ความรุนแรง ต่อต้านการปฏิบัติงานของรัฐบาล ซึ่งเรื่องอย่างนี้มันไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการเมือง แต่เป็นเรื่องการทำผิดกฎหมาย ถึงจะมีความเห็นต่างทางการเมืองก็แล้วแต่ แต่ใช้ความรุนแรงอะไรไม่ได้ทั้งสิ้นเพราะมันผิดกฎหมาย ทุกคนต้องเข้าใจว่าการเมือง และการทำผิดกฎหมายเป็นคนละส่วนกัน ถ้าเขาทำผิดกฎหมายก็อย่าไปให้เครดิตกับเขามากนัก ควรให้เครดิตกับเจ้าหน้าที่"

ต่อข้อถามที่ว่าเหตุที่เกิดมีการรายงานมาล่วงหน้าหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลังจากที่มีการพูดจาในลักษณะที่รุนแรงก็เกิดเหตุการณ์ ดังนั้นก็ต้องไปหาดูว่าใครพูด

ส่วนหลังจากนี้จะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในที่สาธารณะเข้มงวดขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า มีมาตลอด และได้มีการสั่งการตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 1 ก.พ. แล้ว ก็คงจะเข้มข้นขึ้น สิ่งสำคัญประชาชนต้องช่วยกันเฝ้าระวังและดูไม่ให้เหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น เพราะเรื่องแบบนี้มีผลกระทบต่อประชาชนทั้งสิ้น และขอร้องว่าให้ช่วยกันประณามผู้ที่ก่อเหตุในครั้งนี้ เนื่องจากไม่เห็นแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่บริสุทธิ์ รัฐบาลพยายามทำทุกอย่าง เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย ประชาชนอยู่ดีกินดี เศรษฐกิจอยู่ระหว่างต้องปรับแก้หลายอย่าง ขณะนี้ก็ดำเนินการทุกอย่างแบบไม่หยุดหย่อน แต่ก็ยังมีคนที่ไม่ดี

ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมผู้ก่อเหตุจึงเลือกพื้นที่ใจกลางเมืองในการลงมือ เป็นเพราะต้องการป่วน และลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาลใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างมีอารมณ์ว่า "ทุกคนก็รู้อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นเขาก็คงไปทำในป่า เรื่องนี้จะถามทำไมวะ"

ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เค้าลางตัวผู้ก่อเหตุแล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีหลักฐานโดยใช้กล้อง เดี่ยวก็จับได้ หลักฐานอยู่ตามกล้อง ขอให้ใจเย็นๆ เวลาเจ้าหน้าที่ดำเนินการสอบสวนก็ต้องให้เวลา และเป็นความลับ ถ้าไปกระโตกกระตากเดี๋ยวคนร้ายก็จะเกิดการแตกตื่น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจากเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นการใช้กฎอัยการศึกก็ยังมีผลบังคับใช้ต่อไปใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า "ผมบอกแล้วว่าในระหว่างนี้มีกฎหมายหลายตัว ซึ่งเป็นอันตรายสำหรับผู้ที่ทำความผิด ซึ่งมาตรการลงโทษต่าง ๆ ก็ต้องมีการหารือกันต่อไปว่าทำอย่างไรจึงเข็ดหลาบ ซึ่งมันก็เกิดมาทุกครั้ง เกิดมาตั้งแต่ก่อน 22 พ.ค. 57 ก็ต้องไปหามาว่าเป็นใคร"

ก่อนหน้าที่เมื่อเวลา 07.40 น. ที่ขส.ทบ. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงเหตุลอบวางระเบิดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าสยามสแควร์ ว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้หวังอันตรายต่อชีวิต คงเป็นการป่วนมากกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็อยู่ระหว่างการค้นหาหลักฐานเดิ่มเติมในการตรวจสอบกล้องcctv ที่มีอยู่ในพื้นที่ อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้รับรายงานด้านการข้าวแต่รับทราบสถานการณ์ว่า จากสิ่งที่เกิดขึ้นก็ได้มีการเพิ่มมาตรการในการดูแล ซึ่งหลังจากนี้ก็จะต้องเพิ่มมาตรการอและระมัดระวังไว้ก่อน โดยจะต้องเพิ่มมาตรการในทุก ๆ ส่วน ขณะนี้บ้านเมืองกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี ทั้งเศรษฐกิจ และนักท่องเที่ยว ก็หวังว่าไม่น่าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก