“ฮ่องกง” จัด "นิทรรศการแฟชั่น" ครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย

“ฮ่องกง” จัด "นิทรรศการแฟชั่น" ครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย

The Mastery of Craft in Fashion "นิทรรศการแฟชั่น" ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชีย จัดแสดงเรื่องราวกว่า 30 ปี ของงานออกแบบแฟชั่นระดับตำนานที่หาชมยาก...

เป็นโอกาสดีที่สายแฟชั่นและสายศิลป์ จะได้ชม นิทรรศการแฟชั่น ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของเอเชียที่ ฮ่องกง โดย Adrian Cheng ซีอีโอของ New World Development และ Carine Roitfield ผู้เคยดำรงตำแหน่งเป็น Editor-in-Chief ของนิตยสาร VOGUE Paris และ K11 MUSEA จัดนิทรรศการในชื่อ Savoir-Faire: The Mastery of Craft in Fashion นำเสนอเรื่องราวกว่า 30 ปี ของงานออกแบบแฟชั่นระดับตำนาน ถ่ายทอดผ่านงานหัตถศิลป์ชั้นยอด

“ฮ่องกง” จัด \"นิทรรศการแฟชั่น\" ครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย    กระเป๋าดิออร์ จัดแสดงใน Auction room

นิทรรศการแฟชั่น ครั้งนี้จะทำให้ผู้เข้าชมดำดิ่งสู่โลกแห่งแฟชั่นโอต์กูตูร์ และเสื้อผ้าเรดี้ทูแวร์ จากดีไซเนอร์แถวหน้าของโลก รวมถึงผลงานที่ไม่เคยนำไปจัดแสดงที่ใดมาก่อนจากแบรนด์ที่ได้รับการยกย่องในยุคปัจจุบัน

เรื่องราวเริ่มต้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 จนถึงปัจจุบัน อันเป็นยุคสมัยของ savoir-faire (หรือ know how) ซึ่งนักออกแบบผู้มีพรสวรรค์รวมถึงนักออกแบบแฟชั่นกูตูร์ใช้เป็นแรงผลักดัน และใช้ถ่ายทอดวิสัยทัศน์ของพวกเขาผ่านผลงานแฟชั่น โดยแต่ละผลงานที่จัดแสดงจะเผยให้เห็นว่าแฟชั่นตั้งแต่แบรนด์แฟชั่นเฮาส์ ที่ได้รับการยกย่องสูงสุดไปจนถึงแฟชั่น อาวองต์ การ์ด จากดีไซเนอร์อิสระเป็นอย่างไร

นอกจากนี้ยังจัดแสดงชิ้นงาน สิ่งประดิษฐ์จีน ที่หายาก และชิ้นงานต่าง ๆ จาก K11 Craft & Guild Foundation ซึ่งเป็นสถานที่เพื่อเก็บรักษา และอนุรักษ์สิ่งประดิษฐ์จีนที่หาได้ยากแห่งแรกของเอเชีย

งาน นิทรรศการแฟชั่น ที่หาชมยากนี้ เกิดจากความเชี่ยวชาญด้านแฟชั่นและผลงานของ K11 Craft & Guild Foundation ซึ่งคัดเลือกนำมาจัดแสดงอย่างพิถีพิถัน ร่วมกับ Carine Roitfeld โดย Roitfeld ได้วางแผนอนาคตไว้ว่า จะสามารถสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ โดยรวบรวมผลงานจากฝั่งตะวันตก และเทคนิคด้านแฟชั่นต่าง ๆ ที่สะท้อนความงามฝั่งตะวันออก ชิ้นงานประวัติศาสตร์ระดับไอคอนเหล่านี้ นำมาจัดแสดงเคียงข้างคอลเลคชั่น K11 Craft & Guild ด้วย

 

คำแนะนำเข้าชมงาน The Savoir-Faire Journey ผ่าน “การเดินทางอันน่าอัศจรรย์” ทุกโซนดีไซน์ออกมาอย่างพิถีพิถัน โดยบอกเล่าเรื่องราวเบื้องหลังที่น่าสนใจผ่านชิ้นงานทุกชิ้น ซึ่งไม่ได้มีเพียงชิ้นงานทางประวัติศาสตร์ที่งดงามจากแฟชั่นไอคอนที่ใหญ่ที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชิ้นงานหายากจากคอลเลคชั่นของสะสมส่วนตัวของ Roitfeld โดยจัดแบ่งเป็น 5 บรรยากาศ 5 โซน ดังนี้

“ฮ่องกง” จัด \"นิทรรศการแฟชั่น\" ครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย    โซน Atelier Tailleur

1   Atelier Tailleur  :  จัดแสดงผลงานชุดสูทผ้าทวีดของ ชาเนล (Chanel) จนถึงผลงานของ อเล็กซานเดอร์ แมคควีน (Alexander McQueen) ร่วมด้วยผลงานจากแบรนด์แฟชั่นชั้นนำต่าง ๆ อาทิ คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior), ฌอง ปอล โกติเยร์ (Jean Paul Gaultier),  มูแกลร์ (Mugler) และ แซงต์ ลอรองท์ (Saint Laurent) ชมคอลเลคชั่นผลงานระดับประวัติศาสตร์ที่ตัดเย็บอย่างประณีต จัดแสดงเคียงข้างกับชิ้นงานตกแต่งที่หายากจาก K11 Craft and Guild Foundation อาทิ กล่องแล็กเกอร์ Baibaoqian และจานกระเบื้องเคลือบ Guangcai

โซนนี้เริ่มต้นโดยนำเสนอจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการก้าวข้ามวัฒนธรรม เช่น การส่งออกงานฝีมือจากประเทศจีนไปยังตะวันตก และการสื่อสารโดยใช้ภาษาอังกฤษ ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและความคิด รวมถึงงานฝีมือต่าง ๆ  ชิ้นงานเทลเลอร์ที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีตนั้นเปรียบเสมือนกล่อง Baibaogian ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างซับซ้อนจากวัสดุล้ำค่า สะท้อนให้เห็นถึงความงามเหนือระดับจากผลงานที่แตกต่างกัน

“ฮ่องกง” จัด \"นิทรรศการแฟชั่น\" ครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย   Extreme Craft

2  Tales From the Runway : กูตูร์ คือสิ่งที่สร้างจากความฝัน สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงการเดินทางที่เปลี่ยนแปลงและเป็นนามธรรม แบรนด์ที่นำเสนอในโซนนี้ ได้แก่ ซีลีน (Celine), คริสเตียน ดิออร์ (Christian Dior), หลุยส์ วิตตอง (Louis Vuitton), แมตตี้ โบแวน (Matty Bovan), ริชาร์ด ควินน์ (Richard Quinn) และ วาเลนติโน (Valentino)

ในส่วนของ K11 Craft and Guild Foundation ได้แก่ โคมไฟแจกัน Guangcai สมัย Xianfeng และตู้ Guangcai ที่มีภาพวาดที่มีบทกวีร้อยแก้วจีนที่มีชื่อเสียง "Peach Blossom Spring" โดย Tao Yuanming นำเสนอการใช้วัสดุที่แตกต่างกันในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันที่ปรับให้เข้ากับการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์

“ฮ่องกง” จัด \"นิทรรศการแฟชั่น\" ครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย    Modern Reinvention กับกล่องแปดเหลี่ยม

3   Modern Reinvention : เผยให้เห็นดีไซน์ร่วมสมัยที่สร้างจากเทคนิคที่เก่าแก่ ตีความหมายของแฟชั่นยุควิคทอเรีย ซึ่งบ่งบอกถึงวัฒนธรรมการรีมิกซ์ แบรนด์ที่นำเสนอในโซนนี้ ได้แก่ บาเลนเซียก้า (Balenciaga), ชาเนล (Chanel),  ไอริส แวน ฮาร์เพน (Iris Van Herpen), โลเอเว่ (Loewe), ริชาร์ด ควินน์ (Richard Quinn)  และ ชิอาพาเรลลี (Schiaparelli)

สำหรับชิ้นงานจาก K11 Craft and Guild Foundation ได้แก่ ตู้ Luodian กล่องกลมเคลือบ Luodian และกล่องแปดเหลี่ยม Luodian แสดงให้เห็นว่าสไตล์สมัยใหม่และแรงบันดาลใจนั้นหยิบยืมมาจากประวัติศาสตร์ ในขณะเดียวกันประวัติศาสตร์ก็เก็บรักษาเอาไว้ด้วยเทคนิคใหม่ ๆ ที่ทันสมัยด้วยเช่นกัน

“ฮ่องกง” จัด \"นิทรรศการแฟชั่น\" ครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย

   นิทรรศการแฟชั่น จัดแสดงเคียงคู่กับชิ้นงานศิลปะ

4    Extreme Craft : การเปลี่ยนขอบเขตของแฟชั่นและรสนิยมยังหมายถึงการเปลี่ยนขอบเขตของงานฝีมือ ความงาม และรสนิยม แฟชั่นที่อยู่เหนือบรรทัดฐานความงาม ในโอกาสพิเศษนี้จะได้เห็นงานฝีมือที่ไม่ธรรมดา และมีวิวัฒนาการไปตามยุคสมัย ส่วนกูร์ตูร์มักจะนำแฟชั่นมาบรรจบกับนวัตกรรมและเทคนิคที่ยั่งยืน แบรนด์ที่นำเสนอโซนนี้ได้แก่  อเล็กซานเดอร์ แมคควีน (Alexander McQueen), จิวองชี่ (Givenchy), พาโก ราบานน์ (Paco Rabanne), ทอม ฟอร์ด (Tom Ford), ทอม แวน เดอ บอร์กจ์ (Tom Van Der Borght) และ วิคเตอร์ แอนด์ รอล์ฟ (Viktor and Rolf)

สำหรับชิ้นงานจาก K11 Craft and Guild Foundation คือสิงโตที่ทำจากปูนปลาสเตอร์อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเป็นแบบจำลองที่ตั้งอยู่ตรงหลังคาห้องโถงในกวางโจว

“ฮ่องกง” จัด \"นิทรรศการแฟชั่น\" ครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย    Bridal Couture

5   Bridal Couture : การจัดแสดงผลงานชิ้นประณีตของชุดเจ้าสาวบนรันเวย์ โดยรวมเอาวิถีแฟชั่นชั้นสูงบนรันเวย์และงานนิทรรศการมาสรุปเป็นบทใหม่ด้วยตัวแทนของชุดแต่งงานในรูปแบบที่ต่างออกไปจากขนบธรรมเนียมเดิม โดยแบรนด์ชื่อดังที่จัดแสดงในโซนนี้ ได้แก่ ชาเนล (Chanel), จิวองชี่ (Givenchy), มูแกลร์ ( Mugler), ออสการ์ เดอ ลา เรนต้า (Oscar De La Renta), วาเลนติโน (Valentino) และ เวอร์ซาเช่ (Versace)

สำหรับชิ้นงานจาก K11 Craft and Guild Foundation จัดแสดงสิ่งของต่าง ๆ ที่มีความหมายในวันแต่งงาน ทั้งห้องแต่งตัว Baibaoqian และชุดน้ำชา Guangcai ในวัฒนธรรมตะวันตก

“ฮ่องกง” จัด \"นิทรรศการแฟชั่น\" ครั้งใหญ่ที่สุดของเอเชีย   โซน Tales From the Runway

นิทรรศการ Savoir-Faire : The Mastery of Craft in Fashion เปิดให้เข้าชมทุกวัน ชมได้ถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 12.00 – 20.00 น. (รอบสุดท้ายเวลา 19.00 น.)

สถานที่ : K11 Art & Cultural Centre, 6/F, K11 MUSEA, Victoria Dockside, 18 Salisbury Road, Tsim Sha Tsui, Hong Kong (ย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง)

บัตรเข้าชม : จองและสอบที่ https://www.k11musea.com/happenings/savoir-faire-the-mastery-of-craft-in-fashion-1/

ราคา : วันจันทร์ – พฤหัสบดี ราคาคนละ 70 ดอลลาร์ฮ่องกง

วันศุกร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ราคา 100 ดอลลาร์ฮ่องกง   *เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าชมฟรี