CHAGEE มหานคร Tea Bar สูงที่สุดในโลก เสิร์ฟ Teaspresso วิวหลักล้าน

เปิดตัว CHAGEE มหานคร “Tea Bar สูงที่สุดในโลก” เสิร์ฟวัฒนธรรมชาสมัยใหม่ เชื่อมโยงผู้คนด้วยเมนูซิกเนเจอร์ Teaspresso ชาพรีเมียมจากยูนนาน ท่ามกลางวิวหลักล้านบนชั้น 74
KEY
POINTS
- CHAGEE เปิดตัวสาขาใหม่บนชั้น 74 อาคารคิง เพาเวอร์ มหานคร สร้างสถิติเป็น Tea Bar ที่สูงที่สุดในโลก
- มอบประสบการณ์การจิบชาพรีเมียมพร้อมชมทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ แบบพาโนรามา 360 องศา
- ชูเมนูเด่น "Teaspresso" ซึ่งเป็นนวัตกรรมการชงชาด้วยเครื่องสกัดเฉพาะที่ให้รสชาติและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
CHAGEE แบรนด์ชาชื่อดังที่มีหลายพันสาขาทั่วโลก ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญในกรุงเทพฯ ด้วยการเปิดตัวสาขาใหม่สุดปังกับ CHAGEE Mahanakhon คอนเซ็ปต์สโตร์บนชั้น 74 อาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร ซึ่งนับว่าเป็น Tea Bar ที่สูงที่สุดในโลก ด้วยวิสัยทัศน์ที่ต้องการให้ "ชา" เป็นตัวเชื่อมโยงผู้คน ท่ามกลางบรรยากาศตึกสูงวิวสวยหลักล้าน พร้อมมอบประสบการณ์การดื่มชาจีนแท้ๆ สุดพรีเมียม ที่มาพร้อมหัวใจหลักที่ว่า การดื่มชาต้องไม่รู้สึกผิด ตอบโจทย์คอชาสายสุขภาพ
สำหรับ CHAGEE Mahanakhon เป็นสาขาใหม่ล่าสุดของทางแบรนด์ ที่เปิดตัวอยู่บนชั้น 74 ของอาคาร คิง เพาเวอร์ มหานคร โดยสาขานี้ตอกย้ำจุดยืนของแบรนด์ด้วยการเป็น CHAGEE Tea Bar ที่สูงที่สุดในโลก มอบโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ "จิบชาเหนือเมฆ" พร้อมดื่มด่ำกับวิวตระการตาแบบ 360 องศา ที่หาจากที่ไหนไม่ได้
Tea Bar แห่งนี้ถูกออกแบบอย่างพิถีพิถันในสไตล์มินิมอลที่เรียบง่าย แต่สง่างาม โดยดึงความงดงามของเส้นขอบฟ้าและทิวทัศน์ของกรุงเทพฯ มาเป็นหัวใจในการดีไซน์ ด้วยการใช้กระจกและพื้นผิวสะท้อนแสง เพื่อสะท้อนและเชื่อมต่อความงดงามของวิวภายนอกสู่บรรยากาศภายในร้านอย่างลงตัว รวมถึงการจัดวางที่นั่งหันออกสู่วิวท้องฟ้า ชวนให้ผู้มาเยือนได้ชะลอความเร่งรีบของการชีวิตคนเมือง และเพลิดเพลินไปกับการซึมซับวิวพาโนรามาสุดอลังการในมุมสูง
'อยากเชื่อมโยงผู้คนด้วยวัฒนธรรมชาสมัยใหม่' วิสัยทัศน์ที่อยากส่งต่อถึงคอชา
ชุมพิชา พัฒนาหิรัญ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด CHAGEE ประเทศไทย ย้ำถึงความตั้งใจของแบรนด์ว่า ไม่ได้ต้องการเป็นเพียงร้านชาทั่วไป แต่ต้องการสร้างประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่าง โดยเฉพาะการจิบชาจากมุมสูงของตึกสวยบนชั้น 74
เธอชี้ว่า “วิวที่นี่คือสตันนิ่งมาก หาที่ไหนในกรุงเทพฯ ไม่ได้แล้ว เรารู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ได้เปิด CHAGEE Tea Bar ที่สูงที่สุดในโลก ณ กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญของทางแบรนด์ในการยกระดับวัฒนธรรมการดื่มชาสมัยใหม่เผยแพร่สู่ผู้คนทั่วทั้งโลก” ชุมพิชา เล่าถึงจุดเด่นสุดจึ้งของสาขาล่าสุดนี้ให้ฟัง
สำหรับคอนเซ็ปต์ของ CHAGEE Mahanakhon นั้น เธอเน้นย้ำว่า “เราต้องการให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนได้สัมผัสประสบการณ์การดื่มชาในรูปแบบใหม่ ท่ามกลางวิวเมืองอันงดงาม ผสานการออกแบบสุดประณีต และสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกคนได้กลับมาค้นพบว่า ‘ชา’ คือตัวกลางเชื่อมโยงผู้คนเข้าด้วยกันไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม”
แบรนด์ CHAGEE มีปรัชญาหลักคือ “CHAGEE Together” โดยมีความเชื่อว่าชาไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่เป็นจุดกึ่งกลางในการพบปะ สื่อสาร และส่งต่อข้อมูลระหว่างผู้คน คอนเซ็ปต์ของ CHAGEE ทุกสาขา จึงมุ่งเน้นการเป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนเข้ามา Hang Out และเชื่อมโยงกัน การเปิดสาขาที่สูงที่สุดในโลกแห่งนี้จึงเป็นความตั้งใจของแบรนด์ที่อยากทำสิ่งที่ "สนุก ๆ" และ "แตกต่างจากคนอื่น" โดยต้องมีคอนเซปต์ ไม่ได้ต้องการทำเป็นร้านชาทั่วไป
เมื่อถามถึงการลงทุนในพื้นที่ที่ดูเหมือนจะเหมาะกับผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม แล้วทางแบรนด์จะสามารถทำยอดขายหรือกำไรได้เท่าสาขาอื่นๆ หรือไม่ ชุมพิชาตอบว่า ทางแบรนด์เองไม่ได้มองว่านี่คือการแสวงหากำไรหรือตัวเงินโดยตรง แต่หากผู้บริโภคได้มองเห็นแบรนด์ ก็ถือเป็นกำไรเช่นกัน เพราะ CHAGEE เองก็เป็นพรีเมียมแบรนด์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ใบชา (Tea Leaf) จาก เมืองยูนนาน ซึ่งเป็นเมืองที่ปลูกชาดีที่สุดในโลก
CHALLENGE ยกระดับชาจาก "ชานมไข่มุก" สู่ "Healthy Wellness"
หนึ่งในความท้าทายสำคัญของ CHAGEE ในตลาดประเทศไทยคือ การทำความเข้าใจกับผู้บริโภคว่า ชาของทางแบรนด์ คือ ชาพรีเมียม ไม่ใช่แค่ชานมไข่มุก ดังนั้นจึงมุ่งเน้นความเป็น Healthy Wellness เป็นคีย์หลัก ชุมพิชาระบุอีกว่า ชาของ CHAGEE คือ ชาที่ดื่มแล้ว "คุณไม่ต้องรู้สึกผิด"
เนื่องจากใช้ส่วนผสมที่เป็นธรรมชาติทั้งหมด โดยไม่มีการแต่งกลิ่น สีสังเคราะห์ หรือส่วนผสมที่ไม่เป็นธรรมชาติ แม้แต่เมนูชานมก็ใช้ นม ที่ไม่ใช่ นมผง หรือส่วนผสมสังเคราะห์ใดๆ ทำให้ผู้บริโภคที่จับกระแส Healthy สามารถเพลิดเพลินกับการดื่มชาคุณภาพได้
ลูกค้าของ CHAGEE มีหลากหลายกลุ่ม ทั้งผู้ที่ชื่นชอบการดื่มชาอยู่แล้ว และกลุ่มที่ชอบสำรวจเครื่องดื่มใหม่ๆ (Explore กับ เครื่องดื่ม) นอกจากนี้ยังมีฐานลูกค้าเดิมที่รู้จัก CHAGEE มาจากประเทศจีน (เซี่ยงไฮ้) หรือสิงคโปร์อยู่แล้วด้วย
Teaspresso นวัตกรรมการชงชาที่ฉับไว แม่นยำ และสกัดความหอมจากใบชาได้ดี
ไม่เพียงเท่านั้น อีกหนึ่งจุดเด่นสำคัญของเครื่องดื่มชาแบรนด์นี้คือ การยกระดับการดื่มชาด้วยเทคโนโลยีการชงชาอันเป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า "Teaspresso" โดยเป็นเครื่องชงที่ทีม R&D และทีม Engineer ได้ทำงานร่วมกันเพื่อสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ
เครื่องนี้สามารถสกัดหัวใจของชาออกมาได้อย่างแท้จริง ผ่านการควบคุมอุณหภูมิและความดันอย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมของใบชาพรีเมียมที่ "นุ่มละมุน และกลิ่นหอมไม่เหมือนกับใครในโลก"
การสกัดชาด้วยเครื่อง Teaspresso ทำให้สามารถเสิร์ฟเครื่องดื่มได้อย่าง รวดเร็วและสะดวกสบาย ลดระยะเวลาการรอคอย เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของคนรุ่นใหม่ ชาที่ถูกสกัดออกมาอย่างมีคุณภาพนี้ จะเป็นเบสเข้มข้นให้กับเมนูซิกเนเจอร์ยอดนิยมอย่าง Teaspresso Latte และ Frappes
เจาะแผนขยายธุรกิจที่แตกต่าง ตั้งเป้า 20 สาขา ภายในปีนี้ และ 40 สาขาปีหน้า
CHAGEE Mahanakhon ถือเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญในการขยายแผนธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยแบรนด์มีความมุ่งมั่นที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน CHAGEE ในประเทศไทยมีสาขาอยู่ประมาณ 13 สาขา และมีแผนการขยายสาขา โดยตั้งเป้าจะเปิดให้ได้ถึง 20 สาขา ภายในปีนี้ และในระยะถัดไป (ปีหน้า) มีความต้องการที่จะขยายให้ได้ถึง 40 กว่าสาขา หากทำได้ตามแผนที่วางไว้
การขยายสาขาจะครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ต่างจังหวัด แต่ทุกสาขาจะไม่ใช่เพียงแค่ Standard Store CHAGEE จะพยายามนำเสนอคอนเซปต์ใหม่ๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ร่วมกับคอนเซปต์ของแบรนด์
ตัวอย่างความแตกต่างของคอนเซปต์สโตร์ที่ CHAGEE สร้างสรรค์ขึ้น ได้แก่
1. CHAGEE Mahanakhon (ชั้น 74): เป็น High-street Tea Bar ที่สูงที่สุดในโลก ซึ่งสาขาชั้น G ของมหานครจะเป็น Standard Concept แต่สาขาบนชั้น 74 นี้จะเน้นโฟกัสไปที่เมนู Teaspresso เป็นพิเศษ
2. Central Westgate: เป็น Family and Friends Concept Store ซึ่งถือเป็นสาขาแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีพื้นที่สำหรับเด็ก นมฟรีสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี และเกมกิจกรรมต่างๆ
3. Pet-Friendly Store สาขาในอนาคต: มีแผนที่จะเปิด Pet-Friendly Store ในไทย ในระยะต่อไปอีกด้วย นอกจากนี้ยังสานต่อแนวคิดด้านความหลากหลายและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่นเดียวกับที่เคยเปิด Silent Store ในสิงคโปร์ ซึ่งให้บริการโดยบาริสต้าผู้บกพร่องทางการได้ยิน
ไฮไลต์ที่ห้ามพลาด ของสะสมสุดเอ็กซ์คลูซีฟที่มีเฉพาะสาขานี้
การมาเยือน CHAGEE Mahanakhon ไม่ใช่แค่การดื่มชา แต่เป็นการ "เก็บเกี่ยวความทรงจำอันล้ำค่าและของที่ระลึกสุดพิเศษ" โดยสาขานี้เป็นสาขาเดียวที่จำหน่ายสินค้าพรีเมียมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ Essential Stone Scent Set ราคา 1,759 บาท และ Floral Dream Series Shawl (Blue) ราคา 1,459 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถสัมผัสประสบการณ์การดื่มชาบน Tea Bar ที่สูงที่สุดในโลกได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-19.30 น. ผ่านการซื้อบัตรเข้าชม King Power Mahanakhon Skywalk ซึ่งจำหน่ายที่บริเวณทางเข้าอาคารหรือผ่านทางเว็บไซต์







