‘บางจาก’ไร้เหตุเพิ่มทุน โบรกชี้บริษัทลูกเงินสดเหลืออื้อ ยืมใช้ก่อนได้

‘บางจาก’ไร้เหตุเพิ่มทุน โบรกชี้บริษัทลูกเงินสดเหลืออื้อ ยืมใช้ก่อนได้

จับตาดีล ‘บางจาก-เอสโซ่’ จ่อเบียดขึ้นเบอร์สอง เจ้าตลาดน้ำมันในไทยไล่จี้เบอร์หนึ่งอย่าง ‘โออาร์’ โบรกเกอร์ฟันธงได้ประโยชน์ทั้งคู่ เหตุช่วยประหยัดต้นทุนการซื้อน้ำมันได้อื้อ มั่นใจไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน หลังพบบริษัทลูกบางจากเงินสดเหลือเพียบ 

สะเทือนวงการ 'หุ้นปั้มน้ำมัน' อีกครั้ง เมื่อความเคลื่อนไหวสุดฮือฮาของบางจากเข้าเทกโอเวอร์เอสโซ่ ประเทศไทยทั้งปั๊มน้ำมันและโรงกลั่น ซึ่งเคาะราคาเบื้องต้นประมาณ 8.84 บาทต่อ 1 หุ้น ในสัดส่วน 65.99% หรือคิดเป็นประมาณราว 20,000 กว่าล้านบาท โดยดีลครั้งนี้ทำให้บางจากขึ้นมาเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ของตลาดสถานีบริการน้ำมันและโรงกลั่นทันที ที่ต้องจับตาดูต่อ คือ ดีลนี้จะเป็นสปริงบอร์ดให้้บางจากผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 แทน OR ได้หรือไม่?

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นดีลที่ดีของทั้งคู่ สำหรับบางจาก ในราคาซื้อขายเบื้องต้นที่ 8.84 บาท หรือไม่เกิน 9.00 บาท ในสัดส่วน 65.99% ในวงเงินราว 21,000 ล้านบาท ซึ่งไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุน แม้บางจากจะไม่ได้มีเงินสดในมือเยอะ แต่บริษัทลูกอย่าง BCPG มีเงินสดและเงินลงทุนไว้ประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท ที่เตรียมไว้สำหรับแผนการลงทุนต่าง ๆ ซึ่ง BCPG เองก็กำลังหาช่องทางลงทุนในการเพิ่มพอร์ตอยู่ จึงอาจมีโอกาสที่จะนำเงินก้อนนี้มาให้บริษัทแม่ยืมก่อนได้

หากย้อนไปดูกำไรของเอสโซ่ปีที่ผ่านมาจะอยู่ราว 4,000 ล้านบาท ขณะที่บางจากกำไรประมาณ 6,500 ล้านบาท และเมื่อบางจากเทกโอเวอร์ 65.99% ก็จะทำให้ในอนาคตบางจากมีกำไรเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 40% เนื่องจากเมื่อมีการควบรวมกิจการจะทำให้มีการซึ่งการประหยัดต้นทุนในการซื้อน้ำมันรวมเป็นออเดอร์เดียว ซึ่งผลดีตรงนี้อาจทำให้ผลประกอบการมีส่วนเพิ่มขึ้นมาได้ในอนาคต และสามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น ส่งผลให้บางจากขยับกลายเป็นเบอร์ 2 หรือใกล้เคียงกับ OR ได้ ซึ่งปัจจุบัน บางจากมีสถานีบริการน้ำมันอยู่ 1,320 แห่ง ขณะที่ เอสโซ่มีส่วนสถานีบริการน้ำมัน 780 แห่ง หากรวมกันแล้วจะมี 2,100 แห่ง ส่วน OR มีปั้มน้ำมันอยู่ที่ 2,473 แห่ง

‘บางจาก’ไร้เหตุเพิ่มทุน โบรกชี้บริษัทลูกเงินสดเหลืออื้อ ยืมใช้ก่อนได้

ขณะเดียวกันหลังจากนี้หุ้นเอสโซ่ยังคงมีปัจจัยที่ยังค้างคาจากเรื่องของกระบวนการกว่าคำสั่งซื้อที่จะกดดันราคาแถว ๆ 9.00 บาท เลยทำให้ราคาหุ้นไม่ได้มีปัจจัยผลักดันให้ราคาไปได้ไกล ๆ

ปัจจุบันบางจากราคาอยู่ที่ 37.00 บาท ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม และยังมีอัพไซด์ที่จะสามารถเพิ่มขึ้นได้อีก 4% นั่นแปลว่าราคาเหมาะสมจะขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 50 บาทได้ ซึ่งต้องบอกว่าตรงนี้ยังถือว่า ยังมีอัพไซด์ในส่วนตรงนี้ได้อีก

“เมื่อซื้อเกิน 50% ก็ต้องถูกให้ทำเทนเดอร์ออฟเฟอร์ ในการซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อย อย่างไรก็ตาม ราคาของการซื้อหุ้นรายย่อยก็จะถูกบังคับให้เค้าได้หุ้นมา ก็แปลว่า ถ้ามีคำสั่งซื้อที่ราคา 8.84 บาทจริง คิดว่า นักลงทุนรายย่อยน่าจะไม่ขาย จึงเป็นการมองเป็นเรื่องที่ดีแก่นักลงทุนทั่วไป”

นายเอกรินทร์ วงษ์ศิริ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ถือเป็นดีลที่ดีสำหรับบางจาก เพราะจะทำให้ได้ประโยชน์จากโรงกลั่นและธุรกิจปั้มน้ำมัน ในส่วนของราคาที่บางจากเสนอไปประมาณ 9 - 10 บาท ถือว่าค่อนข้างถูก ถ้ามองเป็นจำนวนเงินอยู่ประมาณ 30,000 - 33,000 ล้านบาท ซึ่งฐานะทางการเงินของบางจากสามารถรองรับได้ เพราะมีเงินสดในมือประมาณ 30,000 - 40,000 ล้านบาท ซึ่งบางจากจะได้น้ำมันมาประมาณ 7 .5 ล้านบาร์เรล ตีเป็นมูลค่าประมาณกว่า 20,000 ล้านบาท และได้ในตัวสถานีบริการน้ำมันอีกประมาณ 750 แห่ง หากเปิดสถานีปั้มน้ำมันใหม่จะต้องใช้เงินกว่า 20 ล้านบาท ต่อหนึ่งสถานี รวมแล้วที่ได้จากเอสโซ่เป็นมูลค่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่มากกว่าบางจากจ่ายไป เหมือนได้โรงกลั่นมาฟรี ๆ ถือว่าเป็นดีลที่คุ้มค่าสำหรับบางจาก นอกจากนี้บางจากจะสามารถเพิ่มปริมาณยอดขายขยับมาเป็นเบอร์ 2 ได้ ในตัวสถานีน้ำมัน และในส่วนของโรงกลั่นจะขยับมาเป็นเบอร์ 1 ได้