วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จับตา กระแสเงินทุนต่างชาติ

ซึ่งสอดคล้องกับสถิติย้อนหลังของตลาดหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2023 เป็นต้นมา ที่พบว่า SET Index ที่เกิดจุดต่ำสุดใหม่ 5 ครั้งก่อนหน้า จะเกิด Short-term Rally หลังทำ New Low รอบใหม่ ก่อนปรับขึ้นเฉลี่ย +5.8% จากระดับต่ำสุด (เป้าหมาย 1,430 จุด) และใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ มิฉะนั้น ดัชนีฯ มีโอกาสอ่อนตัวลงมาที่แนวรับเดิม 1,357/1,352 จุด อีกครั้ง

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

Weekly Strategy >>มุมมองต่อ SET Index: ดัชนี SET แม้อาจจะยังมีความเสี่ยงจากกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกในภาพระยะกลาง หาก เงินดอลลาร์สหรัฐฯ พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น ซึ่งมีปัจจัยหนุนจากอัตราเงินเฟ้อที่อัตราเร่งสูงขึ้น จนกดดันให้เฟดอาจปรับ DOTPLOT ขึ้นจากประมาณการครั้งก่อน แต่ด้วยปัจจัยบวก จากการคลายความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวของไทย จากแนวโน้มการเร่งรัดเบิกจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลที่มีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้เรามองว่านักลงทุนไม่จำเป็นต้องเรียกรับส่วนชดเชยความเสี่ยงสูงกว่าปกติถึง 2 S.D. ดังเช่นช่วงที่ผ่านมา เราจึงแนะนำให้ปรับกลยุทธ์ลงทุนโดยการลดระดับ MRP ลง (Figure 1) ดังนี้

“ซื้อ” เมื่อ SET อยู่ในกรอบ 1,337-1,380 จุด อิง MRP 4.61%- 4.38% (+2 S.D., +1 S.D.)

“เก็งกำไร” เมื่อ SET อยู่ในกรอบ 1,380-1,426 จุด อิง MRP 4.38%-4.16% (+1 S.D., ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 90 วัน)

“ขาย” เมื่อ SET สูงกว่า 1,426 จุด อิง MRP ต่ำกว่า 4.16% (ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 90 วัน)

 

 

 

 

 

กลยุทธ์การลงทุนสัปดาห์นี้:

SET ปัจจุบัน อยู่ในกรอบ “ซื้อ” ที่ 1,337-1,380 จุด (MRP 4.61%-4.38%) แนะนำ เพิ่มน้ำหนักซื้อในหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจาก 1. การปรับเพิ่มขึ้นของราคายาง (NER) 2. เก็งกำไรในช่วงขึ้นเครื่องหมายปันผล (SIRI) 3. ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการเข้าสู่ช่วง High season (SAPPE)

- China: วันสุดท้ายของการประชุมสภาประชาชนจีน (NPC) อาจมีโมเมนตัมบวกต่อตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นเอเชีย หากมีการส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในบทสรุปหลังประชุม

- ตะวันออกกลาง: เทศกาล Ramadan สาหรับคนมุสลิม เริ่มวันที่ 10 มี.ค.-8 เม.ย. (อาจมีการเจรจายุติหยุดยิงชั่วคราวระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส และนักท่องเที่ยวชาวตะวันออกกลางลดลงช่วงการถือศีล)

- ไทย/ฟิลิปปินส์: รมว.การค้าสหรัฐฯ Gina Raimondo เยือนฟิลิปปินส์และไทย (จนถึงวันที่ 14 มี.ค.)

- Saudi: Earnings Results งวด 4Q23 และปี 2023 ของ Saudi Aramco

- Opportunity Day: TAN PACO ZEN PTL TOA STC RCL PROUD TIDLOR CPN SKN CMO CPNREIT

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ/รายงานผลประกอบการบจ. มีต่อเนื่อง

- US: รายงาน Consumer Inflation Expectation เดือน ก.พ. โดย Consensus คาดแนวโน้มเงินเฟ้อจะปรับลดลงต่อเนื่องจากระดับ 3% YoY ในเดือน ม.ค. (เดือน ก.พ. คาด 3% YoY) ลงมาที่ 2.8% YoY และ 2.3% YoY ณ สิ้น 2Q24 และ 3Q24 ก่อนที่จะปรับขึ้นไปเหนือระดับ 3% YoY อีกครั้งในช่วงสิ้นปี 2024 เราคาดว่ามุมมองเงินเฟ้อสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงช้า ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เฟดมีแนวโน้มชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ (Dot Plot ล่าสุด คาดปรับลดดอกเบี้ย 3 ครั้ง Vs CME FedWatch Tool คาดลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง)

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ หุ้นที่มีประเด็นข่าวเชิงบวก ได้แก่ NER SIRI SAPPE

 

 

Strategic daily picks

NER     ปิด 5.85 บาท/แนวรับ 5.45 บาท แนวต้าน 6.15 บาท

บริษัทคาดปริมาณการขายปี 2024E ทรงตัว YoY และคาดจะเติบโตในช่วงปี 2025-26E จากการผลิตเชิงพาณิชย์ของโรงงาน STR#3 ใน 2Q25E ที่มีขนาดกำลังการผลิต STR-mixtures 302,400 ตัน/ปี โดยกำลังผลิตส่วนเพิ่มเฟสแรกราว 170,000 ตัน/ปี คาดจะใช้อัตรากำลังการผลิตเต็มที่ในปี 2026E และจะเริ่มเฟสสองในระยะถัดไป ทั้งนี้ KTX ประเมิน 12M FV ที่ 6.52 บาท บน required return ที่ 17.5% และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “Outperform” (จากเดิม Neutral)

SIRI    ปิด 1.82 บาท/แนวรับ 1.75 บาท แนวต้าน 1.93 บาท

SIRI ปิดปี 2023 ด้วยกำไรสุทธิ และกำไรจากธุรกิจปกติ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6.1 พันล้านบาท (+41.6% YoY) และ 5.1 พันล้านบาท (25.0%) ตามลำดับ อัตรากำไรสุทธิจากธุรกิจปกติปรับดีขึ้น 169bps เป็น 13.8% จากการเติบโตของรายได้ (+10.0% YoY เป็น 3.70 หมื่นล้านบาท) และการควบคุมค่าใช้จ่ายขายและบริหาร (เหลือ 18.2% ของรายได้) ชดเชยการชะลอตัวของ GPM (-96bps เป็น 32.0%) SIRI ประกาศจ่ายปันผลงวดสุดท้ายอีก 0.10 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 5.4% (XD 15 มี.ค. 2024) ทั้งนี้ KTX แนะนำ “Outperform” และ 12M FV ที่ 2.08 บาท

SAPPE    ปิด 92.00 บาท/แนวรับ 89.00 บาท แนวต้าน 100.00 บาท

บริษัทจ่ายเงินปันผล 2.18 บาท/หุ้น (XD=24 เม.ย. 2024) ขณะที่ KTX คงประมาณการกำไรปกติ 1.3 พันล้านบาท ในปี 2024E (+22% YoY) และ 1.5 พันล้านบาท ในปี 2025E (+20% YoY) จากคาดยอดขายเพิ่ม 18%/20% เป็น 7.2/8.6 พันล้านบาท ในปี 2024-25E (บริษัทตั้งเป้ายอดขายโต 20-25% ต่อปี) และอัตรากำไรขั้นต้น 44.2% ทั้งนี้ KTX แนะนำ “Outperform” และ 12M FV ที่ 93.32 บาท