วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กังวลสงคราม

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กังวลสงคราม

ตลาดหุ้นวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ดัชนีอ่อนตัวลงตามตลาดในภูมิภาค หลังอัตราเงินเฟ้อสหรัฐปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่ตลาดคาดทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดจะชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไป ประกอบกับคาดเป็นแรงขายทำกำไรบางส่วนก่อนเข้าสู่วันหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์

ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,396.38 จุด -11.79 จุด -0.84% มูลค่าการซื้อขาย 42,952 ลบ. Program Trading -2,209.41 ลบ. ต่างชาติ -1,186.30 ลบ. TFEX -42,326 สัญญา ตราสารหนี้ -7,666.19 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 63.86 จุด หรือ +0.17% ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ต่างก็ปิดในแดนลบ หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้
+ IMF ปรับเพิ่มประมาณการ GDP โลกในปี 2567 เป็น 3.2% เพิ่มจากระดับ 3.1% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค. ตามรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) ฉบับล่าสุด
+ นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐหารือทางโทรศัพท์กับ รัฐมนตรีกลาโหมของจีน เพื่อส่งเสริมการสื่อสารระหว่างกันและป้องกันไม่ให้การแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ลุกลามกลายเป็นความขัดแย้ง
+ ททท. ประกาศความสำเร็จภาพรวมการจัดงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ตลอดระยะเวลาการจัดงาน 5 วัน มีผู้เข้าร่วมงานถึง 784,883 คน และสร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 2,886.82 ล้านบาท

ปัจจัยลบ

- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 5 เซนต์ หรือ -0.06% ปิดที่ 85.36 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าการที่ FED ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์น้ำมัน
- ประธาน FED ส่งสัญญาณตรึงดอกเบี้ยนานกว่าคาดหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าคาดการณ์
- สหรัฐรายงานตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 14.7%MoM สู่ระดับ 1.321 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.487 ล้านยูนิต ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2563
 

- การส่งออกของจีนไปยังรัสเซียร่วงลงในเดือนมี.ค. โดยลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่กลางปี 2565 ท่ามกลางการขู่ของสหรัฐที่จะตอบโต้จีนหากส่งออกสินค้าเพื่อช่วยเหลือรัสเซียในการโจมตียูเครน
- คณะรัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลเลื่อนการประชุมครั้งที่สามไปเป็นวันพุธ (17 เม.ย.) จากเดิมวันอังคาร เพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับการตอบโต้ต่อการโจมตีโดยตรงครั้งแรกของอิหร่าน ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติให้หลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งในตะวันออกกลางเพิ่มเติม

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสปรับตัวลง โดยมีแรงกดดันจากประธานเฟด ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประกอบกับความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์หลังจากสถานการณ์สงครามอิหร่านโจมตีอิสราเอล มองกรอบดัชนีในวันนี้ที่ 1,380-1,400จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• ฟรีวีซ่าไทย-จีน : AOT AAV MINT CENTEL ERW SPA SKY
• หุ้นได้ประโยชน์จากอากาศร้อนจัด : TACC SAPPE ICHI PLUS COCOCO MALEE TIPCO KOOL
• สินค้าส่งออกเดือน ก.พ. ที่เติบโตดี : NER STA TU ITC AAI HANA KCE
• หุ้นเด่น IAA : AOT CK CPALL MINT
• มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ : SIRI SC ORI LH QH AP

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

THCOM (Bloomberg Consensus 17.00 บาท) 
บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาหาลูกค้าใหม่

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก กังวลสงคราม

•บริษัทมีรายได้จากการขายและการให้บริการ 4Q66 เท่ากับ 632 ล้านบาท ทรงตัว QoQ แต่ลดลง -14%YoYเป็นผลจากการลดลงของรายได้ของธุรกิจการให้บริการดาวเทียมและบริการที่เกี่ยวเนื่องสุทธิกับการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจอินเทอร์เน็ตและสื่อ ผลประกอบการงวด 4Q66 ขาดทุนสุทธิ -306 ล้านบาท มีสาเหตุหลักจากการบันทึกขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและรายการกลับบัญชี โดยหากไม่รวมรายการ 2 ดังกล่าวจะมีกำไรปกติที่ 5 ล้านบาท ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาด ทั้งนี้บริษัทมีกำไรสุทธิทั้งปี 66 ที่ 354 ล้านบาท +738%YoY

ความเห็น : บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโต 10-20% โดยบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้าอินเดีย เพื่อขายเหมา capacity ของดาวเทียมไทยคม 8 ซึ่งคาดว่าจะชัดเจนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 67 ขณะที่ความคืบหน้าในการหาลูกค้าสำหรับดาวเทียมดวงใหม่ อยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มลูกค้ารัฐในอินเดียเพิ่มเติม คาดมีความชัดเจนขึ้นในปีนี้ ราคาหุ้นยังมี Upside จากราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus แนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) WHA (Bloomberg consensus 5.70 บาท) แย้มยอดขาย-โอน ไตรมาส 1/2567 พุ่ง อานิสงส์ย้ายฐานผลิตมาไทย "รถอีวี-โรงงานแบตเตอรี-เซมิคอนดักเตอร์-คอนซูเมอร์" ทุ่มงบ 5 พันล้านบาท ลุยธุรกิจกรีนโลจิสติกส์ ปล่อยเช่ารถขนส่งอีวี ติดตั้งหัวชาร์จ ตั้งเป้ารายได้ 1 พันล้านบาท มั่นใจมีกำไรตั้งแต่ปีแรก (ที่มา ทันหุ้น)

(+) OR (Bloomberg consensus 20.20 บาท) ประกาศเดินหน้าจัดตั้ง บริษัท โออาร์ เฮลท์ แอนด์ เวลเนส จำกัด หรือ ORHW พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามอย่างเต็มตัว ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นผู้นำธุรกิจค้าปลีก ไลฟ์สไตล์ เพื่อตอบรับกระแสการดูแลสุขภาพและความงาม โดยมีแผนจะเปิดสาขาแรกกลางปี 2567 (ที่มา ทันหุ้น)

(+) TGE (Bloomberg consensus - บาท) ชูปีนี้เติบโตนิวไฮต่อ เป้ารายได้เพิ่ม 10-15% ได้โรงไฟฟ้าไบโอแก๊สต่อยอดอีก 7 เมกะวัตต์ จากกำลังผลิตไฟฟ้าชีวมวลเดิม 27 เมกะวัตต์ เดินหน้าก่อสร้าง 4 โรงไฟฟ้าขยะชุมชน ขายไฟอีก 22 เมกะวัตต์ เริ่มจ่ายไฟปลายปี 2568 ก่อนรับรู้เต็มปี 2569 มั่นใจรายได้กระโดดแตะ 2.5 พันล้านบาท เดินหน้าหาโรงไฟฟ้าโซลาร์ลอยน้ำเข้าพอร์ตอีก 100 เมกะวัตต์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) DEXON (Bloomberg consensus - บาท) รับสนชิงงานใหญ่ตรวจสอบวิศวกรรมขั้นพื้นฐานในแหล่งบงกช-เอราวัณ ของ PTTEP ชี้ใช้คุณภาพสู้ ขณะที่ดีลผนึกยักษ์ใหญ่สหรัฐคืบหน้า จับตาข่าวดี ชี้ผลงานปีนี้กลับมาโดดเด่น หลังการลงทุนสหรัฐ-ยุโรปผลิดอก เตรียมให้บริการโรงกลั่นเจ้าใหญ่ในไทยเดินเครื่องโครงการใหม่ มั่นใจปีนี้ผลงานโดดเด่น (ที่มา ทันหุ้น)