วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ แกว่งตัวตามตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการ 

ประกอบกับเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2/67 ที่อาจเผชิญหลุมอากาศเนื่องจากการที่ยังไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ กระทบต่อผลประกอบการบจ. อย่างไรก็ตามเรามองการปรับลดลงในช่วงสองเดือนนี้จะเป็นโอกาสลงทุนที่ดี เนื่องจาก แรงส่งจากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณคาดจะเห็นในช่วงไตรมาส 3/67 ขณะที่แรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่าง Digital wallet จะมาในช่วงปลายปี อีกทั้ง เศรษฐกิจโลกปี 2568 คาดมีอัพไวด์จากทิศทางดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลกที่น่าจะอยู่ในทิศทางปรับลดลง จะเป็นปัจจัยสำคัญหนุนการฟื้นตัวของสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงต่อไป 
 

ระยะสั้นติดตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจและผลประกอบการ สัปดาห์นี้ติดตาม GDP ไตรมาส 1/67 สหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันพฤหัสบดี (คาด 2.5%) อย่างไรก็ตามในวันพุธ GDP Now ซึ่งใช้ข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆมาประกอบโมเดล จะมีคาดการณ์ครั้งสุดท้าย (ล่าสุดอยู่ที่ 2.9%) ซึ่งตัวเลขคาดการณ์รวมถึงการเติบโตที่สูง อาจทำให้ตลาดกังวลต่อระยะเวลาที่เฟดจะเริ่มลดดอกเบี้ยได้ ทั้งนี้ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี ในปัจจุบันที่ระดับ 4.6-4.7% สะท้อนการปรับลดดอกเบี้ย 1-1.5 ครั้งในปีนี้แล้ว ความผันผวนจากปัจจัยดังกล่าวต่อตลาดจะเริ่มจำกัด โดยโฟกัสสำคัญจะไปอยู่ที่การรายงานผลประกอบการของบจ.ในประเทศต่างๆ สำหรับหุ้นสหรัฐฯ หุ้นใหญ่ 7 ตัว (Magnificent 7) หุ้นใหญ่จำนวน 4 ตัว จะรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ ได้แก่ TESLA (23 เม.ย.), META (24 เม.ย.), GOOGL (25 เม.ย.), MSFT (25 เม.ย.), AMZN (30 เม.ย.), APPL (2 พ.ค.), NVDA (22 พ.ค.)
 

 

ภาพรวมกลยุทธ์ ภาพรวมยังเพิ่มความระวังต่อแรงทำกำไรและปัจจัยที่จะมาจากภายนอก โดยเฉพาะการโยกย้ายเงินไปยังตราสารหนี้ ที่จะสร้างความผันผวนในช่วง เม.ย.-พ.ค. ในมุมการเก็งกำไร การหลุด 1,360-1,380 จุด จะทำให้มี downside ในระดับ 1,320 จุด  หรือแย่สุด 1,290 จุด แต่ระดับดังกล่าวเรามองเป็นโอกาสซื้อ

หุ้นแนะนำ: BTG*, TNP*, SORKON*

แนวรับ: 1,290-1,320 / แนวต้าน : 1,349 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ    

หุ้นอินวิเดียร่วงหนัก 10% นลท.เทขายหลังวิตกผลประกอบการต่ำกว่าคาด (อินโฟเควสท์)

ส.ส.สหรัฐผ่านมาตรการ 9.5 หมื่นล้านช่วย‘ยูเครน-อิสราเอล-ไต้หวัน ขณะนี้ร่างกฎหมายดังกล่าวกำลังเดินหน้าสู่วุฒิสภา โดยวุฒิสภาจะเริ่มพิจารณาชุดมาตรการล่าสุดในวันอังคาร (23 เม.ย.) ลงมติเบื้องต้นในบ่ายวันเดียวกัน ส่วนการลงมติครั้งสุดท้ายน่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้าก่อนส่งให้ ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ลงนามเป็นกฎหมาย (กรุงเทพธุรกิจ)

กบน. ขึ้นราคาดีเซล 50 สตางค์ พร้อมห่วงสถานการณ์สงครามระหว่างอิสราเอลกับอิหร่านที่ทำให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งขึ้นทันทีหลังมีการโจมตีเกิดขึ้น (กรุงเทพธุรกิจ)

ดัน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” จับตาย้าย “ท่าเรือคลองเตย”- ก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ได้รับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมาย เร่งหาข้อสรุป ชง ครม. ใน 30 วัน (ประชาชาติ)  

SCGP อ่วม! สหรัฐสั่งปรับกว่า 700 ล้าน ฐานละเมิดมาตรการคว่ำบาตร “อิหร่าน” รัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้สั่งปรับเงิน บริษัท เอสซีจี พลาสติกส์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทปิโตรเคมีภัณฑ์ชั้นนำในไทย จำนวน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 736 ล้าน ฐานละเมิดมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐมากกว่า 450 ครั้ง (ข่าวหุ้น)

 

SCC แจงปม"เอสซีจี พลาสติกส์" ถูกสหรัฐสั่งปรับ 736 ล้าน ไม่กระทบธุรกิจ สำรองแล้ว (ฐานเศรษฐกิจ)

KBANK ผลประกอบการสูงกว่าที่เราและตลาดคาด 28% และ 19% ตามลำดับ

KKP: ผลประกอบการดีกว่าคาด ตั้งสำรองลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ qoq

KTB ผลประกอบการดีกว่าคาด คุณภาพทรัพย์สินดีขึ้น ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ”

SCB ผลประกอบการ เป็นไปตามที่ตลาดคาด

TTB ผลประกอบการดีขึ้นจาก สิทธิประโยชน์ทางภาษี

APO,SABUY-W2 เข้าเกณฑ์ Cash Balance ถึง 10 พ.ค.67  (อินโฟเควสท์) 

วันนี้ KBANK ปันผล 6.00 บาท NER (0.29) พรุ่งนี้ BBL ปันผล 5.00 บาท 

 

ประเด็นติดตาม: 25 เม.ย. US GDP(Q1)/  26 เม.ย. US Core PCE (Mar), BOJ Meeting 

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)