ตรวจสุขภาพประจำปีพนักงาน...ค่าใช้จ่ายนี้กระทบภาษีหรือเปล่า?

ตรวจสุขภาพประจำปีพนักงาน...ค่าใช้จ่ายนี้กระทบภาษีหรือเปล่า?

การตรวจสุขภาพประจำปี หนึ่งในสวัสดิการที่หลายบริษัทมีให้กับพนักงาน ค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปในส่วนนี้ สามารถนำมาลดหย่อนหรือถือเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้หรือไม่

ในยุคที่องค์กรต่างๆ ให้ความสำคัญกับทรัพยากรมนุษย์มากขึ้น การดูแลสุขภาพของพนักงานถือเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในสวัสดิการที่หลายบริษัทจัดให้คือ การตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อประเมินภาวะร่างกาย คัดกรองโรค และลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยรุนแรงในอนาคต

แต่เมื่อมองในมุมของภาษี หลายองค์กรอาจตั้งคำถามว่า “แล้วค่าใช้จ่ายที่จ่ายไปในส่วนนี้ สามารถนำมาลดหย่อนหรือถือเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีได้หรือไม่?”

สามารถค้นหาคำตอบได้ดังนี้

ความสำคัญของการตรวจสุขภาพประจำปี

การตรวจสุขภาพไม่ได้เป็นเพียงกิจกรรมที่ทำไปตามกฎหมายหรือข้อกำหนดของหน่วยงานรัฐเท่านั้น แต่ยังเป็นวิธีที่ช่วยให้องค์กรสร้างวัฒนธรรมการดูแลเอาใจใส่พนักงาน การที่พนักงานได้รับการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ทำให้สามารถตรวจพบโรคหรือความผิดปกติในระยะเริ่มต้น ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ระยะยาวของทั้งพนักงานและองค์กร อีกทั้งยังช่วยลดการลาป่วย และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม
ในบางกรณีกฎหมายแรงงานก็ระบุให้นายจ้างต้องจัดการตรวจสุขภาพให้กับพนักงานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมเสี่ยง เช่น งานเกี่ยวกับสารเคมี ฝุ่น เสียง หรือสิ่งแวดล้อมที่อาจก่อให้เกิดโรคจากการทำงาน หากไม่ดำเนินการอาจมีความผิดตามกฎหมายแรงงานและความปลอดภัยในการทำงาน                                

มุมมองด้านภาษี ค่าใช้จ่ายสวัสดิการกับการตรวจสุขภาพ

เมื่อนำประเด็นด้านภาษีมาพิจารณา การตรวจสุขภาพประจำปีของพนักงานสามารถถือเป็น ค่าใช้จ่ายเพื่อสวัสดิการพนักงาน ซึ่งตามกฎหมายภาษีเงินได้นิติบุคคล ค่าใช้จ่ายประเภทนี้สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายได้จริง ตราบใดที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมสรรพากร

กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากบริษัทมีหลักฐานการจ่ายชัดเจน เช่น ใบเสร็จรับเงินจากโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ออกในนามบริษัท และเป็นค่าใช้จ่ายที่จ่ายเพื่อสวัสดิการแก่พนักงานทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ก็สามารถนำไปบันทึกเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชี และลดฐานภาษีเงินได้นิติบุคคลได้

เงื่อนไขที่ควรระวัง

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกกรณีที่ค่าใช้จ่ายการตรวจสุขภาพจะสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ หากมีการจ่ายเฉพาะเจาะจงให้พนักงานบางคน หรือใช้จ่ายในลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับหลักสวัสดิการทั่วไป เช่น ตรวจสุขภาพให้เฉพาะผู้บริหารระดับสูงโดยไม่มีนโยบายครอบคลุมพนักงานทั้งหมด อาจทำให้กรมสรรพากรตีความว่าเป็น ประโยชน์ส่วนบุคคล มากกว่าสวัสดิการองค์กร และอาจไม่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้เต็มจำนวน

อีกประเด็นที่ควรทำความเข้าใจคือ หากบริษัทออกค่าใช้จ่ายตรวจสุขภาพให้พนักงานทุกคน ถือเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัท แต่สำหรับพนักงานเองมูลค่าของสวัสดิการดังกล่าวอาจถูกนับเป็นเงินได้พึงประเมินในภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขึ้นอยู่กับนโยบายของสรรพากรและลักษณะการจัดสวัสดิการ

ตัวอย่างสถานการณ์จริง

ลองพิจารณาสถานการณ์ที่บริษัทหนึ่งมีพนักงาน 50 คน และจัดโปรแกรมตรวจสุขภาพประจำปีที่โรงพยาบาล โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 บาทต่อคน รวมเป็นเงิน 150,000 บาท บริษัทสามารถบันทึกค่าใช้จ่ายนี้เป็นค่าใช้จ่ายสวัสดิการ และนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ เนื่องจากมีเอกสารครบถ้วนและจ่ายให้กับพนักงานทุกคน

แต่หากบริษัทเลือกจัดโปรแกรมตรวจสุขภาพพิเศษเฉพาะคณะผู้บริหาร 5 คน โดยจ่าย 20,000 บาทต่อคน รวมเป็น 100,000 บาท ค่าใช้จ่ายนี้อาจถูกตีความว่าไม่ใช่สวัสดิการทั่วไป แต่เป็นผลประโยชน์เฉพาะบุคคล ทำให้ไม่สามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายได้เต็มจำนวน หรืออาจถูกบวกกลับเป็นรายได้ของผู้บริหารเหล่านั้นเพื่อคำนวณภาษีบุคคลธรรมดา

มุมมองจากผู้ประกอบการ

ผู้ประกอบการจำนวนมากมักมีความกังวลว่าค่าใช้จ่ายตรวจสุขภาพจะทำให้บริษัทต้องเสียภาษีเพิ่ม แต่หากบริหารจัดการอย่างถูกต้อง กลับกลายเป็นผลดีทั้งต่อองค์กรและพนักงาน การนำค่าใช้จ่ายนี้มาลดหย่อนภาษีถือเป็นการบริหารต้นทุนที่ชาญฉลาด และยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้องค์กรในฐานะผู้ดูแลพนักงานอย่างใส่ใจ

บทบาทของนักบัญชีและฝ่ายบุคคล

นักบัญชีและฝ่ายบุคคลมีบทบาทสำคัญในการทำให้ค่าใช้จ่ายตรวจสุขภาพกลายเป็นประโยชน์ทางภาษีได้จริง นักบัญชีต้องจัดเตรียมเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน ทั้งใบเสร็จรับเงิน รายชื่อพนักงานที่เข้ารับการตรวจสุขภาพ และหลักฐานการจ่ายเงิน ส่วนฝ่ายบุคคลควรจัดทำนโยบายสวัสดิการที่ชัดเจน ระบุว่าบริษัทสนับสนุนการตรวจสุขภาพประจำปีให้พนักงานทุกคน เพื่อป้องกันไม่ให้กรมสรรพากรตีความว่าเป็นการจ่ายเฉพาะบุคคล

สรุป ค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพประจำปีของพนักงาน ไม่เพียงแต่ช่วยดูแลสุขภาพของบุคลากรในองค์กรเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาบริหารจัดการด้านภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากดำเนินการตามเงื่อนไขที่กฎหมายภาษีกำหนด และมีการจัดทำเอกสารหลักฐานครบถ้วน การตรวจสุขภาพจึงถือเป็นทั้งการลงทุนใน “คน” และเป็นกลยุทธ์ทางภาษีที่คุ้มค่าไปพร้อมกัน

ดังนั้นองค์กรที่เข้าใจและจัดการเรื่องนี้อย่างถูกต้อง จะได้ทั้งพนักงานที่มีสุขภาพดี และยังช่วยลดภาระภาษีได้อีกด้วย
 

อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษี เพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting