'สัปเหร่อ' 600 ล้าน ขึ้นแท่นหนังไทยทำรายได้มากสุดในรอบทศวรรษ

'สัปเหร่อ' 600 ล้าน ขึ้นแท่นหนังไทยทำรายได้มากสุดในรอบทศวรรษ

รายได้หนังสัปเหร่อ ล่าสุดขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้มากที่สุดในรอบ 10 ปีหรือรอบทศวรรษ ล่าสุดรายได้จากทั่วประเทศทะยานไปอยู่ที่ 600 ล้านแล้ว

"รายได้หนังสัปเหร่อ" ล่าสุดขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้มากที่สุดในรอบ 10 ปีหรือรอบทศวรรษ โดย Major Group เผยว่ารายได้จากทั่วประเทศทะยานไปอยู่ที่ 600 ล้านแล้ว 

ภาพยนตร์ไทบ้าน 'สัปเหร่อ' ที่เข้าฉายตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ล่าสุดเข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 แล้ว แต่ต้องบอกว่ายังแรงไม่ตกโกยรายได้ไปแล้ว 600 ล้านทั่วประเทศ พร้อมขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้มากที่สุดในรอบ 10 ปีหรือรอบทศวรรษด้วย

โดย Major Group ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า "เจิดจิ๊ดหลาย 600 ล้านทั่วประเทศไปเลยเด้อพ่อ สัปเหร่อ เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 แห่งการฉายยังแฮงบ่ตกเลยเด้อสู ขึ้นแท่นหนังไทยที่ทำรายได้มากที่สุดในรอบ 10 ปี"

 

 

\'สัปเหร่อ\' 600 ล้าน ขึ้นแท่นหนังไทยทำรายได้มากสุดในรอบทศวรรษ

หนังสัปเหร่อ ของผู้กำกับ ต้องเต ธิติ ศรีนวล สร้างปรากฏการณ์กระแสฟีเวอร์โกยรายได้อย่างไม่หยุดยั้ง ทำเอานายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน นำคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อม อุ๊งอิ๊ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในฐานะรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เหมาโรงภาพยนตร์เพื่อดูหนัง "สัปเหร่อ" 

 

\'สัปเหร่อ\' 600 ล้าน ขึ้นแท่นหนังไทยทำรายได้มากสุดในรอบทศวรรษ

 

สัปเหร่อ เป็นภาคแยกใน"จักรวาลไทบ้าน"เดอะซี่รี่ส์ เป็นภาพยนตร์แนวสยองขวัญ-ตลก บอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านโนนคูณ จ.ศรีสะเกษ โดยตัวละคร เจิด ที่เพิ่งเรียนจบด้านกฎหมาย และได้กลับบ้านเกิดเพื่อเตรียมสอบเป็นทนายหรือปลัดอำเภอ โดยมีคุณพ่อ คือ สัปเหร่อศักดิ์ ทำอาชีพสัปเหร่อคนเดียวในตำบล และมีอาการป่วย เขาอยากให้ลูกที่เรียนจบรับช่วงต่อ ซึ่งลูกก็ทำหน้าที่ ทำงานแทนพ่อทั้งที่กลัวผีมาก

นอกจากนี้ยังเล่าเรื่องตีคู่คือ เซียง ชายหนุ่มที่ยังทำใจไม่ได้ที่คนรักเก่า ใบข้าว" ตายชีวิตไปแล้ว จึงพยายามหาวิธีด้วยการศึกษาทฤษฎีต่างๆ ตามประเพณี ความเชื่อในวิถีพื้นบ้าน เพื่อที่จะได้พบเธอในโลกหลังความตาย และกลับไปพบพ่อของเจิดที่รอการทำพิธีถอดจิตไปโลกความฝัน ซึ่งพ่อเจิดเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถทำพิธีถอดจิต เลยนำมาสู่ข้อแลกเปลี่ยน เซียงต้องมาช่วยเจิดทำอาชีพสัปเหร่อ ซึ่งเรื่องนี้จะสะท้อนให้เห็นว่าสุดท้ายทุกอย่างมีเวลาของมัน ทุกคนเกิดมาต้องตาย มันคือธรรมชาติของความจริง ทุกคนเรียนรู้และเข้าใจการยื้อและการเสียคนที่รักจากไป