อียูเลื่อนแจกใบแดงประมงไทยเป็นธ.ค.

อียูเลื่อนแจกใบแดงประมงไทยเป็นธ.ค.

สหภาพยุโรป หรืออียู เลื่อนการตัดสินใจว่าจะห้ามนำเข้าสินค้าประมงของไทยหรือไม่ออกไปเป็นเดือนธันวาคม

สหภาพยุโรป หรืออียู เลื่อนการตัดสินใจว่าจะห้ามนำเข้าสินค้าประมงของไทยหรือไม่ออกไปเป็นเดือนธันวาคม แต่เตือนไต้หวันว่า ยังดำเนินการไม่เพียงพอในการปราบปรามประมงผิดกฎหมาย

ทั้งนี้ อียู กำลังปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมายและปัญหาแรงงานทาส ภายใต้กฎระเบียบว่าด้วยการป้องกัน ยับยั้งและขจัดการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม หรือไอยูยู โดยที่ผ่านมา อียูได้ลงโทษด้วยการห้ามนำเข้าสินค้าประมงจากเรือประมงของกัมพูชา กินีและศรีลังกาไปแล้ว หลังจากสามประเทศล้มเหลวในการปฏิรูปภาคการประมงของตนเอง

เจ้าหน้าที่ในคณะกรรมาธิการยุโรปรายหนึ่ง ระบุว่า ในส่วนของไทย ซึ่งถือเป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารทะเลรายใหญ่สุดอันดับ 3 ของโลกนั้น ยังมีความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยมกับอียู แต่ไทยก็ยังมีงานต้องทำอีกมากเพื่อให้ความพยายามแก้ไขปัญหานี้มีความก้าวหน้า

เมื่อเดือนเม.ย. ไทย ได้รับใบเหลืองจากอียู ส่งผลให้อุตสาหกรรมประมงของประเทศเผชิญหน้ากับปัญหาความวุ่นวายและกระตุ้นให้ชาวประมงประท้วงด้วยการหยุดออกเรือหาปลา โดยอ้างว่ามาตรการต่างๆที่รัฐบาลออกมาเพื่อหยุดยั้งการทำประมงผิดกฎหมายไม่ยุติธรรม

อียู ได้ให้เวลาไทย 6 เดือน เพื่อเพิ่มความพยายามต่อสู้กับการทำประมงผิดกฎหมาย มิฉะนั้นอาจเสี่ยงเจอมาตรการคว่ำบาตร ซึ่งเวลา 6 เดือนที่ว่า จะสิ้นสุดในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม แต่คณะกรรมาธิการยุโรปตัดสินใจจะรอจนถึงเดือนธันวาคม ก่อนจะตัดสินใจว่าจะขึ้นบัญชีดำการส่งออกอาหารทะเลของไทยหรือไม่

ขณะที่ไต้หวัน ซึ่งส่งออกสินค้าประมงไปอียูราว 13 ล้านยูโรต่อปี ถูกแจกใบเหลืองเมื่อวันพฤหัสบดี(1ต.ค.) ในฐานะที่ล้มเหลวในการดำเนินการอย่างจริงจังเกี่ยวกับกรอบกฎหมายด้านการประมง และบทลงโทษยังไม่เพียงพอที่จะยับยั้งการทำประมงผิดกฎหมาย อีกทั้งระบบติดตามเรือระยะไกลยังไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งไต้หวันมีเวลา 6 เดือนที่จะจัดการปัญหาเหล่านี้