ตลาดหุ้นจีน โอกาส และ ความเสี่ยง

ตลาดหุ้นจีน เริ่มมีฟื้นตัว ขึ้นมาเช่นกัน หลักๆ มาจากนโยบายภาครัฐ ที่ทะยอยออกมา เพื่อพยุงตลาด บลจ. ดาโอ ยังคงมีมุมมองระมัดระวังการลงทุนสำหรับตลาดหุ้นจีน การลงทุนจะต้องเน้นเลือกลงทุน selective เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน

สำหรับปี 2567 ภาพรวมตลาดการลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก ภาพรวมส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดี ตลาดที่ปรับตัวช้ากว่าตลาดอื่น อย่าง ตลาดหุ้นจีน เริ่มมีฟื้นตัว ขึ้นมาเช่นกัน หลักๆ มาจากนโยบายภาครัฐ ที่ทะยอยออกมา เพื่อพยุงตลาด ไม่ว่าจะเป็นการให้ National Team หรือรัฐวิสาหกิจเข้ามาช่วยซื้อ โดยจนถึงสิ้นเดือนมี.ค. 2567 มีเม็ดเงิน Passive Fund ไหลเข้า CSI300 ETF เป็นสัดส่วนที่สูง ส่งผลให้ A-Share index มีผลตอบแทน เป็นบวกได้

เศรษฐกิจจีนยังอยู่ในภาวะชะลอตัวทั้งในส่วนของการผลิตและการส่งออก สำหรับภาคการบริการจะดูดีกว่าจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มกลับมาจากจำนวนเที่ยวบินเร่งตัวขึ้น นโยบายภาครัฐเองก็ผ่อนปรนเที่ยวบินมากขึ้น ถ้าติดตามตัวเลขช่วงที่ผ่านมา อย่างเช่น ในช่วงวันหยุดตรุษจีน รายได้จากการท่องเที่ยวในจีนโต 47.3% YoY และ สูงกว่าระดับช่วงก่อน Covid แล้ว สำหรับปีนี้ รัฐบาลจีนตั้งเป้าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 5% โดยจะเป็นการดำเนินนโยบาย งบประมาณแบบขาดดุล 3% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 

สำหรับนโยบายทางการเงินก็ดำเนินนโยบายแบบผ่อนคลาย มีการปรับลด ดอกเบี้ยนโยบายอย่าง MLF,LPR 1YR และ LPR 5YR อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่แล้ว นอกจากนี้ RRR ก็มีการปรับลดเช่นเดียวกัน และคาดว่ามีโอกาสที่ปีนี้จะปรับลดเพิ่มอีก 50 bps เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาฯ ที่ยังไม่ค่อยฟื้นตัว 

สำหรับภาคอสังหาฯ หลังจากเกิดวิกฤติอสังหาในจีน ไล่ตั้งแต่ Evergrande ถึง Country Garden ปัญหาเริ่มต้นจากภาวะอุปทานที่ล้นจากการออกนโยบายผ่อนคลายมากเกินไปในอดีต โดยในปัจจุบันราคาอสังหาฯในจีนปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของ Tier-2 ผู้ประกอบการเองก็ชะลอการออกโครงการใหม่เนื่องจากสินค้าคงเหลือยังอยู่ในระดับสูง ก่อนหน้านี้ มีบางโครงการที่ไม่สามารถส่งมอบให้กับผู้ซื้อบ้านได้ เนื่องจากมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ ภาครัฐเองจึง ต้องออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ซื้อบ้านให้มั่นใจได้ว่าสุดท้ายจะได้รับการส่งมอบ 

ประเด็นภาคอสังหาฯของจีนถือเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง เนื่องจากความมั่งคั่งของประชากรจีนส่วนใหญ่อยู่ในอสังหาฯ ดังนั้น จะมีผลเกี่ยวเนื่องไปยังการจับจ่ายใช้สอยด้วย หากภาคอสังหาฯ ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด หรืออาจกล่าวได้ว่าเศรษฐกิจจีนจะกลับมาฟื้นได้อย่างยั่งยืน ปัญหาเชิงโครงสร้างในส่วนของอสังหาฯจะต้องได้รับการแก้ไขด้วย 

อย่างไรก็ตาม บริษัทเทคโนโลยีในจีนที่เกี่ยวของกับ E-commerce ก็มีบางบริษัทที่มีการเติบโตของกำไร บางบริษัทก็มีการขยาย platform ไปยังต่างประเทศ อย่างเช่น Temu ที่มียอด Active Users เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลายๆบริษัท มี Network Effect ที่แข็งแกร่ง และมีสัดส่วนของเงินสดเทียบกับมูลค่าตลาดอยู่ในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง สะท้อนถึง Valuation ที่ Downside เริ่มจำกัด ส่วนนึงที่ทำให้ เม็ดเงินของ Active Fund ไหลเข้าไปในจีนไม่มากนัก เนื่องจากนโยบายการกีดกันของจีน หรือความเท่าเทียม อย่าง Common Prosperity นักลงทุนระยะยาวที่ชอบความแน่นอน อาจมองว่า การนำเงินไปลงทุนใน ตลาดที่ Regulatory Risk น้อยกว่า แต่การเติบโตของกำไรอยู่ในระดับสูง เช่นเดียวกัน จะมีความน่าสนใจในการลงทุนมากกว่า 

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ดาโอ ยังคงมีมุมมองระมัดระวังการลงทุนสำหรับตลาดหุ้นจีน การลงทุนจะต้องเน้นเลือกลงทุน selective เพราะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่ชัดเจน อีกทั้ง ปีนี้จะมีการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ถ้าทรัมป์ ได้รับเลือก มีโอกาส ที่จะเห็นประเด็นสงครามการค้า กลับมาเป็นประเด็นกังวล หลักๆ เพิ่มขึ้นได้ 

อย่างไรก็ตาม ด้วย Valuation ที่อยู่ในระดับต่ำ พิจารณาจาก 5Yr-P/E band จะอยู่ที่ระดับ -2SD สำหรับ นักลงทุนระยะยาว ที่ไม่มีสัดส่วนการลงทุนในจีน อยู่เลย สามารถทะยอย สะสมได้ ในสัดส่วนที่จำกัด