หุ้นไทยปิดตลาดยืนเหนือ 1,400 จุด พุ่งกระจายเฉียด 26 จุด ต่างชาติกระหน่ำซื้อ 6,038 ล้านบาท

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทยวันนี้” (9 เม.ย.67) ดัชนีปิดตลาดเย็นอยู่ที่ 1,401.11 จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.53 จุด หรือเปลี่ยนแปลง +1.86% มูลค่าการซื้อขาย 48,405.14 ล้านบาท โดยดัชนีตลาดหุ้นไทยผันผวนในทิศทางปรับตัวขึ้น และลงเกือบทั้งวันซึ่งทำจุดต่ำสุดวันนี้อยู่ที่ 1,376.83 จุด และสูงสุดอยู่ที่ 1,401.11 จุด 

โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิวันนี้ 6,037.79 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนในประเทศขายสุทธิ 5,656.29 ล้านบาท สถาบันในประเทศขายสุทธิ 402.24 ล้านบาท และ บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 20.74 ล้านบาท
 

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

NEO        มูลค่า 3,517.91 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่  46.25 บาท เพิ่มขึ้น 7.25 บาท หรือ 18.59%
PTTEP    มูลค่า 2,009.20 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 160.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 0.31%
CPALL     มูลค่า 1,971.66 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 56.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.45%
ADVANC มูลค่า 1,704.40 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 207.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท หรือ 1.47%   
KBANK    มูลค่า 1,659.69 ล้านบาท ราคาหุ้นอยู่ที่ 125.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 1.21%

กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจ และการลงทุน สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยกับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า "ตลาดหุ้นไทย" ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก หลังจากที่นักลงทุนเก็งกำไร กับการประชุม กนง.พรุ่งนี้ (10 เม.ย.2567) อาจจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมา และมาตรการอสังหาฯ ที่จะมีการกระตุ้นโดยกลยุทธ์การลงทุนของวันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.2567) มีโอกาสอยู่ที่ 50/50 ที่ กนง.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และไม่ลดอัตราดอกเบี้ย จึงแนะนำนักลงทุนหุ้นกลุ่มแบงก์ BBL ซึ่งหากไม่มีการลดดอกเบี้ยพรุ่งนี้ แบงก์ใหญ่ที่มีการขายก่อนหน้านี้จะมีการซื้อคืนกลับทันที หลังจากที่อัตราดอกเบี้ยไม่มีการปรับลด เนื่องจากหุ้นแบงก์ใหญ่ก่อนหน้านี้ปรับตัวลงมามาก ขณะที่หุ้น KKP เป็นแบงก์กลางที่หากมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยก็จะได้รับประโยชน์มาก เพราะมีการปล่อยสินเชื่อธุรกิจ 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์