ญี่ปุ่นเล็งจับตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม

ผู้อำนวยการแผนกการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยน ศูนย์อาเซียน-ญี่ปุ่น หรือเอเจซี "นายดานันจายา อะซิโอมา" เปิดเผยว่า แผนการเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมากขึ้น ช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวหลังจากซบเซามานาน รวมทั้งเตรียมการสำหรับรับมือกับนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในปี 2563 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โดยเอเจซีมีหน้าที่ให้การศึกษาเจ้าหน้าที่ บริษัท และผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของญี่ปุ่น ให้ทราบถึงความต้องการของนักท่องเที่ยวมุสลิม

เดือนที่แล้ว เอเจซีเป็นเจ้าภาพจัดการสัมมนาในสี่เมืองเรื่อง "การต้อนรับนักท่องเที่ยวมุสลิม" มีแผนพัฒนาเว็บไซต์ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับชาวมุสลิมแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น นายอะซิโอมา กล่าวกับผู้สื่อข่าวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มาเยือนญี่ปุ่นเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า ญี่ปุ่นมีนโยบายพิเศษให้ความสนใจกับนักท่องเที่ยวมสุลิม ซึ่งค่อนข้างมีมาตรการรณรงคฺ์ที่เข้มข้น

ผู้อำนวยการแผนกการท่องเที่ยวและแลกเปลี่ยนกล่าวด้วยว่า โอลิมปิก 2020 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนญี่ปุ่นมากขึ้น รวมทั้งชาวมุสลิม ญี่ปุ่นจึงยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย และคาดว่านักท่องเที่ยวจากไทยจะเพิ่มจำนวนขึ้นด้วย และองค์การการท่องเที่ยวหลายแห่งช่วยเหลือวิ่งเต้นขอระเบียบวีซ่าแบบเดียวกันนี้สำหรับประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาทิ ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย

ทั้งนี้ รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ตั้งเป้าว่าจะดึงนักท่องเที่ยวมาญี่ปุ่น 25 ล้านคนภายในปี 2563

นายอะซิโอมากล่าวต่อว่า ธุรกิจต่าง ๆ ของญี่ปุ่นกำลังสนใจเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมมุสลิม เนื่องจากการไหลทะลักของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมาเลเซียและอินโดนีเซีย เอเจซีอบรมชาวญี่ปุ่นให้ทราบว่า การบริการนักท่องเที่ยวมุสลิมนั้นไม่ใช่เรื่องยาก ตัวอย่างเช่น หากบริษัททัวร์ไม่สามารถเตรียมอาหารฮาลาลไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ เนื่องจากอาหารฮาลาลไม่ได้มีบริการอย่างกว้างขวางในญี่ปุ่น แต่พวกเขาได้รับการอบรมว่า สามารถหาสถานที่ที่เหมาะสมต่อชาวมุสลิม เช่น ร้านอาหารที่ไม่ขายเนื้อหมู หรือมีเมนูเนื้อหมูไม่กี่อย่าง

เอเจซียังมีแผนแนะนำสินค้าฮาลาลต่อนักธุรกิจญี่ปุ่นด้วย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการโรงแรมได้รับข้อมูลให้เตรียมพื้นที่ละหมาดไว้ให้นักท่องเที่ยวมุสลิม และสอนเกี่ยวกับ "คิบลา" หรือทิศทางของเมกกะที่ชาวมุสลิมต้องหันหน้าขณะละหมาด ซึ่งผู้ประกอบการตอบรับเรื่องนี้เป็นอย่างดี

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีประชากรมุสลิมจำนวนมาก อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลกกว่า 200 ล้านคน และประชากรกว่าครึ่งหรือ 17 ล้านคนของมาเลเซียเป็นมุสลิม ส่วนฟิลิปปินส์มีประชากรมุสลิมราว 4.6 ล้านคน