American Outperform ทำไมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐถึงดีขนาดนี้!

American Outperform ทำไมเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐถึงดีขนาดนี้!

ผมเชื่อว่าที่เศรษฐกิจสหรัฐและตลาดหุ้นไม่กังวลกับการเลือกตั้งปี 2024 ส่วนหนึ่งมาจากการที่ตัวแทนผู้สมัครทั้งสองท่านเคยเป็นประธานาธิบดีมาแล้ว และความขัดแย้งก็สูงเสียจนอาจไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้

ปี 2024 เป็นอีกปีที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวได้ต่อเนื่อง จนแทบไม่มีใครพูดถึงความเสี่ยงของเศรษฐกิจถดถอย ขขณะที่หลายบริษัทกำลังวิ่งไปหาวัฏจักรเศรษฐกิจรอบใหม่อย่าง AI แล้ว

ฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐก็ทำผลงานเด่นไม่แพ้กัน เพียงไตรมาสแรกดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้นถึง 11% เป็นไตรมาสแรกที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2019 แถมครั้งนี้ เป็นการปรับตัวขึ้นพร้อมกับบอนด์ยีลด์สหรัฐทั้งระยะสั้นและยาวเสียด้วย เศรษฐกิจสหรัฐมีดีอย่างไร และตลาดหุ้นสหรัฐจะไปต่อไหม จึงเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องรู้ให้ทัน 

ในมุมมองของผม การที่เศรษฐกิจฟื้นตัวเร็วนั้นเกิดจากพื้นฐานที่มีความเป็นผู้ประกอบการสูง กล้ารื้อสร้างใหม่ และสิ่งที่สร้างใหม่ มักได้รับแรงสนับหนุน และดีกว่าสิ่งเก่า

แม้เราจะเห็นเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวและเติบโตต่อเนื่อง แต่เชื่อหรือไม่ว่า ตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา มากกว่า 50% ของบริษัทใน Fortune 500 ล้มละลายหรือถูกซื้อกิจการไปแล้ว นอกจากนี้บริษัทในรายชื่อตั้งต้นของ 500 บริษัทในปี 1955 ปัจจุบันเหลือแค่หนึ่งในสิบ

ถ้าเป็นเศรษฐกิจปรกติ สถิตินี้อาจทำให้นักลงทุกหลายท่านมองว่าใกล้ล่มสลาย แต่ไม่ใช่สำหรับสหรัฐ เพราะด้วยกฎหมายล้มละลาย แนวคิดการเป็นผู้ประกอบการ และการสนับสนุนของรัฐ ทำให้การสร้างใหม่ดีกว่าเดิม

เห็นได้ชัดจากตลาดหุ้น ย้อนกลับไปที่ปี 2000 10บริษัทใหญ่ของสหรัฐ มีเพียง Microsoft เท่านั้นที่ยังอยู่มาจนถึงปัจจุบัน แต่บริษัทใหม่ก็ดีกว่าเก่าผิดหูผิดตา ไม่ว่าจะเป็น Apple Amazon และ Alphabet หรือบริษัทเล็ก ๆ Market cap. แค่ 3พันล้านดอลลาร์ในตอนนั้นอย่าง Nvdia ก็มีช่องว่างให้เติบโต สร้างธีมใหม่ และกลายเป็นบริษัทขนาด 2 ล้านล้านดอลลาร์ได้ 

ดังที่ Henry Ford เคยกล่าวว่า “Failure is the only opportunity to begin again more intelligently” 

สิ่งที่สองที่ทำให้เศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐทำได้ดีกว่าที่อื่น ต้องยกให้เรื่อง การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง 

ย้อนกลับไปช่วงหลังการทลายกำแพงเบอร์ลินปี 1989 ถึงทศวรรษ 2000 สหรัฐกล้าริเริ่มธุรกิจใหม่ กล้าให้ดอลลาร์ได้เป็นสกุลเงินสำรองของประเทศอื่น ความสำเร็จของนโนบายเศรษฐกิจทำให้ความผันผวนของตลาดลดลงอย่างมีนัย

สำหรับตลาดหุ้น American Outperform เห็นได้ชัดเจนตั้งแต่หลัง Great Financial Crisis ความกล้าเปลี่ยนด้วยการใช้นโยบายการเงินนอกตำราอย่าง QE ความสำเร็จทำให้เศรษฐกิจ และตลาดหุ้นฟื้นกลับมาได้อย่างรวดเร็ว 

ส่วนด้านการคลัง วิกฤติโควิดเป็นจังหวะที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดว่าสหรัฐกล้าที่จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบอย่างมหาศาล จนบริษัทต่างๆ กล้าที่จะพัฒนาต่อไม่ต้องรอเศรษฐกิจฟื้น

การเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องนี้ ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐที่มีประชากรณ์เพียง 340 ล้านคนหรือคิดเป็นแค่ 4.2% ของโลก สามารถรักษาขนาดเศรษฐกิจระดับ 28 ล้านล้านดอลลาร์ หรือราว 25% ของโลกและมีขนาดตลาดหุ้นคิดเป็นกว่า 64% ของมูลค่าตลาดหุ้นโลก

เทียบกับประเทศที่หันมาเน้นความมั่นคง ควบคุมได้อย่างจีน แม้จะมีประชากรณ์ถึง 1.4 พันล้านคน (17.7% ของโลก) แต่ขนาดเศรษฐกิจและตลาดทุนก็หยุดเพียงราว 17% และ 14% ของโลกตามลำดับ 

แล้วอะไรจะทำให้เรื่องราวเปลี่ยนเป็น American Underperform ผมมองว่ามีด้วยกันสามสัญญาณ

การลดการใช้ดอลลาร์เป็นทุนสำรองระหว่างประเทศหรือ De-Dollarization คือสัญญาณแรก 

ผมเชื่อว่าเหตุผลที่จะต้องถือเงินดอลลาร์เป็นสกุลเงินสำรองหลักนั้นลดลงมาก เพราะการอัดฉีดนโยบายมหาศาล เริ่มส่งผลกระทบให้กับต้นทุนทางการเงิน พร้อมกับระดับหนี้สาธารณะที่สูงเป็นประวัติกาล ถ้าประเทศไหนเริ่มการเปลี่ยนแปลงด้านทุนสำรองอย่างมีนัย (5-10%) อาจถึงเวลาต้องกลับมาวิเคราะห์ความแข็งแกร่งของพื้นฐานเศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐกันใหม่

การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหรือ Rise of World Economy คือสิ่งที่ต้องจับตาอย่างที่สอง 

ตลาดหุ้นเป็นเครื่องสะท้อนได้ดีที่สุด เพราะปัจจุบันไม่มีตลาดไหนจะมีหุ้นเทคโนโลยีใหญ่และเติบโตสูงได้มากเท่าสหรัฐ เป็นที่มาของผลตอบแทนที่ชนะทั้งโลก แต่ในอนาคต ผมเชื่อว่าจะเป็นเวลาของ Adaptor หรือผู้ที่นำเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ถ้าเริ่มมีเศรษฐกิจนอกสหรัฐทำได้มากขึ้น American Outperform ก็จะลดลงตามลำดับ

ท้ายที่สุดคือ Policy และ Politics จับตาการเลือกตั้งช่วงปลายปีนี้

ผมเชื่อว่าที่เศรษฐกิจสหรัฐและตลาดหุ้นไม่กังวลกับการเลือกตั้งปี 2024 ส่วนหนึ่งมาจากการที่ตัวแทนผู้สมัครทั้งสองท่านเคยเป็นประธานาธิบดีมาแล้ว และความขัดแย้งก็สูงเสียจนอาจไม่สามารถขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจขนาดใหญ่ได้

แต่จากนโยบายหาเสียงของทั้งสองท่านปัจจุบัน ถ้ามีฝั่งใดฝั่งหนึ่งที่ชนะเด็ดขาดทั้งประธานาธิบดี สภาสูง และสภาล่าง ผมเชื่อว่า American Outperform จะต้องถูกทดสอบแน่นอน

ส่วนตัวผมมองว่า เศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐ Outperform อย่างมีพื้นฐาน ลงทุนได้ แค่ต้องจับตาว่าพื้นฐานที่ดีกว่าโลกนั้น เปลี่ยนแปลงไปหรือไม่ครับ