ทำไม ‘ราคาแร่เงิน’ พุ่งแรงกว่า ‘ราคาทอง’ อีก?

ราคาแร่เงินพุ่งสูงขึ้น รุนแรงกว่าทองคำ เนื่องจากอุปทานในตลาดโลกมีจำกัด และลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น โดยแร่เงินเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ยานยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
KEY
POINTS
- ราคาแร่เงินพุ่งสูงขึ้นรุนแรงกว่าทองคำ เนื่องจากอุปทานในตลาดโลกมีจำกัดและลดลงอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับความต้องการที่เพิ่มขึ้น
- แร่เงินเป็นวัตถุดิบสำคัญในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น แผงโซลาร์เซลล์ ยานยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย แร่เงินเป็นที่นิยมของนักลงทุนรายย่อยเพราะมีราคาต่อหน่วยถูกกว่าทองคำมาก ทำให้เข้าถึงได้ง่ายกว่า
- ความต้องการซื้อที่แข็งแกร่งจากประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างจีน และอินเดีย โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญในอินเดีย
ช่วงปีที่ผ่านมา ราคาทองคำ ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มสะสมสินทรัพย์ดังกล่าวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางความเสี่ยงจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และนโยบายเศรษฐกิจที่แหวกขนบของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าในขณะนี้ แร่เงิน ได้แย่งซีนทองคำไปเรียบร้อยแล้ว
ซัพพลายของแร่เงินที่มีอยู่จำกัด เป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ราคาสินแร่ดังกล่าวขยับสูงขึ้น 70% ในตลาดซื้อขายลอนดอนในปีนี้ ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นเพียง 55% นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงกลางเดือนตุลาคม จะเห็นได้ว่าสินทรัพย์ทั้งสองปรับตัวสูงขึ้นทั้งคู่ เนื่องจากความต้องการซื้อของนักลงทุนที่ต้องการป้องกันความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากปัจจัยด้านการเมือง เงินเฟ้อ และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัว
แร่เงินไม่ได้มีคุณค่าเพียงด้านความงามเหมือนทองคำ แต่ยังสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมจริง และเป็นส่วนประกอบของสินค้าในชีวิตประจำวันหลายอย่าง ด้วยซัพพลายของแร่เงินที่มีน้อยในรอบหลายปี ทำให้นักลงทุนจำนวนมากรีบเข้าซื้อเพราะกลัวตกขบวน ตรงนี้อาจนำไปสู่การขาดแคลนแร่เงิน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม
ใครต้องการซื้อแร่เงิน?
ปีนี้ โลกเผชิญกับความเสี่ยงจำนวนมาก ทั้งทางด้านการเมือง และฐานะทางการคลังของหลายประเทศ ทั้งสหรัฐ ฝรั่งเศส และญี่ปุ่น ซึ่งทั้งหมดล้วนกดดันค่าเงินของประเทศเหล่านั้นให้เสื่อมค่าลง นักลงทุนจึงพยายามป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินดอลลาร์ ยูโร และเยน โดยหันไปซื้อทองคำ และแร่เงิน ซึ่งถือเป็น “debasement trade”
แร่เงินถือเป็นตัวนำไฟฟ้าที่เยี่ยมยอด และเป็นส่วนประกอบสำคัญของแผงวงจรไฟฟ้า สวิตช์ ยานยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และแผงโซลาร์ รวมถึงเป็นสารเคลือบอุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ แร่เงินยังถือเป็นเครื่องประดับล้ำค่า และเป็นสินทรัพย์ที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนได้ ราคาของแร่เงินถูกกว่าทองคำ จึงทำให้นักลงทุนรายย่อยหลายคนนิยมซื้อ ส่งผลให้ราคาของมันมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น
จีนและอินเดียยังคงเป็นสองเจ้าที่ซื้อแร่เงินมากที่สุด เนื่องจากมีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ จำนวนประชากรมาก และบทบาทสำคัญของแร่เงินในฐานะสินทรัพย์ที่สามารถ คงมูลค่า (store of value) รัฐบาลและโรงกษาปณ์ในหลายประเทศยังใช้แร่เงินจำนวนมากเพื่อผลิตเหรียญและสินค้าต่าง ๆ อีกด้วย
อะไรทำให้ตลาดแร่เงินโดดเด่น
การที่แร่เงินถูกใช้ในหลายอุตสาหกรรมหมายความว่า ราคาของมันถูกผลักดันด้วยหลายปัจจัยเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนวงจรอุตสาหกรรม อัตราดอกเบี้ย รวมถึงนโยบายด้านพลังงานหมุนเวียน เมื่อเศรษฐกิจโลกปรับตัวดีขึ้น ความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้นก็จะผลักดันราคาแร่เงินเช่นเดียวกัน ส่วนถ้ามีแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย นักลงทุนก็จะแห่ซื้อเพราะถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือก
ขนาดตลาดของแร่เงินเล็กกว่าทองคำมาก อัตราการซื้อขายรายวันน้อยกว่า ในขณะที่ซัพพลายน้อย ทำให้สภาพคล่องลดลงเร็วมาก นั่นไม่ได้หมายความว่ามีแร่เงินน้อยกว่าทองคำในตลาดซื้อขาย แต่ในความเป็นจริงตรงกันข้าม ใน London Bullion Market Association มีแร่เงินในคลังมากกว่า 790 ล้านออนซ์ ในขณะที่ทองคำอยู่ที่ 284 ล้านออนซ์ แต่แร่เงินมีมูลค่าน้อยกว่าทองคำต่อน้ำหนัก แร่เงินที่เก็บในลอนดอนมีมูลค่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ทองคำอยู่ที่ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์
อะไรกดดันซัพพลายแร่เงินช่วงที่ผ่านมา
ข้อมูลจาก London Bullion Market Association ระบุว่า แร่เงินคงคลังในลอนดอน ซึ่งเป็นกระดูกสันหลังของการซื้อขายทั่วโลก ปรับตัวลดลงประมาณ 33% ตั้งแต่กลางปี 2021 ทำให้มีสินแร่น้อยลงสำหรับการปล่อยกู้หรือส่งมอบ ขณะที่ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นมากกว่าที่เหมืองสามารถถลุงได้ในช่วงสี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ซัพพลายของสินค้าดังกล่าวในตลาดลอนดอนน้อยลง นอกจากนี้ กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) ที่มีแร่เงินเป็นสินทรัพย์หนุนก็ทำให้เกิดการลงทุนใหม่ขึ้น ส่งผลให้ผู้ดูแลสินทรัพย์ต้องเก็บแท่งเงินดังกล่าวท่ามกลางซัพพลายที่จำกัด
ภาษีศุลกากรของสหรัฐยังยิ่งเป็นแรงกดดัน ทำให้นักลงทุนแห่เก็งกำไรในสินแร่ดังกล่าว ส่งผลให้แร่เงินคงคลังลดลงอีก ปัจจุบัน ราคาแร่เงินสปอตในลอนดอนซื้อขายสูงกว่าราคาฟิวเจอร์หลายเท่าในตลาดนิวยอร์ก
ทำไมดีมานด์แร่เงินส่วนใหญ่มาจากอินเดีย
ความต้องการซื้อแร่เงินในอินเดียสูงมาก เนื่องจาก เทศกาล Diwali ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 20 ต.ค.68 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการซื้อขายสินทรัพย์ดังกล่าวสูงที่สุดเมื่อเทียบกับช่วงอื่นๆ ของปี
ยอดนำเข้าแร่เงินปรับตัวสูงขึ้น สองเท่า จากปีที่แล้ว เพราะผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเครื่องประดับรีบเก็บสต๊อกสินค้าก่อนที่ราคาจะพุ่งสูงขึ้น
ผู้ซื้อชาวอินเดียยอมจ่ายราคาสูงกว่าปกติถึง 10% หรือมากกว่า ในดัชนีทั่วโลก เน้นย้ำให้เห็นว่า สภาวะซัพพลายตึงตัว ของสินทรัพย์ดังกล่าวมาถึงแล้ว ความต้องการซื้อในปัจจุบันดึงซัพพลายออกมาจากฝั่งตะวันตก และยิ่งกดดันซัพพลายขาดแคลนเพิ่มขึ้น
ซัพพลายแร่เงินใหม่ๆ จะมาจากที่ไหน
การผลิตแร่เงินทั่วโลกถูกจำกัดจาก คุณภาพสินแร่ที่ลดลง และการพัฒนาโปรเจกต์ใหม่ที่มีน้อยเม็กซิโก เปรู และจีน ผู้ผลิตสามรายที่ใหญ่ที่สุด ต่างเผชิญแรงกดดันจากนโยบายที่ไม่แน่นอน หรือข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมการโยกย้ายสต๊อกแร่เงินจาก นิวยอร์กไปยังลอนดอน อาจช่วยบรรเทาวิกฤติเฉพาะหน้าได้ แต่จะไม่สามารถแก้ปัญหา การขาดแคลนอุปทานเรื้อรังได้
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์







