เปิด 10 อันดับ 'กองทุนหุ้นเวียดนาม' ผลตอบแทนดาวเด่นแห่งอาเซียน

เมื่อสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน เริ่มเห็นสัญญาณลดระดับความรุนแรงจากทั้งสองฝ่ายแล้ว  นักวิเคราะห์การลงทุนต่างมองว่า ความตึงเครียดรอบนี้จะมีผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงในระยะสั้นเท่านั้น 

สะท้อนภาพจาก "ตลาดหุ้นทั่วโลก" ปรับตัวขึ้น โดยเฉพาะ "ตลาดหุ้นเวียดนาม"  ที่ดัชนีหุ้นเวียดนาม (VN30)  เริ่มสัญญาทางเทคนิค "กลับตัว" หลังก่อนหน้านี้ย่อลงมาทดสอบใกล้เคียงกับแนวรับบนเส้นค่าเฉลี่ย 100 วัน ที่ระดับ 1,192 จุด และสามารถมีแท่งกลับตัวได้ในวันจันทร์ที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมานี้ เป็นโอกาสของการเกิด "รอบขาขึ้น"  ครั้งใหม่

ทั้งนี้ จากการศึกษาเหตุการณ์ในอดีตบ่งชี้ว่า สงคราม การก่อการร้าย และความไม่สงบในรูปแบบต่าง ๆ มักจะเป็น "โอกาสเข้าลงทุน มากกว่าการตื่นกลัว" 

 

 

 

 

พร้อมกันนี้นอกจาก ปัจจัยหนุนเศรษฐกิจเวียดนามยังขยายตัวดีต่อเนื่องแล้ว ล่าสุด เวียดนามเตรียม "ยกระดับตลาดหุ้น" ดึงดูดนักลงทุน  เตรียมเปิดตัวระบบซื้อขายหุ้นใหม่  2 พ.ค.67  โดยระบบใหม่นี้จะจัดการการชำระบัญชีของธุรกรรมภายใน 1 วัน เพื่อยกระดับตลาดหุ้นเวียดนามและดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุนมากขึ้น 

หากระบบดังกล่าวประสบความสำเร็จ จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เวียดนามที่จะถูกจัดประเภทใหม่ให้เป็นตลาดเกิดใหม่ ซึ่งปัจจุบันทั้งดัชนี MSCI และ FTSE จัดประเทศเวียดนามว่าเป็นกลุ่มประเทศชายขอบ (Frontier Markets) ซึ่งทำให้กองทุนต่างๆ รวมถึง Family Office (หน่วยงานทางการเงิน ที่บริหารทรัพย์สินของตระกูลใหญ่ เพื่อส่งต่อความมั่งคั่งให้กับคนรุ่นต่อไป) จำนวนมากไม่สามารถลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเวียดนามได้  

ดังนั้น ณ 24 เม.ย. 67 ดัชนีตลาดหุ้นเวียดนาม ได้แก่ VNI และ VN30 ปรับตัวขึ้น 2.40% และ 2.56% ตามลำดับ  หนุนผลตอบแทนกองทุนหุ้นเวียดนามปรับตัวสูงขึ้น 

 

ดังนั้น เราลองมาสแกน  "กองทุนหุ้นเวียดนาม" ที่สามารถให้ผลตอบแทนดาวเด่นหลังสถานการณ์ความตึงเครียดดังกล่าวคลี่คลายลงและมีปัจจัยหนุนดัชนีหุ้นเวียดนามปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง 

ข้อมูลจาก มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย )  รายงาน กองทุนหุ้นเวียดนาม มีผลตอบแทนสูงสุด 10 อันแรก  (ณ 25 เม.ย.2567) ดังนี้  

1. กองทุนพรินซิเพิล เวียดนาม อิควิตี้ (PRINCIPAL VNEQ-X) ผลตอบแทน 18.48%

2. กองทุนเค เวียดนาม หุ้นทุน (K-VIETNAM) ผลตอบแทน 15.50% 

3. กองทุน เคเคพี เวียดนาม หุ้นเติบโต ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย (KKP VGF-UI) ผลตอบแทน 15.48%

4. กองทุน บัวหลวงหุ้นเวียดนาม (B-VIETNAM) ผลตอบแทน 13.93%

5.กองทุน แอสเซทพลัส เวียดนาม โกรท ฟันด์ (ASP-VIET) ผลตอบแทน 13.75%

6. กองทุน เคแทม เวียดนาม อิควิตี้ (ชนิดเพื่อการออม) (KT-VIETNAM RMF) ผลตอบแทน 10.95%1

7.กองทุน ทิสโก้ เวียดนาม อิควิตี้ (TVIETNAM ) 9.68% 

8.กองทุน ไทยพาณิชย์ หุ้นเวียดนาม (ชนิดเพื่อการออมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) (SCBVIET(SSFE) ) ผลตอบแทน 8.14%

9. กองทุน ดาโอ เวียดนาม โกรท (DAOL-VIETGROWTH) ผลตอบแทน 3.23% 

10. กองทุน เอ็มเอฟซี เวียดนาม ออพพอร์ทูนิตี้ (MVIET) ผลตอบแทน 3.16% 

คำแนะนำการลงทุน กองทุนหุ้นเวียดนาม   "วศิน ปริธัญ"  Managing Director บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เดฟินิท จำกัด ในเครือของ Finnomena Group แนะนำ ทยอยสะสมกองทุนหุ้นเวียดนาม  เน้นลงทุนในสินทรัพย์พื้นฐานดีมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะกลาง-ยาว (6-12 เดือนข้างหน้า) ผ่านการวิเคราะห์อย่างครอบคลุมทั้งปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยทางเทคนิค   

"มองว่า ประเด็นสงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่าน ล่าสุดเราเริ่มเห็นสัญญาณลดระดับความรุนแรงจากทั้งสองฝ่ายแล้ว จึงมองเหตุการณ์ความขัดแย้งนี้ เป็นจังหวะการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง และเข้าซื้อในภาวะที่ทุกคนตื่นกลัว “Buy the Dip”  

ทางด้านผู้จัดการกองทุน บลจ.กสิกรไทย ยังคงมีมุมมองค่อนข้างเป็นบวกต่อกองทุนหุ้นเวียดนามในขณะนี้  แนะว่า ผู้ที่มีถืออยู่แล้ว หากมีสัดส่วนกองทุนหุ้นเวียดนามในทุก บลจ. ​ยังไม่เกิน 30%ของเงินลงทุนโดยรวม แนะนำให้ถือต่อหรือทยอยสะสมเพิ่มได้ 

ส่วนผู้ที่มีเกิน 30% ของเงินลงทุนโดยรวม แนะนำทยอยขายบางส่วนให้มีสัดส่วนต่ำกว่า 30% เมื่อมีผลตอบแทนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพื่อลดความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวลง และนำเงินไปลงทุนกองทุนแนะนำอื่นๆ  เช่น กองทุนหุ้นที่มีการลงทุนในหุ้นหลากหลายประเทศ ช่วยกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนกระจุกตัวแค่บางประเทศได้ 

แต่สำหรับ ผู้ที่ยังไม่ลงทุนและต้องการลงทุนเพิ่ม สามารถทยอยลงทุนกองทุน หุ้นเวียดนามได้ หรือหากยังกังวลกับความเสี่ยงเฉพาะตัวหรือความผันผวนของตลาดหุ้นเวียดนามที่สูงกว่าประเทศอื่น แนะนำให้ทยอยลงทุนกองทุนหุ้นทั่วโลกแทนได้