จี้'ร้านอาหารไทย'ในสวีเดนปรับตัว

จี้'ร้านอาหารไทย'ในสวีเดนปรับตัว

สถาบันอาหาร ชี้อาหารไทยในสวีเดนสดใส แนะผู้ประกอบการปรับตามพฤติกรรมผู้บริโภค พัฒนารูปแบบแปรรูปอาหาร

นายเพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยถึงผลการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคอาหารไทยในสวีเดน ว่า สถาบันอาหาร ได้ร่วมมือกับสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค และปัจจัยการเลือกรับประทานอาหารในร้านอาหารไทยของชาวสวีเดน โดยได้จัดเก็บกลุ่มตัวอย่างประชากรในประเทศเป้าหมายจำนวนทั้งหมด 416 ชุด พบว่า ชาวสวีเดนที่มีรายได้ต่อครอบครัวน้อยกว่า 150,000 โครนสวีเดน/ปี ส่วนใหญ่ 68.9% ไม่เคยรับประทานอาหารไทย

ส่วนชาวสวีเดนที่มีรายได้ต่อครอบครัว 150,001 - 250,000 โครนสวีเดน/ปี ส่วนใหญ่ 77.2% เป็นผู้ที่เคยรับประทานอาหารไทย ขณะผู้มีรายได้ต่อครอบครัวมากกว่า 250,000 โครนสวีเดนต่อปี ส่วนใหญ่ 90% เป็นผู้ที่เคยรับประทานอาหารไทย และไปรับประทานที่ร้านอาหารไทย

อย่างไรก็ตามในปีที่ผ่านมา ชาวสวีเดนที่มีรายได้ต่อครอบครัวไม่เกิน 250,000 โครนสวีเดน/ปี ส่วนใหญ่ไปรับประทานอาหารไทยเพียง 1 - 2 ครั้ง/ปี ในขณะที่กลุ่มที่มีรายได้ต่อครอบครัวมากกว่า 250,000 โครนเดนสวีเดนต่อปี ส่วนใหญ่รับประทานอาหารไทย มากกว่า 12 ครั้ง/ปี

ชาวสวีเดนที่เคยรับประทานอาหารไทยส่วนใหญ่มีความเห็นว่าอาหารไทยมีราคาที่เหมาะสม มีรสชาติดี และอร่อย ในส่วนของเมนูอาหารไทยที่ชาวสวีเดนชื่นชอบมากที่สุด พบว่า เมนูต้มยำกุ้ง เป็นเมนูที่ได้รับความนิยมสูงสุด รองลงมาคือ ผัดไทย ส้มตำ และไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ในการสำรวจครั้งนี้ ยังได้ทำการสัมภาษณ์ผู้ประกอบการร้านอาหารไทยในสวีเดน พบว่าชาวสวีเดนสามารถรับประทานอาหารไทยที่มีรสเผ็ดได้ดี และมักรับประทานอาหารในลักษณะเป็นกับข้าว รายการอาหารที่ได้รับความนิยม คือ โป๊ะแตก ไก่ผัดเม็ดมะม่วง ไก่แกงแดง พะแนง แกงเขียวหวาน และผัดไทย ส่วนของหวานที่เป็นที่นิยม คือ ไอศกรีมใส่กล้วย และมักดื่มเบียร์ไทยควบคู่กับการรับประทานอาหาร

นอกจากนี้ ชาวสวีเดนนิยมรับประทานอาหารไทยตลอดทั้งปี แต่จะขายดีที่สุดในช่วงฤดูหนาวมากกว่าฤดูร้อน เนื่องจากช่วงฤดูร้อนเป็นช่วงที่ชาวสวีเดนจะหยุดพักผ่อนประจำปี โดยลูกค้าจะนิยมใช้บริการแบบสั่งกลับบ้าน ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรับประทานอาหารไทยที่ร้านประมาณ 220 - 250 โครนสวีเดนต่อหัว แต่หากสั่งอาหารกลับบ้านจะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า เนื่องจากลูกค้าจะเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราเพียง 12% ในขณะที่การรับประทานอาหารที่ร้านลูกค้าจะต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 25%

นายเพ็ชร กล่าวว่าการตั้งร้านอาหารไทยในสวีเดนควรเป็นร้านที่ให้บริการเต็มรูปแบบในระดับกลาง ที่ไม่ควรมีความหรูหราจนเกินไป และมีการให้บริการอาหารจานเดียว รวมถึงการให้บริการแบบสั่งกลับบ้าน เนื่องจากชาวสวีเดนยังคงนิยมรับประทานอาหารที่บ้าน และนิยมและชื่นชอบอาหารไทยเป็นพื้นฐาน

"ภาครัฐควรมีการวิจัย และพัฒนาอาหารพร้อมรับประทานในเมนูที่ได้รับความนิยมในแต่ละประเทศเป้าหมายให้มีความหลากหลายเพิ่มมากขึ้น ทั้งในรูปแบบอาหารแปรรูปพร้อมรับประทานแช่เย็น และ แช่แข็ง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมรับประทานอาหารที่บ้าน และใช้เวลาในการรับประทานอาหารไม่นาน ประกอบกับความนิยมในอาหารไทยที่มีอย่างแพร่หลาย ทำให้ตลาดอาหารแปรรูปพร้อมรับประทานเป็นตลาดที่มีลูกค้าเป็นจำนวนมาก" นายเพ็ชร กล่าว