ภาวะโลกเดือด ‘หายนะ’ ยิ่งกว่าโควิด!

ภาวะโลกเดือด ‘หายนะ’ ยิ่งกว่าโควิด!

“ยุคโลกร้อน” กำลังสิ้นสุดลง แต่ยุค “โลกเดือด” กำลังเข้ามาแทนที่ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงมากเช่นนี้ ทำให้โลกของเรา “ป่วยไข้” สะเทือนถึงภัยพิบัติที่จะเกิดบ่อยขึ้น ส่งผลให้เศรษฐกิจเสียหาย รวมถึง “โรคอุบัติใหม่” ที่พร้อมจะเกิดขึ้นตลอดเวลา

ถ้าบอกว่า “ยุคโลกร้อน” กำลังสิ้นสุดลง ฟังอย่างนี้แล้วก็อย่าเพิ่งรีบดีใจไป เพราะยุค “โลกเดือด” กำลังเข้ามาแทนที่ ซึ่งหนักหนาสาหัสกว่าเดิมมาก โดย “อันโตนิโอ กูเตียเรส” เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพิ่งประกาศไม่นานมานี้ว่า

การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในเวลานี้เป็นสิ่งที่ “น่ากลัว” อย่างมาก และเป็นจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดของภาวะโลกร้อน และกำลังจะเข้าสู่ยุคภาวะโลกเดือด ซึ่งเขาย้ำว่าปรากฏการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบที่รุนแรง เรียกได้ว่าเป็น “หายนะของโลก” ได้เลย โดยมีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์ซึ่งเชื่อได้ว่า ผลกระทบจากภาวะนี้จะแพร่กระจายไปทุกพื้นที่ของโลกใบนี้

ในขณะที่ “คาร์สเทน เฮาสไตน์” นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยไลพ์ซิก ประเมินว่า เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา น่าจะเป็นเดือนที่อากาศร้อนสุดในรอบ 120,000 ปี นับย้อนไปถึงยุคน้ำแข็ง ซึ่งอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างมากเช่นนี้ กำลังทำให้โลกของเรา “ป่วยไข้” สะเทือนถึงความเป็นอยู่ของผู้คน เพราะความร้อนที่สูงขึ้นทำให้เกิดภัยพิบัติต่างๆ ตามมามากมาย

รายงานภัยพิบัติเอเชียแปซิฟิก 2566 ที่เพิ่งเปิดเผยออกมา ระบุว่า หากอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้น 1.5-2 °C จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ที่รุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2565 แค่ปีเดียว เกิดภัยพิบัติกว่า 140 ครั้งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ผู้คนเสียชีวิตไปกว่า 7,500 ราย ทั้งยังกระทบต่อผู้คนกว่า 64 ล้านคน และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจถึงกว่า 5.7 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณเกือบๆ 2 ล้านล้านบาท 

แต่สิ่งที่น่ากังวลไปมากกว่าเรื่องความเสียหายทางเศรษฐกิจ คือ“โรคอุบัติใหม่”ที่พร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา โดย ดร.ณอง มิเชล คลาเวรี นักชีววิทยาวิวัฒนาการ มหาวิทยาลัยเอกซ์ มาร์เซลล์ ของฝรั่งเศส เปิดเผยงานวิจัยเกี่ยวกับจุลชีพจากยุคโบราณในวารสาร Viruses เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งทีมงานของเขาได้ทำการศึกษาเก็บตัวอย่าง “ไวรัส” ที่อยู่ใต้น้ำแข็งในแถบ ไซบีเรีย ของรัสเซีย ที่มีประมาณ 13 ชนิด โดยไวรัสเหล่านี้ติดอยู่ใต้น้ำแข็งมานานกว่า 27,000-48,000 ปี 

ผลสำรวจพบว่า มีไวรัสชนิดหนึ่งที่ถูกแช่แข็งมานาน 48,500 ปี พวกเขาเรียกมันว่า “ไวรัสซอมบี้” หรือไวรัสที่กลับมาฟื้นคืนชีพได้ใหม่หลังจากที่หลับสงบมายาวนาน ที่สำคัญมันยังแพร่เชื้อได้อีกด้วย

แต่ข้อมูลที่นักวิทยาศาสตร์กลุ่มนี้ระบุ คือ ไวรัสเหล่านี้ยังแพร่เชื่อได้เฉพาะกับสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว จึงไม่มีภัยคุกคามต่อมนุษย์ แต่สิ่งที่พวกเขากังวล คือ หากภาวะโลกร้อนทำให้น้ำแข็งเหล่านี้ละลายมากขึ้นเรื่อยๆ มีโอกาสที่ไวรัสชนิดต่างๆ กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ซึ่งเราไม่รู้เลยว่าจะมีไวรัสชนิดไหนบ้างที่จะสามารถแพร่เชื้อต่อมนุษย์และสัตว์อื่นๆ ได้ จนสร้างปัญหาเหมือนกับไวรัสที่เรารู้จักกันในนามของโควิด ...ฟังอย่างนี้แล้วพอจะเห็นภาพหรือยังว่า “ภาวะโลกเดือด” อาจสร้างหายนะให้กับโลกใบนี้ได้ขนาดไหน!