เบื้องหลังแถลงศอ.รส.-ม.7หวังตั้งรัฐบาลผสม

รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากที่ศอ.รส.ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งมาจากหลายฝ่ายที่อยู่ในศอ.รส. อาทิ ตำรวจ ดีเอสไอ รวมทั้งนายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เสนอแนวคิด รัฐธรรมนูญ มาตรา 7 จากทางรัฐบาล และในครั้งนี้ นายชัยเกษมก็มีส่วนร่วมในการร่างคำแถลง เช่นเดียวกับ ร.ต.อ.เฉลิม ผอ.ศอ.รส. และนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ ในฐานะเลขานุการศอ.รส. จึงไม่แปลกที่ได้เห็น นายชัยเกษม นำทีมอ่านแถลงการถ่ายทอดสดเอง ซึ่งเนื้อหาหาที่สอดคล้องกันกับแนวคิดของนายชัยเกษมคือ แถลงการณ์ข้อ 3 ที่กล่าวถึงคณะรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาว่า

หากมีคำวินิจฉัยออกมาในลักษณะเกิดสุญญากาศทางการเมือง(นายกฯ และครม.สิ้นสภาพ) คณะรัฐมนตรีจะต้องแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดสุญญากาศ เพราะเมื่อศาลรัฐธรรมนูญจงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญเสียเอง คณะรัฐมนตรีก็ชอบที่จะทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชวินิจฉัยว่าคณะรัฐมนตรีต้องพ้นจาก การอยู่ในตำแหน่งตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเกินจากรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะคณะรัฐมนตรีได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง การจะพ้นไปก็สมควรที่จะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พ้นไป มิใช่ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ชี้ขาดเสียเองโดยฝ่าฝืนมาตรา 181 ดังกล่าว โดยในระหว่างทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชวินิจฉัยนั้นให้กราบบังคมทูลด้วยว่า คณะรัฐมนตรีจะคงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามมาตรา 181 การทูลเกล้าฯ ขอพระบรมราชวินิจฉัยเช่นนี้ ก็เพื่อให้เกิดข้อยุติอันจะนำมาซึ่งความสงบสุขของบ้านเมือง โดยมิต้องเกิดการใช้กำลังของกลุ่มคน 2 กลุ่มเข้าก่อเหตุร้ายต่อกัน และป้องกันมิให้คณะรัฐมนตรีกระทำผิดตามมาตรา 181 ด้วย

ศอ.รส. เห็นว่ามาตรา 181 เป็นหลักการอันสำคัญของการบริหารประเทศที่ป้องกันไม่ให้เกิดสุญญากาศหรือช่องว่าง โดยจะไม่มีรัฐบาลบริหารประเทศไม่ได้เป็นอันขาดในทุกๆ กรณี ซึ่งในอดีตรัฐธรรมนูญทุกฉบับก็บัญญัติไว้ทำนองเดียวกับมาตรา 181

ทั้งนี้แหล่งข่าวจากศอ.รส.เปิดเผยว่า ที่มาของแถลงการณ์เกิดจากการหารือร่วมกันจากทุกฝ่ายของศอ.รส. ในกรณีที่หากมีคำวินิจฉัยขององค์กรอิสระออกมาไม่เป็นที่ยอมรับ ศอ.รส.ในฐานะหน่วยงานความมั่นคง ต้องหาแนวทางแก้ไขปัญหา เพราะจะมีประชาชน ออกมาเคลื่อนไหวอีกจำนวนมาก จึงต้องแก้ปัญหาที่มีรากฐานแต่ต้นทางด้วยการออกแถลงการณ์ ซึ่งศอ.รส.ได้มีการหารือกันทางลับก่อนในช่วงก่อนสงกรานต์ มาก่อนแล้ว และฝ่ายกฎหมายเองก็สกรีนเนื้อหาให้แล้ว ว่าไม่ได้มีเนื้อหาก้าวล่วง หรือเป็นข้อบังคับให้ใครต้องปฏิบัติตาม

ทั้งนี้รายงานข่าวจากคนในรัฐบาลระบุว่าการนำเสนอแนวคิดครั้งนี้ เนื่องจากคนในพรรคเพื่อไทยต้องการบีบให้มีการตั้งรัฐบาลผสม และพรรคเพื่อไทยเป็นผู้ขอเลือกนายกฯด้วยตัวเอง โดยระบุว่าไม่มีทางที่ใครจะได้ชัยชนะเด็ดขาดเบ็ดเสร็จ และหากไม่ได้ก็จะเกิดความรุนแรง