“จีน” เปิดรับคนไทยตามรอยหนังอวตารสู่ "จางเจียเจี้ย" แดนสวรรค์หุบเขาพันยอด

สำนักงานท่องเที่ยวจีน ประจำกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จัดการประชุมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเมืองจางเจียเจี้ย ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 16 มี.ค.2566 ซึ่งได้เชิญสมาคมการท่องเที่ยว สายการบินและบริษัททัวร์พบปะแลกเปลี่ยนความเห็น เพื่อฟื้นการเดินทางและท่องเที่ยวระหว่างกัน 

จางเจียเจี้ยตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน มียอดเขาสามพันยอด ทั้งมีลำธารและสายน้ำที่สวยงามแปดร้อยแห่ง มีมรดกโลกทางธรรมชาติ อุทยานธรณีวิทยาโลกชุดแรกของโลกที่ดังระดับโลก “Zhangjiajie Landform” รวมทั้งมีวนอุทยานแห่งชาติแห่งแรก ระดับ 5A และการันตีด้วยตราสัญลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวระดับประเทศ 6 ประเภท นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวแสดงถึงอารยะธรรมระดับชาติ เปรีนบได้กับห้องนั่งเล่นต้อนรับแขกของมณฑลหูหนาน ประเทศจีน

 

 

นาย เชว่ เสี่ยวหัว ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศจีน ประจำกรุงเทพฯ กล่าวว่า ในอนาคต สำนักงานการท่องเที่ยวจะแนะนำแหล่งท่องเที่ยวและวัฒนธรรมในจีนให้มากขึ้น รวมถึงจางเจียเจี้ย แก่คนไทย และมุ่งมั่นที่จะสร้างสะพานเชื่อมความร่วมมือ ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ การพัฒนาแบบ win-win ของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจะมีบทบาทมากขึ้นในการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างจีนและไทยและกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างทั้งสองประเทศ

 

 

ภายในงานได้เปิดภาพยนตร์โฆษณาการท่องเที่ยว “Wonderland Zhangjiajie” โดย Qixiu landscape, ประกาศเป้าหมายรางวัลการท่องเที่ยวจางเจียเจี้ยปี 2023 และรางวัลเที่ยวบินระหว่างประเทศให้กับตัวแทนผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย ก็เพื่อเป็นความท้าทายและเปิดให้พวกเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของการฟื้นท่องเที่ยวดินแดนสวรรค์จางเจียเจี้ย

 

ด้านรองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้การต้อนรับคณะผู้แทนจากจางเจียเจี้ยมายังประเทศไทยเพื่อดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนด้านการท่องเที่ยว โดยกล่าวว่า การจัดประชุมครั้งนี้ มุ่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างจางเจียเจี้ยและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย หวังส่งเสริมบทบาทที่ดีในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างทั้งสองประเทศ

 

 

“จางเจียเจี้ยเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในประเทศจีน ด้วยความมีเอกลักษณ์และรูปแบบที่หลากหลาย หากย้อนไปดูช่วงก่อนปี 2563จะเห็นความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างจางเจียเจี้ยและไทยรุดหน้าอย่างมากและการเยือนระหว่างกันระหว่างประชาชนกับใกล้ชิดแน่นแฟ้น”รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียตะวันออก

 

 

ขณะที่ตัวแทนสายการบินแนะรัฐบาลทั้งสองพิจารณาเปิดเที่ยวบินเช่าเหมาลำสำหรับนักท่องเที่ยวจากกรุงเทพฯ ไปยังจางเจียเจี้ยในเดือนเมษายน ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางระหว่างสถานที่ทั้งสองอย่างมาก และช่วยให้การท่องเที่ยวระหว่างจีนและไทยฟื้นตัว

 

 

นอกจากนี้ ภายในงานได้มีการลงนามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างบริษัทท่องเที่ยวไทยกับบริษัทท่องเที่ยวของเมืองจางเจียเจี้ยให้ทำงานใกล้ชิดยิ่งขึ้น โดยมีนายเชว่ และนายหวังร่วมเป็นสักขีพยาน

 

ก่อนการประชุม นายหวาง เถา รองนายกเทศมนตรีวังเตาได้พบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อหารือการฟื้นตัวของตลาดการท่องเที่ยว การส่งเสริมผลิตภัณฑ์ร่วมกัน บริการคุณภาพสูง การแลกเปลี่ยนและความร่วมมือ ฯลฯ

ในปีนี้เป็นปีแห่งการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในจางเจียเจี้ย ซึ่งนับเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์พบว่า จุดชมวิวหลักสี่แห่งในจางเจียเจี้ย อู่หลิงหยวน ภูเขาเทียนเหมิน แกรนด์แคนยอน และแม่น้ำเหมาหยาน มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือน 38.13% ขณะที่ปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่มีนักท่องเที่ยวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่เมื่อเทียบเป็นรายปีแล้วมีนักท่องเที่ยวเยือนจางเจียเจี้ยในปี 2565 สูงกว่าปีก่อนหน้ามากถึง 272.43% 

 

อย่างไรก็ตาม ปี 2566 จางเจียเจี้ยจะใช้กลยุทธ์การตลาดการท่องเที่ยวแบบ “ส่งเสริมทั้งนอกและในประเทศ” ซึ่งเน้นที่การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวขาเข้าในกลถ่มตลาดการท่องเที่ยว เช่น ฮ่องกง มาเก๊า ไต้หวัน เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงไทยที่ถูกเลือกให้เป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มประเทศนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวขาเข้าประเทศ