ภูมิ วิภูริศ : ทุกคนเท่าเทียมกันบนยูทูป

ภูมิ วิภูริศ : ทุกคนเท่าเทียมกันบนยูทูป

นักร้องหนุ่มไทย วัย 22 ซึ่งโด่งดังในต่างแดนถึงขนาดเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตในสหรัฐ ยุโรป และทั่วเอเชีย แต่กลับแทบไม่เป็นที่รู้จักในไทย ...เขาเป็นใคร มาจากไหน....ไปทำความรู้จักกัน

การ go inter หรือไปประสบความสำเร็จในระดับนานาประเทศ เป็นสิ่งที่ศิลปินทุกคนต่างใฝ่ฝันหา แต่นักร้องคนหนึ่ง แถมยังเป็นหนุ่มน้อยวัยเพียงแค่ 22 ปี กลับทำในสิ่งที่สวนทางกับคนอื่น นั่นคือ กลับมาสร้าง fan base ในไทยทีหลัง เพราะเพลงของเขาไปโด่งดังในต่างประเทศก่อนแล้วคนไทยถึงเพิ่งจะเริ่มมารู้จักกัน

หนุ่มน้อยคนนั้นคือ ภูมิ - วิภูริศ ศิริทิพย์ หรือ Phum Viphurit นักร้องสังกัด Rats Records เจ้าของเพลงฮิต Lover Boy ที่มีแฟนเพลงกระจายอยู่ทั่วโลก ตระเวณแสดงคอนเสิร์ตในแถบเกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย ฯลฯ มาหมดแล้ว และกำลังจะมีทัวร์คอนเสิร์ตใน 10 กว่าประเทศยุโรป และอีกหลายเมืองในสหรัฐอเมริกาปลายปีนี้

  re02

เด็กไทยหัวใจอินเตอร์

หนุ่มน้อยมหัศจรรย์คนนี้เป็นใครมาจากไหน?

ภูมิ-วิภูริศ เป็นเด็กไทยแท้ มีพ่อแม่เป็นคนไทย เกิดเมืองไทย แต่ตามครอบครัวไปอยู่ประเทศนิวซีแลนด์ตั้งแต่ 9 ขวบ ก่อนจะกลับมาไทยอีกครั้งตอนอายุ 18 เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการผลิตภาพยนตร์ ที่วิทยาลัยนานาชาติมหิดล แล้วก็เริ่มทำเพลงตอนอายุ 19 ปี

เห็นโปรไฟล์แล้วคงหายสงสัยว่าทำไมเพลงของภูมิ (ที่เขาแต่งเนื้อร้อง-ทำนองเองทั้งหมด) ถึงออกมาเป็นภาษาอังกฤษ นั่นก็เพราะว่าเขาถนัดใช้ภาษาอังกฤษมากกว่า ประกอบกับได้รับการเลี้ยงดูมาแบบฝรั่ง สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จึงหลอมรวมกันออกมาเป็นบทเพลงที่มีความเป็นสากลชนิดที่ว่า ถ้าฟังแต่เพลงไม่รู้ว่าใครเป็นร้อง คุณจะต้องไม่คิดว่าเป็นผลงานของศิลปินไทยแน่นอน

อ้อมโลกมาดัง

คำถามแรกที่เราเปิดประเด็นคุยกับ ภูมิ-วิภูริศ ก็คือ ทำไมรูปแบบการเป็นศิลปินของเขาถึงไม่เหมือนใครแบบนี้ ซึ่งเจ้าตัวเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน

“ทุกวันนี้ก็พยายามหาคำตอบว่าทำไมเราเป็นศิลปินไทย ดนตรีจากอัลบั้มก็ทำที่กรุงเทพนี่แหละ แต่ว่าทำไมเราไปอ้อมโลกมา ต้องถามคนฟังครับ ภูมิเองก็ตอบไม่ได้ ภูมิแค่ทำดนตรีจากจุดเนี้ย ทำในสิ่งที่เรารู้สึกมากที่สุดในตอนนั้นแล้วมันก็ออกมาเป็นแบบนี้”

ส่วนสาเหตุที่งานเพลงของเขามีความเป็นสากลมากนั้น ภูมิบอกว่าอาจจะเป็นอิทธิพลที่ได้รับมาตั้งแต่เด็ก เพราะเขาฟังแต่เพลงสากลมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วก็ไปโตที่นิวซีแลนด์ตั้งแต่ 9 ขวบ ไม่ได้ใกล้ชิดกับวัฒนธรรมไทย ดนตรีไทยมากนัก ผลงานที่ออกมาตอนนี้จึงอาจจะ reflex เข้าหูคนต่างประเทศเพราะว่าเขาจะโตมากับ influence ที่คล้าย ๆ กับคนต่างประเทศมากกว่า

 

20180821153223213 (1)

 

20180821153223607 (1)  

ทุกคนเท่าเทียมกันบนยูทูป

สำหรับเส้นทางการเป็นศิลปินไทยที่ดังไกลไปทั่วโลกของภูมินั้น เจ้าตัวบอกว่าเริ่มมาจากการได้รู้จักกับ ออฟ-อนุชา โอเจริญ ผู้ก่อตั้ง Rats Record ค่ายเพลงไทยซาวด์อินเตอร์ที่มีศิลปินคนไทยแต่ทำเพลงสากลอย่างวง Part Time Musicians, The Whitest Crow ซึ่งภูมิบอกว่ามันโดนเขามาก เพราะเขาเป็นเด็กที่เพิ่งกลับมาเมืองไทยแล้วแทบไม่มีเพื่อนเลย เพราะไปอยู่ต่างประเทศมามานานมาก แล้วอีกอย่างคือ มันตรงกับตัวเขาที่ใช้ภาษาไทยในการเขียนไม่ได้ ก็เลยลองทำซิงเกิ้ลหนึ่งออกมาแล้วชอบ work flow ของค่ายนี้ ชอบการที่ได้เอาเวลาว่างไปทำผลงานต่อยอดความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง จากนั้นก็ทำมาเรื่อย ๆ ใช้เวลา 3 ปี จนเป็นอัลบั้มแรกชื่อว่า Man Child ออกมาเมื่อปี 2560 แล้วโชคดีที่มีเพลงชื่อ Long Gone จากในอัลบั้ม เกิดเป็นกระแสขึ้นในอินเทอร์เน็ต ทำให้เขาได้ไปเจอเอเยนต์ต่างประเทศจนได้ไปเล่นคอนเสิร์ตที่ไต้หวันเป็นที่แรก หลังจากนั้นก็มีตามมาเรื่อย ๆ

            “เจอร์นีย์มันค่อนข้างแปลกสำหรับภูมิ คือ เราไม่ได้มีตัวตนในประเทศไทย แต่ว่าด้วยพลังของอินเทอร์เน็ต เรามาเป็นศิลปินในปี 2018 ซึ่งทุกคนเท่าเทียมกันหมดบนอินเทอร์เน็ต จนทำให้เรามีแพลทฟอร์มได้ไปเล่นกับผู้คนในต่างประเทศ”

ถ้าใครฟังเพลงจากยูทูปคงรู้ดีว่า พอเราเปิดฟังเพลงใดเพลงหนึ่ง ทางเว็บจะมีการ “แนะนำ” เพลงอื่นที่มีแนวเพลงคล้าย ๆ กันขึ้นมามาให้เราลองฟัง โดยใช้คำว่า Recommended for you ซึ่ง feature นี้ของยูทูปนี่แหละที่ทำให้เพลงของภูมิไปเข้าสู่การรับรู้ของคนฟัง

“เดี๋ยวนี้ในยูทูปมันจะมี recommend ซึ่งภูมิก็ไม่รู้ว่าชื่อเราไปติดอยู่ในนั้นได้ยังไง เค้าคงคิดว่าภูมิรู้จักคนเยอะมาก ๆ แต่ภูมิไม่รู้จักใครเลย” ภูมิพูดไปหัวเราะไป ก่อนจะเสริมว่าเขารู้สึกว่าตัวเองโชคดี เหมือนว่าไทม์มิงทุกอย่างจะลงตัวพอดี นั่นคือ ช่วงเวลาที่เขาทำเพลงแนวสบายออกมาก็มีศิลปินที่คนกำลังนิยมกันทำเพลงแนวเดียวออกมา เลยทำให้เพลงของเขาอยู่ในทาร์เก็ตไปด้วย ซึ่งเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เขาคาดเดาไม่ได้ เพราะถ้าเราเกิดเห็นว่าเพลงแนวนี้กำลังฮิตแล้วทำเพลงแนวเดียวกัน ในตอนที่ปล่อยออกมาเพลงแนวนั้นอาจจะเลิกฮิตไปแล้วก็ได้

 ดนตรีคือ self discovery

นอกจากเสียงเพลงของ ภูมิ วิภูริศ จะมีเสน่ห์อย่างหาตัวจับยากแล้ว ความคิดความอ่านของเขาซึ่งเป็นเด็กที่เพิ่งจบมหาวิทยาลัยมาหมาด ๆ ก็น่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน โดยเราถามเขาไปว่า ทำไมเป็นนักร้อง ชอบร้องเพลงทำเพลงขนาดนี้แล้วถึงไม่เลือกเรียนดนตรีไปเลย? ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า เขาไม่รู้สึกว่าตัวเองเป็นนักร้องจ๋าขนาดนั้น เขาเล่นดนตรีเอาสนุกมากกว่า และอยากให้การเล่นดนตรีในทุกวันนี้เหมือนการค้นพบ เป็น self discovery ไปเรื่อย ๆ โดยภูมิบอกว่า ถ้าเรียนดนตรีก็อาจจะรู้ทฤษฎีหมดแล้ว ทำให้ไม่มีความรู้สึกตื่นเต้นเวลาที่ได้เจอคอร์ดใหม่ ๆ แบบที่เขาเป็นอยู่ในปัจจุบัน

            “ถ้าภูมิเรียนดนตรีก็จะไม่ได้ตื่นเต้นกับการที่ อุ๊ย ภูมิเจอคอร์ดใหม่ ทุกวันนี้เวลาเจอคอร์ดใหม่ที่เราเรียกชื่อไม่ได้ มันตื่นเต้นสำหรับภูมิมาก ซึ่งมันคล้าย ๆ เป็น personal journey ที่ภูมิไม่ค่อยอยากให้ใครมาทัช ค่อย ๆ ไปในเพซซิ่งของเรา เราจะได้ตื่นเต้นกับมัน”

20180821153221135

 ศิลปินไทยที่ทัวร์เมืองนอกมากที่สุด

สำหรับความสำเร็จของเพลง Lover Boy ซึ่งเป็นเพลงฮิตที่สุดของเขา (มียอดเข้าชมกว่า 18.4 ล้านวิว) นั้น ภูมิบอกว่าดีใจมาก เพราะเพลงนี้ออกมาหลังจากที่ปิดอัลบั้มแรกไปช่วงหนึ่งแล้วเขากำลังมองว่าจะไปทางไหนต่อ อยากลอง element ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยลอง แล้วก็ลองทำเพลงนี้ออกมาโดยที่ไม่ได้คาดหวังอะไรเลยว่ามันจะดังขนาดนี้

ส่วนใครที่รออัลบั้มใหม่ของภูมิคงต้องอดใจรอไปก่อน จากที่ตั้งใจเอาไว้ว่าจะออกผลงานชุดที่ 2 ในเดือนกันยายนนี้ น่าจะต้องเลื่อนไปเป็นต้นปีหน้าเลย เพราะการทัวร์อัลบั้มแรกของเขายืดยาวออกไปเรื่อย ๆ จนไม่มีเวลาทำเพลงใหม่ออกมา โดยจุดเริ่มต้นของการตระเวณทัวร์คอนเสิร์ตในต่างแดนนี้เริ่มมาจากเพลง Long Gone ที่ออกมาเมื่อปีที่แล้ว ในไทยไม่ติดชาร์ตอะไรเลย แต่กลับไปเป็นกระแสใน Reddit เว็บสนทนาที่ใหญ่มากของสหรัฐ (คล้าย ๆ เว็บไซต์พันทิพบ้านเรา) ตามมาด้วยการติดเพลย์ลิสต์ของ Spotify

หลังจากนั้นในปี 2560 ภูมิก็ถูกชวนไปเล่น Luc Fest มิวสิคคอนเฟอเรนซ์ซึ่งจัดที่เมืองไถนาน ไต้หวัน แล้วไปเจอกับเอเจนท์ ซึ่งเป็นคนดึงผู้จัดจากทั่วโลกมารวมกัน หลังจากที่ได้เห็นฝีมือ และเสน่ห์ของภูมิยามแสดงสดแล้ว เอเจนท์รายนี้ก็เสนอชื่อภูมิไปยังผู้จัดเฟสติวัลในต่างประเทศที่พอเห็นว่ามีฐานแฟนคลับของหนุ่มน้อยชาวไทยคนนี้อยู่ในประเทศของเขาด้วยก็ตอบตกลง จากนั้นก็มีงานจ้างต่อมาเรื่อย ๆ

นอกจากจะไปเล่นคอนเสิร์ตแล้ว ภูมิยังได้ไปออกรายการโทรทัศน์ในต่างแดนมาแล้วหลายรายการ ทั้ง CNN Indonesia ที่ภูมิบอกว่าทางนั้นคงมองว่าแปลกเพราะไม่ค่อยมีศิลปินจากแถบอาเซียนได้รับโอกาสอย่างที่เขาได้รับอยู่ตอนนี้ ส่วนที่เกาหลีใต้ก็มีไปออกรายการ EBS ซึ่งเป็นรายการใหญ่ของรัฐบาลเลยทีเดียว

สำหรับงานใหญ่ที่รอภูมิอยู่ในขณะนี้คือการไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ยุโรป และอเมริกา โดยภูมิบอกว่าพูดคุย และวางแผนการทัวร์นี้กับเอเจนท์มาตั้งแต่ต้นปีแล้ว ก่อนที่เพลง Love Boy จะออกมา ซึ่งเขาดีใจมากที่จะได้ไปเล่นเฟสติวัลที่สหรัฐ แล้วเป็นศิลปินที่เขาชื่นชอบมากันเต็มเลย และหวังว่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดี โดยเฉพาะที่ลองบีช ซึ่งภูมิดีใจมากที่เพลงตัวเองเป็นที่นิยมในแถบเวสต์โคสต์ แอลเอ ซานฟราน ฯลฯ

  20180821153222994 (1) (1)

คอนเสิร์ตใหญ่เมืองไทย

ฟังแบบนี้แล้วแฟนชาวไทยไม่ต้องน้อยใจไปว่าทำไมมีแต่งานในต่างประเทศ แล้วคนไทยจะมีโอกาสดูภูมิเล่นสดกันได้ที่ไหนบ้าง

เร็ว ๆ นี้ ภูมิ วิภูริศ จะมีคอนเสิร์ตใหญ่ที่ทาง THE VERY COMPANY จัดขึ้น นั่นคือ VERY Live : Boy Pablo&Phum Viphurit ที่มูนสตาร์ สตูดิโอ 8 ในวันที่ 24 พฤศจิกายน ซึ่งงานนี้นอกจากภูมิแล้วยังมีศิลปินอีกคนคือ บอยพาโบล นักร้องหนุ่มอินดี้จากนอร์เวย์ที่ภูมิบอกว่ามีเส้นทางดนตรีคล้าย ๆ ตัวเขา คือ เป็นเด็กอายุ 19 ที่ทำเพลงปล่อยทางอินเทอร์เน็ต แล้ววันหนึ่งก็ติด recommendation เดียวกัน ก็เลยพากันไปทัวร์ทั่วโลก โดยหลังจากเล่นในไทยด้วยกันแล้ว วันที่ 25 พฤศจิกายน ภูมิกับบอยพาโบลก็จะไปเล่นที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ พร้อมกันอีกด้วย

ส่วนกระแสตอบรับในไทยตอนนี้นั้น ภูมิบอกว่าดีที่สุดเท่าที่เคยเป็นมา (เล่นเอาทุกคนในห้องฮากันครืน) เริ่มจะมีคนทักทายบ้างเวลาไปที่ต่าง ๆ แล้วก็มีงานเล่นคอนเสิร์ตประมาณ 4-5 งานต่อเดือน ซึ่งก็ถือว่ากำลังดี กำลังสนุก

ใครอยากให้กำลังใจหนุ่มน้อยคนไทยที่ไปดังไกลถึงต่างแดนคนนี้ ติดตามรายละเอียดการซื้อบัตรคอนเสิร์ตของ ภูมิ วิภูริศ ได้ทางเพจ THE VERY COMPANY แล้วอย่าให้ภูมิเสียใจล่ะว่า ทำไมคนไทยถึงไม่ชอบงานของเขาเหมือนคนต่างชาติ  

20180821153334494 (1) (1)

ความ “ภูมิ-วิภูริศ”

ฟี้ดแบ็คที่ชอบ: คนชมว่าดัดฟันแล้วยังร้องเพลงได้ เพราะกว่าจะพูดจะร้องได้ชัดมันยากมาก

นิสัย: ดี เป็น human being ที่โอเค, ชิล ๆ

เจ้าชู้ไหม: ไม่ (ตอบชัดเจนมาก) เป็นคนรักเดียวใจเดียว

อาหาร: ชอบอาหารฝรั่ง, มันบด

เครื่องดื่ม: ช่วงหลัง ๆ ชอบน้ำมะตูม

สี: ส้ม เหมือนพระอาทิตย์กำลังตกดิน

สถานที่โปรด: ห้องที่ศาลายา เงียบดี

การแต่งตัว: ชอบใส่ถุงเท้าที่เห็นแล้วรู้สึกว่าเป็นภูมิคนเดียวที่ใส่

ถูกแม่บ่นเรื่อง: ไม่รดน้ำต้นไม้, ไม่ล้างจาน

นิสัยที่อยากแก้ไข: เป็นคนขี้เกียจ รักสบายไปหน่อย

งานอดิเรก: ดูหนัง, เล่นสเกตบอร์ด, เล่นเกมฟีฟ่า

กีฬา: เคยเป็นนักกีฬาเทนนิส, ว่ายน้ำ, บาส

หนังสือ: ชอบอ่านไฮกุ บทกวี, ทีนฟิคชั่นอย่างงานของ จอห์น กรีน

ส่วนสูง: 187 เซนติเมตร

เวลาเศร้า เครียด: ชอบไปเล่นสเกตบอร์ด