สงครามระหว่าง 'โลก' vs 'Airbnb'

‘แอร์บีเอ็นบี’ ธุรกิจสตาร์ทอัพการแบ่งปันบ้านให้เช่าระยะสั้นช่วยเปิดโลกกว้างและนำเสนอทางเลือกของที่พักทั่วโลกทั้งราคาถูกและแพงตั้งแต่บ้านต้นไม้ ปราสาท เพนท์เฮาส์ไปจนถึงเกาะส่วนตัวให้กับนักเดินทางหลายล้านคน

แต่สำหรับรัฐบาลและคนท้องถิ่นแล้ว มาร์เก็ตเพลสให้เช่าที่พักในท้องถิ่นและบริษัทอื่นๆ ที่ให้บริการคล้ายๆ กันกำลังถูกกล่าวหาว่าทำให้ราคาที่พักระยะยาวแพงขึ้นและยังหลีกเลี่ยงกฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งภาระทางภาษีที่ใช้บังคับกับโรงแรมและอพาร์ทเมนต์ที่จดทะเบียน

ประเทศล่าสุดที่นำกฎระเบียบที่เข้มงวดมาใช้บังคับแอร์บีเอ็นบีคือ ญี่ปุ่น โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วรัฐบาลสั่งให้เว็บไซต์ให้เช่าที่พักดังกล่าวถอนรายชื่อที่พักหลายหมื่นแห่งออกจากเว็บไซต์และยกเลิกการจองล่วงหน้าก่อนที่กฎหมายใหม่จะออกมาใช้บังคับกับการให้บริการเช่าที่พักอาศัยส่วนตัว

แอร์บีเอ็นบีกล่าวในแถลงการณ์ที่รายงานโดยรอยเตอร์ว่า การประกาศครั้งนี้ทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก เพราะมันตรงกันข้ามกับแนวทางที่ทีมงานเคยได้รับจากสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น และยังทำให้ประสบการณ์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นหลายพันคนต้องตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยง

กฎหมายใหม่ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 มิถุนายนกำหนดให้เจ้าของบ้านที่จะเปิดบ้านให้เช่าบนแอร์บีเอ็นบีหรือเป็น ‘โฮสต์’ ต้องลงทะเบียนและขอใบอนุญาตจากรัฐบาลท้องถิ่นซึ่งจะดำเนินการตรวจสอบเรื่องความปลอดภัย และมีการจำกัดระยะเวลาเช่าไม่ให้เกิน 180 วันต่อปี โดยมียอดปรับเป็นจำนวนเงินราว 300,000 บาทสำหรับผู้ละเมิดกฎ

มาตรการดังกล่าวออกมาเพื่อสร้างความโปร่งใสให้อุตสาหกรรมการแบ่งปันบ้านให้เช่า โดยรัฐบาลญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่จะเพิ่มทางเลือกด้านที่พักให้กับนักท่องเที่ยวเพื่อรองรับการแข่งขันรักบี้ เวิลด์คัพและกีฬาโอลิมปิกที่จะจัดขึ้นที่กรุงโตเกียวในปี 2020 และเพื่อจัดหาที่พักให้กับคลื่นนักท่องเที่ยวที่แห่กันเดินทางมาท่องเที่ยวในแต่ละปี

โฆษกแอร์บีเอ็นบีกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า พวกเขากำลังจะลงทะเบียนรายชื่อที่พักแห่งใหม่หลายหมื่นแห่งในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

“แม้จะมีช่วงระยะเวลาของการปรับเปลี่ยน แต่กฎเกณฑ์และข้อบังคับที่ชัดเจนสำหรับการแชร์บ้านให้เช่าจะทำให้ชุมชนของเราในญี่ปุ่นใหญ่ขึ้นและเข้มแข็งขึ้น” โฆษกกล่าว

กฎหมายใหม่ยังอนุญาตให้วัดราว 77,000 แห่งทั่วประเทศเปิดให้คนเช่าเป็นที่พักได้ จากเดิมที่อาคารทางศาสนาถูกจำกัดไม่ให้ทำที่พักเชิงพาณิชย์

ตอนนี้มีหลายประเทศที่มีท่าทีเข้มงวดมากขึ้นกับแอร์บีเอ็นบี

รัฐบาลท้องถิ่นของบาร์เซโลน่า สเปนกำลังยุ่งอยู่กับการโต้แย้งทางกฎหมายกับแอร์บีเอ็นบี ในปี 2016 สภาเมืองได้ทำการปรับแอร์บีเอ็นบีเป็นเงินเกือบ 24 ล้านบาทฐานที่โฆษณาให้เช่าแฟลตที่ไม่ได้รับอนุญาต ตอนนี้มีการจัดทีมตรวจตราและกวาดล้างอพาร์ทเมนท์ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นปฎิบัติการที่ถกเถียงกันในรัฐนิวยอร์ของสหรัฐอเมริกาเช่นกัน ฝ่ายต่อต้านเรียกปฎิบัติการนี้ว่า

“stop-and-frisk” หรือ “หยุดและค้น” ซึ่งเป็นนโยบายของตำรวจนิวยอร์กที่อนุญาตให้ตำรวจสามารถเข้าตรวจค้นประชาชนบนท้องถนนได้อย่างอิสระมาใช้กับอุตสาหกรรมการแบ่งปันให้เช่าบ้าน

เดือนเมษายนที่ผ่านมา เกาะมายอร์กากลายเป็นเมืองแรกของสเปนที่ออกคำสั่งห้ามเปิดอพาร์ตเมนต์ให้นักท่องเที่ยวเช่า การปราบปรามบริษัทให้เช่าที่พักเหล่านั้นเกิดขึ้นหลังชาวบ้านอ้างว่าทำให้ราคาค่าเช่าพุ่งขึ้นสูง คำสั่งห้ามออกมาหลังจากพบว่ามีแฟลต 20,000 แห่งในเมืองเปิดให้เช่าโดยไม่มีใบอนุญาตหรือมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ระหว่างปี 2015 ถึง 2017

เดือนที่แล้ว พรรคการเมืองหลักของอัมสเตอร์ดัมประกาศมาตรการรุนแรงห้ามการเช่าที่อยู่ระยะสั้นในย่านที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่นเพื่อต่อสู้กับสิ่งที่เรียกว่า “Overtourism” หรือคำเรียกจุดหมายปลายทางที่เจ้าบ้านหรือแขกผู้มาเยือนรู้สึกว่ามีนักท่องเที่ยวแออัดมากไปจนทำให้คุณภาพชีวิตในย่านนั้นถดถอยอย่างรับไม่ได้ และตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป จำนวนวันที่ได้รับอนุญาตให้เช่าแบบแอร์บีเอ็นบีจะลดลงครึ่งหนึ่งเหลือแค่ 30 วัน

เมืองหลวงของเนเธอร์แลนด์มีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นสูงมากโดยคาดการณ์ว่า ปีนี้จะมีทั้งหมด 18 ล้านคนซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 11 ล้านคนในปี 2005

เมืองซานตาโมนิกาในรัฐแคลิฟอร์เนียมีการวางมาตรการคว่ำบาตรแอร์บีเอ็นบีที่เข้มงวดกว่าที่ใดๆ ในสหรัฐอเมริกา ทางเมืองออกกฎหมายเรียกเก็บภาษีจากการเช่าระยะสั้นและกำหนดให้เจ้าของที่พักต้องอยู่ด้วยตอนที่เปิดบ้านให้คนเช่าเข้าพัก

มาตรการคุมเข้มทั้งหมดช่างเป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับภาวะการเติบโตที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนของบริษัทที่ตั้งอยู่ในเมืองซานฟรานซิสโก โดยปัจจุบันแอร์บีเอ็นบีมีจำนวนห้องพักที่คนนำมาปล่อยเช่าผ่านแพลตฟอร์มมากกว่า 4 ล้านแห่งใน 65,000 เมืองใน 191 ประเทศ ตอนนี้บริษัทมีมูลค่าถึง 9.6 แสนล้านบาทซึ่งนับเป็นธุรกิจเอกชนที่มีมูลค่ามากที่สุดอันดับ 3 ของโลกรองจากบริษัทเสียวมี่ บริษัทอีเลคทรอนิคส์ของจีนและอูเบอร์ของสหรัฐอเมริกา

 (ที่มา : เว็บไซต์เดลี่ เทเลกราฟ)