กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ตลาดน่าจะฟื้นได้บ้างแต่ไม่ไกล ฟันด์โฟลว์ยังอ่อนแอ

กลยุทธ์การลงทุนรายสัปดาห์ : บล.เคจีไอฯ ตลาดน่าจะฟื้นได้บ้างแต่ไม่ไกล ฟันด์โฟลว์ยังอ่อนแอ

ตลาดน่าจะ Rebound ได้บ้าง แต่ยังไม่น่าขึ้นได้มากในระยะสั้น ในสัปดาห์ที่แล้ว (17-19 เมษายน) ตลาดหุ้นไทยย่อลงมาแรงเกินกว่าที่เราคาดเอาไว้ โดยปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดได้แก่

i) ผู้บริหาร Fed หลายรายส่งสัญญาณชัดเจนว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐจะยังสูงไปอีกระยะหนึ่ง ท่ามกลางเงินเฟ้อที่ยังไม่ยอมลง และ ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ii) ความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์เร่งตัวขึ้นหลังจากมีรายงานข่าวว่าอิสราเอลตอบโต้อิหร่าน ทำให้นักลงทุนเป็นกังวลว่าความขัดแย้งทางการทหารจะขยายวงกว้างขึ้น นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งรวมถึงหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงอย่าง DELTA* ยังร่วงลงมา หลังจากที่ ASML NV ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับผลิต chip ระดับแนว
หน้าออกมาระบุว่ายอดคำสั่งซื้อใน 1H67 ยังชะลอตัวอยู่


สำหรับในสัปดาห์นี้ (22-26 เมษายน) เราคาดว่า ดัชนี SET น่าจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง เนื่องจากแรงกดดันทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ลดลง หลังจากที่อิหร่านเปิดเผยว่าจะยังไม่ดำเนินการตอบโต้เพิ่มเติมอีกในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม เรามองว่ายังคงมีอีกสองสามปัจจัยที่อาจทำให้ตลาดผันผวนได้อีก และ ตลาดเหลือ upside จำกัด โดยปัจจัยแรก คือ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของสหรัฐยังคงทรุดตัวลงอีกเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว โดย หุ้น AI ชั้นนำอย่างเช่น Nvidia ร่วงแรงถึง 10% ดังนั้น หุ้น DELTA* จึงจะยังคงถูกกดดันต่อไป ปัจจัยที่สอง คือ นักลงทุนยังคงอยู่ระหว่างการปรับความคาดหมายเกี่ยวกับจังหวะการลดดอกเบี้ยของสหรัฐ ซึ่งอาจจะ
ยังเป็นประเด็นที่กดดันสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ อย่างเช่น GDP และ PCE ออกมาสูงเกินคาด

 

 

จับตา GDP 1Q67 และ core PCE ของสหรัฐ รวมถึงกระแสข่าวเรื่องการปรับ ครม. ของไทย

ปัจจัยต่างประเทศ: เรามองว่าปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกในสัปดาห์นี้ ได้แก่ i) การประกาศตัวเลข GDP 1Q67 ของสหรัฐ (advance reading) ในวันที่ 25 เมษายน ซึ่ง consensus คาดว่าจะขยายตัว 2.5% QoQ annualized แต่แบบจำลอง GDP tracker ของ Fed ประเมินอัตราการขยายตัวเอาไว้ที่ 2.9% ii) ตัวเลขเงินเฟ้อ core PCE เดือนมีนาคม ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6% YoY จาก +2.8% YoY ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ จากกระแสข่าวล่าสุดว่าอิหร่านไม่น่าจะตอบโต้การโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐอาจจะทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐและ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐดีดตัวขึ้นได้

ปัจจัยในประเทศ: เช่นเดียวกับเมื่อสัปดาห์ก่อน นักลงทุนควรติดตามเหตุการณ์ในประเทศอย่างเช่น i) ผลประกอบการ 1Q67 และ มุมมองของนักวิเคราะห์จากการประชุมนักวิเคราะห์ของกลุ่มธนาคารไทย และ ii) ประเด็นการเมืองในส่วนที่เกี่ยวกับการปรับคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะในตำแหน่งสำคัญ ๆ อย่างเช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

ในช่วงที่ผันผวน ยังคงเน้นหุ้นธีมเดิม อย่างเช่น global cyclical, ท่องเที่ยว, รับเหมา และ หุ้น yield สูงเช่นเดียวกับในสัปดาห์ที่แล้ว เรายังคงแนะนำให้เน้นหุ้นในธีมเดิมตามกลยุทธ์การลงทุน 2Q67 อย่างเช่น i) หุ้น cyclical ที่จะได้อานิสงส์จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวได้ดี และ ตลาดน้ำมันที่ตึงตัวขึ้น (BSRC*, PTTGC* และ SPRC*) ii) หุ้นกลุ่มท่องเที่ยวซึ่งจะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจีน (AAV*, AOT* และ SHR) iii) หุ้นรับเหมาเพื่อเก็งกำไรจากความคืบหน้าของ พรบ. งบประมาณปี 2567 (CK*) และ iv) หุ้นที่จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสูง อย่างเช่น AP* และ LH*