“หุ้นไทย” ปิดตลาดลบ 12.13 จุด GUNKUL มีผลต่อดัชนีน้อย DELTA ดึงลงเยอะสุด

“หุ้นไทย” ปิดตลาดลบ 12.13 จุด GUNKUL มีผลต่อดัชนีน้อย DELTA ดึงลงเยอะสุด

“ตลาดหุ้นไทย” ปิดตลาดวันนี้อยู่ที่ 1,652.76 จุด ลดลง 12.13 จุด หรือ 0.73% “บล.ยูโอบี” ชี้ DELTA PTTEP และ AOT ดึงดัชนีลงรวมกันเกือบ 6 จุด ส่วน GUNKUL มีผลต่อดัชนีน้อย

ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาด “หุ้นไทย” วันนี้ผันผวนในทิศทางปรับตัวลดลงเกือบทั้งวัน ซึ่งดัชนีทำจุดต่ำสุดอยู่ที่ 1,648.74 จุด ก่อนมาปิดตลาดที่ 1,652.76 จุด ลดลง 12.13 จุด หรือ 0.73% มูลค่าซื้อขาย 70,518.69 ล้านบาท

หุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่

1. GUNKUL มูลค่า 5,466.89 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 4.22 บาท  ลดลง 0.54 หรือ 11.34%

2. AOT มูลค่า 3,179.94 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 71.75 บาท ลดลง 1.00 หรือ 1.37%

3. PTTGC มูลค่า 2,878.81 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 50.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงไปจากราคาปิดก่อนหน้า 

4. DELTA มูลค่า 2,603.42 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 880 บาท ลดลง 22.00 หรือ 2.44%

5. JMT มูลค่า 2,301.73 ล้านบาท ราคาหุ้นปิดที่ 50  บาท เพิ่มขึ้น 0.50 หรือ 1.01%

นายกิจพล ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงอย่างรุนแรง จากการที่ผลประกอบการไตรมาส 4 ของหน้าหุ้นหลายตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ประกอบการที่หุ้นหลายตัวปรับตัวลงแรงส่งผลต่อเนื่องให้นักเก็งกำไรระมัดระวังมากขึ้นจนมีแรงเทขายออกมาในหน้าหุ้นที่พื้นฐานไม่เเข็งแรง หรือหน้าหุ้นที่ทิศทางผลประกอบการไตรมาส 4 ยังไม่แน่นอน 

กรณีบริษัท กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL มีข่าวปรากฏเรื่องศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมา ได้มีคำวินิจฉัยให้เพิกถอนการออกโฉนดที่ดินจำนวน 32 แปลงซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ตั้งโครงการวายุวินด์ฟารม์ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมของบริษัท นายกิจพล ประเมินว่า

“ตลาดรีแอ็คแรงเกินไป และการปรับตัวลดลงของหุ้นดังกล่าวมีผลต่อดัชนีน้อยมากประมาณ 0.4 จุด”

“ตลาดอาจจะมองว่ามีการเพิกถอนที่ดินประมาณ 32 แปลง หรือประมาณ 2,000 ไร่ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ดังกล่าวเป็นของบริษัทย่อยแห่งหนึ่งซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 60 เมกะวัตต์ ในขณะที่พื้นที่ ที่เกิดปัญหาจะกระทบกำลังการผลิตประมาณ 40 เมกะวัตต์ และในจำนวน 40 เมกะวัตต์ ยังต้องหารสอง เพราะปัจจุบันบริษัทย่อยดังกล่าวซึ่งถือครองร่วมกันระหว่าง GUNKUL และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แสดงว่าหากตีผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจริงๆ แบบเลวร้ายที่สุดคือ กำลังการผลิตไฟฟ้าของ GUNKUL จะหายไป 20 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นกำไรประมาณปีละ 100 ล้านบาท” 

“100 ล้านบาท อาจจะเป็นจำนวนที่เยอะในระยะสั้น แต่หากเราพิจารณาสัญญาที่ GUNKUL เสนอขายไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรอบใหม่ที่จะทราบผลในวันที่ 22 มี.ค.ใน 21 โครงการที่ผ่านเข้ารอบ ซึ่งมีพลังการผลิตรวมกันประมาณ 1,000 เมกะวัตต์ ดังนั้นผมจึงมองว่าการหายไปของโครงการที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าประมาณ 20 เมกะวัตต์ มีผลน้อยมากกับบริษัท และเป็นสาเหตุที่ผมมองว่าวันนี้ ตลาดอาจเทขายแรงจนเกินไป ทว่าผมก็เข้าใจว่าตลาดไม่ชอบหน้าหุ้นที่ยังมีความเสี่ยงบางอย่างอยู่ ในอนาคตผมมองว่าอาจมีการฟื้นตัวของราคาหุ้น โดยแกว่งตัวประมาณ 4.20 บาท - 4.70 บาท จนกว่าจะมีภาพที่ชัดเจนในเรื่องของปัญหาที่ดิน หรือการได้รับโครงการใหม่ๆ”

หน้าหุ้นที่ดึงตลาดลงแรงวันนี้ ได้แก่ 

  • DELTA ดึงดัชนีลงประมาณ 2 จุด 
  • PTTEP ดึงดัชนีลงประมาณ 1.6 จุด 
  • AOT ดึงดัชนีลงประมาณ 1.1 จุด 
  • ADVANC ดึงดัชนีลงประมาณ 0.7 จุด
  • GULF ดึงดัชนีลงประมาณ 0.7 จุด

ด้าน ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้ (15 ก.พ.) จำเป็นต้องรอฟังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐคืนนี้ ซึ่งอาจมีแนวโน้มมากกว่าหรือน้อยกว่าตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ทว่าไม่ว่าตัวเลขจะออกมาอย่างไรก็ตาม อาจไม่กระทบกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐ เนื่องจากได้ปรับขึ้นเกือบแตะจุดสูงสุดของวัฏจักรรอบนี้แล้ว โดยวันพรุ่งนี้อาจมีแนวรับอยู่ในช่วง 1,648 จุด - 1,635 จุด ตามลำดับ ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,659 จุด 

“อย่างไรก็ตาม หากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐไม่พุ่งเกินที่ตลาดคาดการณ์มากๆ วันพรุ่งนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจไม่ปรับตัวลงต่อแล้ว และอาจมีความเคลื่อนไหวในเชิงบวกมากกว่า เพราะหากดัชนีแตะจุด 1,650 จะเป็นช่วงของการเข้าซื้อ”

สำหรับคำแนะนำการลงทุนวันพรุ่งนี้ ในกรณีที่ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐไม่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นตามที่ตลาดคาดการณ์ ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจรีบาวด์ ดังนั้นช่วงนี้ควรเน้นหน้าหุ้น Laggard มากกว่าหน้าหุ้นที่ตลาดรับรู้ข่าวดีไปเยอะแล้ว

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์