วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมยังเน้นการเลือกลงทุนเป็นรายตัว

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ ภาพรวมยังเน้นการเลือกลงทุนเป็นรายตัว

เน้นลงทุนผลการดำเนินงานหลายบริษัทออกมาดี ในช่วง 1Q24 มีหลายบริษัทจดทะเบียนที่รายงานผลการดำเนินงานออกมาดี อาทิ  BLA +64.2% YoY, BSRC +3.7% YoY INTUCH +21.2% YoY, +221.1% YoY, TU +12.9% YoY, CPAXT 14.6% YoY, TACC +43% YoY

ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ได้รายงาน แต่คาดจะออกมาดี คือ CPALL ที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาล และยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี 

มองความชัดเจนของ Digital Wallet จะช่วยหนุนตลาดหุ้น ปัจจัยลบต่อตลาดหุ้นไทยเริ่มจางหาย ขณะที่ปัจจัยหนุนต่อทั้งเศรษฐกิจในประเทศ และตลาดหุ้นเริ่มชัดเจนมากขึ้น หนึ่งในนั้น คือความชัดเจนของนโยบาย Digital Wallet ททั้งการเปิดเผยแหล่งที่มาของงบประมาณที่จะใช้ในโครงการ และกำหนดวันตัดสิทธิ์สำหรับบัญชีเงินฝากเป็นที่เรียบร้อย เราคงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นอิงการใช้จ่ายในประเทศ อาทิ กลุ่มค้าปลีก กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น   

ปัจจัยติดตามทั้งต่างประเทศและในประเทศในช่วงนี้ 1) เงินเฟ้อสหรัฐฯ PPI (14 พ.ค.) และ CPI (15 พ.ค.) 2) กระทรวงการคลังอาจนำมาตรการ LTF กลับมาใช้ 3) ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่สัปดาห์นี้ คือ CPALL เราคาด CPALL น่าจะรายงานผลประกอบการค่อนข้างแข็งแกร่ง 5) กลุ่มท่องเที่ยว คาดผลประกอบการออกมาดี โดยเฉพาะ SPA, ERW ซึ่งราคาปรับฐานลงมาจนอยู่ในจุดที่น่าสนใจ 

ภาพรวมกลยุทธ์ บรรยากาศเก็งกำไรรายตัวยังเป็นบวก ขณะ SET อาจชะลอหลังเข้าใกล้กรอบบนของการแกว่ง 1,349-1,380 จุด การเก็งกำไรเน้นหุ้นที่ยังขึ้นน้อยกว่าตลาด (laggards) และควรกำหนดจุดตัดขาดทุนรวมถึงเป้าขายทำกำไร แม้ยังชอบกลุ่มอาหาร/เนื้อสัตว์/อาหารสัตว์เลี้ยง แต่อาจระวังแรงทำกำไรระยะสั้นจากเงินบาทที่มีโอกาสพลิกกลับมาแข็งค่าระยะสั้น

หุ้นแนะนำ: CPALL*, SAMART*, MEB*, TACC*

แนวรับ: 1,349-1,359 / แนวต้าน : 1,380 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 


 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ    

ตลท. หวังไฟเขียว LTF ประเมินช่วยดึงเงินเข้าตลาด ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจ หากรัฐไฟเขียว LTF จะดำเนินการได้เร็วเหมือนตอนออก TESG มั่นใจส่งผลดีต่อตลาดหุ้นไทยในระยะข้างหน้า เผยสถิติดึงเม็ดเงินใหม่ไหลเข้าปีละ 4-5 หมื่นล้านบาท (อินโฟเควสท์)

ค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ รอผลประชุม 14 พ.ค.นี้ ปลัดกระทรวงแรงงาน เผยถึงความกังวลใจของหลายฝ่ายต่อการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ 400 บาท ว่า ขั้นตอนของการปรับค่าจ้างขณะนี้อยู่ในระหว่างการสำรวจและศึกษาข้อมูล ได้สั่งการให้แรงงานจังหวัดในแต่ละพื้นที่ประชุมหารือกับผู้ประกอบการเพื่อนำข้อมูลมาพิจารณาความเหมาะสมในแต่ละจังหวัด (ผู้จัดการออนไลน์)

ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพ 74th FIFA Congress 13-17 พ.ค.นี้ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤษภาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นประวัติศาสตร์ชาติแรกในอาเซียน โดยจะมีสมาชิก FIFA กว่า 211 ประเทศทั่วโลก และนักฟุตบอลระดับตำนานมาเข้าร่วมกิจกรรม เชื่อจะเพิ่มปัจจัยบวกทางเศรษฐกิจกว่า 228 ล้านบาท (ผู้จัดการออนไลน์)

SCC ชี้อยู่ระหว่างประเมินเสียหาย บ.ย่อยที่มาบตาพุด  หลังเกิดเหตุกลุ่มควันโรงจัดเก็บสาร C9+ เร่งระดมทีมคุมสถานการณ์ พร้อมหยุดกิจกรรมต่างๆภายในโรงงาน ด้าน กนอ. เร่งหาสาเหตุอุบัติเหตุ พร้อมทั้งชี้แจง-เยียวยาหากมีผู้ได้รับผลกระทบ (อินโฟเควสท์)

GULF เผย Q1/67 มีกำไรสุทธิ 3.49 พันล้านบาท ลดลง 9.31% เหตุมีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน และตราสารอนุพันธ์ ขณะที่ผลจากการดำเนินงานยังเติบโต 13.2% (อินโฟเควสท์)

TOP รายงานกำไรสุทธิ ดีกว่าที่เราและตลาดคาด 11% และ 22% ตามลำดับ เนื่องจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงกลั่นและ แอโรมาติก อย่างไรก็ตาม การลดลงของ GRM ค่าว่าจะได้รับแรงกดดันในกำไรสุทธิ 2Q24 ถึงแม้ว่ายังมีความกังวลทางด้านความมั่นคงทางการเงินจากผู้รับเหมารายหนึ่ง 
 

 

TACC รายงานกำไรใน 1Q24 ที่ 60.9 ลบ. เพิ่มขึ้น 43.3% yoy และ 4.3% qoq ซึ่งออกมาใกล้เคียงกับที่เราคาด โดยได้แรงหนุนจากยอดขาย อัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้น และฐานที่ต่ำในปีก่อนหน้า

MGI  MGI และบ.ย่อย ไตรมาส 1/67กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 21.2 ลบ. (อินโฟเควสท์)

INTUCH “เผยผลประกอบการที่ดีกว่าตลาดคาด 7% จากส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC ที่สูงขึ้น 

หุ้นขึ้น XD  KAMART (0.11, หุ้นปันผล 6:1 หุ้น), GABLE (0.289)

ติด Cash Balance MGI เข้า cash balance ระดับ 1 ตั้งแต่ 7 พ.ค. – 24 พ.ค. 67


ประเด็นติดตาม:   14 พ.ค. US PPI (Apr) / Fed Chair Powell Speech15 พ.ค. US CPI (Apr) /Retail Sales (Apr)

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)