ส่งท้ายปี 66 | ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ ส่งท้ายปี 66 
    ตลาดหุ้นเงียบเหงา ส่งท้ายปีเก่า - ต้อนรับปีใหม่ เลยทำให้บรรยากาศการซื้อขายเข้าโหมดชะลอจนไปถึงหยุดลงทุนไปพักผ่อนกัน

     สรุปปี 2566 ตลาดหุ้นไทยยังทำ ผลตอบแทนปรับตัวลดลงมากกว่า 17 % ท่ามกลางตลาดหุ้นอื่น และสินทรัพย์ประเภทอื่น "แข่งกันทำนิวไฮ" ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้นสหรัฐ - ญี่ปุ่น - อินเดีย 

     ขณะที่ทองคำ - บิตคอยน์  และตราสารหนี้ กลับทำผลตอบแทนได้ดีเช่นกัน จนทำให้ปี 2566 ไม่ใช่ปีทองของตลาดหุ้นไทย

     ยังไม่นับรวมกับบรรดา “หุ้นแสบ” พฤติกรรมการไม่เหมาะสม เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยที่ปะทุขึ้นมาให้เห็นหลายต่อหลายเคส 

    รวมไปถึงยังเป็นปีที่ทำให้นักลงทุน “รายย่อย” มีบทบาทมากสุดตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหุ้นไทย จากกรณี Naked Short Selling  มาจนทำให้ การเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน 

     ส่งท้ายปี 2566 ด้วยสารพัดปัญหาตลาดหุ้นไทยเลยก็ว่าได้

๐๐๐

     ยิ่งใกล้หยุดยาวตลาดหุ้นไทยยิ่งเงียบเหงา วอลุ่มเบาบางตลอดทั้งวัน 

    โดยดัชนี แกว่งตัวไซด์เวย์ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ รับอานิสงส์จากการทำ Window Dressing ในหุ้นบิ๊กแคป “โรงพยาบาล - แบงก์” 

    ดัชนี ปิดการซื้อขายที่ 1,413.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.62 จุด หรือ 0.33% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,414.44 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,406.50 จุด มูลค่าการซื้อขาย 33,948.24 ล้านบาท

    นักลงทุนต่างชาติซื้อ 274.33 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 1,212.39 ล้านบาท พอร์ตโบรกเกอร์ขาย 934.71 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขาย 552.00 ล้านบาท

๐๐๐

    ประเทศไทยยังเนื้อหอม หลัง 4 ค่ายรถยักษ์ใหญ่แดนอาทิตย์อุทัย “โตโยต้า - ฮอนด้า - อีซูซุ - มิตซูบิชิ” ประกาศเตรียมทุ่มเงินลงทุน 1.5 แสนล้านบาท ตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย ถือเป็นข่าวดีสำหรับกลุ่มนิคมฯ WHA, AMATA ราคาเลยบวกขึ้นมารับข่าว รวมไปถึงกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์อย่าง SAT, STAMLY, AH ที่มีโอกาสได้รับออเดอร์ใหม่ๆ 

๐๐๐

    กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง AAI, ASIAN, ITC ปรับตัวขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ตอบรับข่าวดีหลังยอดการส่งออกอาหารสัตว์เลี้ยงในช่วงเดือนพ.ย. ที่ผ่านมา ยังขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐ และยุโรป 

    ซึ่งกูรูจาก บล.ดาโอ ยังคงแนะนำ “Overweight” กลุ่มอาหารสัตว์เลี้ยง เลือก AAI เป็น Top Pick คาดกำไรปี 2567 มีอัพไซด์สูงจากการขยายลูกค้าใหม่ ขณะที่ PER ยังต่ำกว่าตัวอื่นๆ

๐๐๐

     “หุ้นโรงแรม” มีแรงซื้อเข้ามาเช่นกันรับช่วงไฮซีซัน หยุดยาวส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ หนุนยอดจองห้องพักคึกคัก โดย MINT ซึ่งโรงแรมส่วนใหญ่อยู่ในต่างประเทศ ปิด 28.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท หรือ 5.50% และ CENTEL ปิด 43.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท หรือ 1.16%

๐๐๐

    ส่วนหุ้นสายการบิน BA ยังเทคออฟได้ต่อ ปิด 15.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.32% รับอานิสงส์จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยบล.ฟิลลิป คาดว่าจะได้เห็นตัวเลขผู้โดยสารไตรมาส 4 นี้ แตะ 1 ล้านคน หนุนกำไรปี 2566 พุ่งแรงกว่า 200% เป็น 3.5 พันล้านบาท

๐๐๐

    หุ้นรับเหมา CK, STEC, ITD ยังประคองตัวได้อยู่ หลังการประชุม ครม. ไม่ได้มีอะไรเซอร์ไพรส์ เคาะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปี 2567 เป็นที่เรียบร้อย ตามมติของคณะกรรมการไตรภาคี 2-16 บาท แต่ประเด็นที่ต้องตามต่อ คือ ปีหน้าจะมีการขึ้นค่าแรงรอบสองหรือไม่? หลังนายกฯ ส่งสัญญาณมาแล้ว

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์