จอดรถหลบโควิด

หลายคนเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาว่ารถยนต์ที่ถูกจอดทิ้งเอาไว้นานในภาวะวิกฤติโควิดนี้ จะมีความเสียหายใดเกิดขึ้นกับตัวรถได้บ้าง หรือจะต้องทำอย่างไรกับรถยนต์ที่ต้องจอดนานๆ เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดตามมา บทความนี้มีความคำตอบ

นับตั้งแต่เดือนมกราคมหรือตั้งแต่ปีใหม่เป็นต้นมา ราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงประกาศลดราคาลงมาเรื่อยๆ บางสัปดาห์ลดราคาลงมาถึง 3 ครั้งด้วยกัน จนกระทั่งถึงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ถือว่าเป็นราคาจำหน่ายปลีกที่ต่ำที่สุดในรอบนับสิบปีก็ว่าได้ เหตุที่เกิดขึ้นมีนักวิเคราะห์กล่าวเอาไว้ว่า เป็นเพราะผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก 3 ประเทศหลักคือ สหรัฐ, รัสเซีย และซาอุดีอาระเบีย ต่างแข่งกันขุดน้ำมันดิบขึ้นมาขายเพื่อนำเอาเงินเข้าประเทศ ทำให้เกิดการขายตัดราคากันอย่างรุนแรง

แต่ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นตัวเร่งให้น้ำมันดิบมีราคาจำหน่ายลดลงอย่างรวดเร็วด้วย นั่นคือการระบาดของไวรัสโควิด-19 เริ่มจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เพราะทันทีที่การระบาดแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว พอถึงกลางเดือนมกราคมของปีนี้ สายการบินในประเทศจีนก็เริ่มประกาศงดทำการบินเกือบทั้งประเทศ อีกทั้งสายการบินของต่างชาติที่มีเส้นทางบินไปและกลับออกมาจากจีนก็เริ่มประกาศงดทำการบินด้วยเช่นกันต่อมา

เมื่อระบาดไปสู่ยุโรปและลุกลามไปทั่วโลก สายการบินต่างๆ จึงประกาศงดทำการบินมากขึ้นจนเกือบจะหยุดทำการบินกันทั้งโลกก็ว่าได้ ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงอย่างปัจจุบันทันด่วน ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงตามไปด้วย แต่ก็ต้องพึงระวังเอาไว้ด้วยเช่นกันว่า หากถึงเวลาที่น้ำมันประกาศขึ้นราคาการปรับราคาขาขึ้น ก็อาจจะเป็นการขึ้นอย่างพรวดพราดเหมือนตอนขาลงได้เช่นกัน

แม้ว่าปัจจุบันราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงที่หน้าปั๊มจะลดลงมาก แต่ด้วยความที่รัฐบาลเกือบทุกประเทศ รวมทั้งไทยมีการควบคุมการเดินทางอย่างเข้มงวดและส่งเสริมให้ทำงานและเรียนหนังสือจากบ้านมากขึ้น การใช้รถยนต์ก็ยังอยู่ในระดับที่น้อยมากแทบจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงที่การจราจรบนท้องถนน โล่งมากที่สุดในรอบหลายสิบปี

เจ้าของรถยนต์บางคนต้องจอดรถอยู่กับบ้านนานนับเดือน ทำให้เกิดความวิตกกังวลขึ้นมาว่ารถยนต์ที่ถูกจอดทิ้งเอาไว้นานเช่นนั้นจะมีความเสียหายใดเกิดขึ้นกับตัวรถได้บ้าง หรือจะต้องทำอย่างไร กับรถยนต์ที่ต้องจอดนานๆเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดตามมา

การจอดรถยนต์ทิ้งไว้เป็นเวลานาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศร้อนจัดอย่างเวลานี้ สิ่งที่ควรทำอย่างยิ่งเพื่อลดการสึกหรอหรือความเสียหายก็คือ ประการแรก ควรติดเครื่องยนต์ขึ้นมาอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง โดยต้องติดจนเข็มวัด ความร้อนกระดิกขึ้นมาจะช่วยให้น้ำมันเครื่องถูกสูบฉีดขึ้นไปหล่อลื่น และเคลือบบริเวณด้านบนของตัวเครื่องบ้าง และจะช่วยให้ชิ้นส่วนต่างๆ ได้เคลื่อนที่ขยับตัวบ้าง รวมถึงทำให้ระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงได้ทำงานอีกด้วย

เช่นเดียวกันกับน้ำในระบบหล่อเย็นจะถูกหมุนเวียนไปทั่วๆ เพราะหากจอดรถยนต์ทิ้งไว้นานๆ โดยไม่ติดเครื่องยนต์ขึ้นมาเลยน้ำในระบบหล่อเย็นจะอยู่นิ่งๆ จนมีการตกตะกอนเกิดขึ้น ตะกอนเหล่านั้นเป็นต้นเหตุทำให้เกิดสนิม ในจุดดังกล่าวได้ง่าย

อีกทั้งเทอร์โมสตรัทหรือวาล์วน้ำก็จะนิ่งอยู่กับที่ไม่มีการขยับตัว ซึ่งอาจจะมีตะกรันไปจับและทำให้วาล์วน้ำติดขัด เมื่อต้องใช้งาน รถยนต์วาล์วน้ำก็จะติดและไม่เปิดยกขึ้นมาให้น้ำในระบบหล่อเย็นไหลผ่าน ส่งผลให้เครื่องยนต์เกิดความร้อนสูงจัดหรือโอเวอร์ฮีทขึ้นมาได้

วิธีการติดเครื่องยนต์ควรทำดังต่อไปนี้คือ เมื่อติดเครื่องยนต์ขึ้นมา แล้วให้ปล่อยฟรีเครื่องในรอบเดินเบาเอาไว้สัก 1 นาที จากนั้นให้เร่งเครื่อง ขึ้นทีละน้อยจนกระทั่งรอบเครื่องยนต์สูงถึง 1,500-2,000 รอบ/นาที แล้วอยู่ระดับนั้นประมาณ 1 นาที ก่อนที่จะลดคันเร่งลงไปอยู่ที่รอบเดินเบาปรกติ ทำสลับกันอย่างนั้นไปมาสักห้าหกครั้งหรือประมาณสัก 4 หรือ 5 นาที หรือจนกว่าเข็มวัดความร้อนของน้ำในระบบหล่อเย็นจะกระดิกขึ้นมาแล้วจึงค่อยดับเครื่องยนต์

แต่หากทำให้รถยนต์ได้เคลื่อนที่บ้างก็จะดียิ่งขึ้น ด้วยการติดเครื่องและขับไปประมาณสัก 10 กิโลเมตร เพื่อให้ชิ้นส่วนต่างๆ ได้ขยับตัว ทำงานทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งชิ้นส่วนที่เป็นยางและระบบเบรกซึ่งเสียหาย ง่ายที่สุดรวมทั้งทำให้ช๊อคแอบซอร์เบอร์ได้ขยับตัวเคลื่อนที่ เป็นการป้องกันไม่ให้เสียหายด้วยเช่นกัน

ในกรณีที่ต้องจอดรถทิ้งไว้กลางแจ้ง ซึ่งมีช่วงที่โดดแดดส่องถึงและมีความร้อนอบอยู่ในห้องโดยสารสูงจัด ควรเปิดประตูรถทุกบานเพื่อระบายความร้อนในห้องโดยสารให้ออกมาอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และหากเป็นรถยนต์ที่มีหลังคาเปิดได้หรือซันรูฟ ควรเปิดซันรูฟอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง การเปิดประตูทุกบานรวมทั้งฝากระโปรงท้ายและการเปิดซันรูฟนั้น จะช่วยลดความเสียหายของยางขอบประตูและยางขอบซันรูฟไม่ให้เสื่อมสภาพ

หากเป็นไปได้เมื่อเปิดขึ้นมาแล้วให้ใช้แป้งฝุ่นทาตัวลูบบางๆ ให้ทั่วบรรดายางขอบประตูและขอบซันรูฟ เพื่อป้องกันการละลายของยางขอบประตูจนเหนียวติดกันและฉีกขาดในที่สุด

และสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการจอดรถทิ้งไว้นานๆ พึงระวังหนูเข้าไปทำรังในห้องเครื่องหรือเข้าไปกัดสายไฟต่างๆ จนเกิดความเสียหาย การป้องกันที่ดีคือ พยายามเปิดฝากระโปรงหน้ารถเอาไว้บ่อยๆ หรือนำรถไปขับเคลื่อนที่บ่อยๆ ก็จะลดเหตุการณ์ดังกล่าวลงไปได้ครับ