TIDLOR โชว์ Q1/67 กำไรดี 1.1 พันล้านบาท โต 15.6%

TIDLOR โชว์ Q1/67 กำไรดี 1.1 พันล้านบาท โต 15.6%

บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) รายงานกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 1,104.1 ล้านบาท เติบโต 15.6% (YoY) และมีรายได้รวม 5,309.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% ณ สิ้นไตรมาสมีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง 100,133.3 ล้านบาท เติบโต 20.6% (YoY)

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 ยังคงขยายตัว งบการเงินสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 มีกำไร 1,104.07 ล้านบาท 

TIDLOR มีกำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 จำนวน 1,104.1 ล้านบาท เติบโต 15.6% (YoY) จาก 955.1 ล้านบาท การเติบโตนี้เป็นผลมาจากการเติบโตของรายได้ และการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ 


โดยบริษัท มีรายได้รวม 5,309.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% (YoY) จากการขยายตัวของธุรกิจ โดยรายได้หลักมาจากดอกเบี้ยรับจากเงินให้กู้ยืม และลูกหนี้ตามสัญญาเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น 22.6% (VoY และรายได้ค่าธรรมเนียม และบริการที่เพิ่มขึ้น 21.3% (YoY) ในขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมจำนวน 3,935.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.9% (YoY) ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการขาย และบริหารซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของธุรกิจ และต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้นตามการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 

อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ระดับ 54.1% ซึ่งสะท้อนการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา 

ณ สิ้นไตรมาสที่ 1 ปี 2567 บริษัท มีพอร์ตสินเชื่อคงค้าง อยู่ที่ 100,133.3 ล้านบาท เติบโต 20.6% (YoY) ซึ่งหนึ่งในปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตมาจากการลงทุน และพัฒนาด้านเทคโนโลยี ทั้งบัตรติดล้อ และบริการโอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชันเงินติดล้อ (E-with raw) ยังคงมีที่ปริมาณการใช้งานขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 1.60% มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 1.45% อย่างไรก็ตาม คุณภาพพอร์ตสินเชื่อยังอยู่ในกรอบเป้าหมายที่วางไว้ และยังคงอัตราส่วนเงินสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL coverage ratio) ในระดับสูงที่ 264.1% 

ในขณะที่ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยยังคงการเติบโตต่อเนื่อง จากช่องทางการขาย และให้บริการที่หลากหลาย โดยเบี้ยประกันวินาศภัยในไตรมาสนี้ เติบโต 22.9% (YoY) ภาพรวมสำหรับไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัท ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงทางการเงิน (Financial inclusion) ผ่านธุรกิจหลักของบริษัท ได้แก่ ธุรกิจสินเชื่อ และนายหน้าประกันภัย โดยบริษัท ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีผลการดำเนินงานโดยรวมสอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ มีการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง การจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และคงการบริหารคุณภาพสินเชื่ออย่างรัดกุม รวมถึงมีการตั้งสำรองในระดับที่เหมาะสม และเพียงพอเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ และความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอกที่มีความไม่แน่นอน มุ่งเน้นการเติบโตธุรกิจอย่างมีคุณภาพภายใต้กรอบนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์   ศิลาวงษ์