รายย่อยกระเจิง | ออฟเรคคอร์ด

๐๐๐ รายย่อยกระเจิง 

        ตลาดหุ้นพึ่งรีบาวด์มาได้ไม่เท่าไร รีบกลับไปได้ลุ้นหลุด 1,400 จุดอีกครั้ง ส่วน วอลุ่ม ตลาดไม่ต้องพูดถึง   เบาบาง เพราะลงมาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และยังลงอยู่ 

       ภาพใหญ่ถือว่าเป็นไปตามภาวะตลาด และเป็นทั้งภูมิภาค ผสมกับเงินไม่เข้า ‘ซื้อ’ หุ้นไทย  ยิ่งช่วงหุ้นผันผวนหนักในแต่ละรอบเริ่มมีเสียงบ่นว่า รายย่อยพอร์ตตายของจริง !!

        ยิ่งใช้กลยุทธ์ “ซื้อ ถือ และขายช่วงราคาขึ้น” ยังยากในภาวะแบบนี้ถ้าไม่ใช้  TFEX เข้ามาช่วย เพราะรายใหญ่ - ต่างชาติ หันไปใช้ โปรแกรม HFT+PT จากโรบอต  

       กินรวบเพราะประมวล ‘ฝั่งซื้อ- ฝั่งขาย’ ได้หมด เลือกฝั่ง Short เทมาหมดจนรีบาวด์ กลับมา Short ต่อ เจอแบบนี้หลายๆ รอบใครไม่ทัน ฝึกวิทยายุทธ์ไม่เป็น พากันติดหุ้นติดดอยกันไป 

      ส่วนใหญ่หนีไม่พ้น “รายย่อย - เงินออม - เงินเย็น”  ทางการรู้แล้วจะ เพิ่มเครื่องมือช่วยรายย่อยได้บ้างไหมเนี้ย ? ​

   

๐๐๐

    ตลาดหุ้นไทยยังเผชิญกับความผันผวน แกว่งตัวในแดบลบเกือบตลอดทั้งวัน ถือเป็นการพักฐานตามภูมิภาค หลังไร้ปัจจัยใหม่หนุน โดยที่ผ่านมาตลาดรับข่าวบวกเฟดคงอัตราดอกเบี้ยไปมากแล้ว ขณะที่ล่าสุดบอนด์ยีลด์เริ่มขยับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

    ซึ่งสัปดาห์นี้ต้องรอฟังความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่เฟด ขณะที่ปัจจัยในประเทศรอฟังนายกฯ แถลงรายละเอียดการแจกเงินดิจิทัลในวันศุกร์นี้ (10 พ.ย.66)

    โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,408.30 จุด ลดลง 8.91 จุด หรือ 0.63% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,420.03 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,406.72 จุด มูลค่าการซื้อขาย 39,372.29 ล้านบาท

๐๐๐

     TIDLOR วอลุ่มแน่น แม้ระหว่างวันจะมีแรงเทขายออกมาบ้าง แต่สุดท้ายปิดบวกได้สำเร็จ ปิด 21.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท หรือ 0.47% ระหว่างวันขึ้นไปทำจุดสูงสุด 22.30 บาท หลังกำไรไตรมาส 3 พุ่งทำนิวไฮทะลุ 1 พันล้านบาท ตามการเติบโตของสินเชื่อ และธุรกิจนายหน้าประกันภัย ขณะที่ NPL ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ 1.51%

    นอกจากนี้ กลุ่มไฟแนนซ์ยังได้อานิสงส์จากแนวโน้มต้นทุนการเงินที่มีโอกาสปรับตัวลดลง หลังเงินเฟ้อหดตัวครั้งแรกในรอบ 25 เดือน เป็นการคอนเฟิร์มว่าอัตราดอกเบี้ยไทยได้พ้นจุดสูงสุดไปแล้ว

๐๐๐

     หุ้น BH บวกนำหุ้นโรงพยาบาลตัวอื่นๆ ขึ้นมา ปิดตลาดที่ 252 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท หรือ 1.61% หลังเตรียมประกาศงบฯ สัปดาห์นี้ ซึ่งแนวโน้มถือว่าสดใส เนื่องจากปกติแล้วไตรมาส 3 ถือเป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจโรงพยาบาล โดยลูกค้าหลักกลุ่มต่างชาติฟื้นตัวต่อเนื่อง

๐๐๐

     ส่วนหุ้นรถไฟใต้ดิน BEM เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่กูรูแทบทุกสำนักฟันธงว่างบฯ ไตรมาส 3 มีลุ้นพุ่งทำนิวไฮอีกครั้ง ตามปริมาณการใช้ทางด่วน และจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีน้ำเงินที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยระหว่างวันราคาหุ้นพยายามประคองตัวยืนบวก ก่อนปิดเสมอตัว 8 บาท

๐๐๐

    TASCO ทำนิวไฮในรอบกว่า 5 เดือน ที่ 19.50 บาท ก่อนปิดซื้อขาย 19.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 1.58% ตั้งแต่มีข่าวว่าสหรัฐผ่อนผันให้มีการนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา จุดพลุให้ราคาหุ้นพุ่งติดจรวด

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์