วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ หุ้นที่ปรับลดลงมากมีโอกาสเป็นเป้าหมายของการซื้อคืน

และคาดว่าจะส่งผลบวกต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปี 2567 อย่างไรก็ตามยังไม่แน่ว่ามาตรการดังกล่าวจะได้ผลดีมากเพียงไหน เพราะหากมองผลลัพธ์ของการปรับลด RRR ในปี 2558 จะเห็นว่าหุ้นจีนฟื้นตัวขึ้นเพียง 2 เดือน ในช่วง ก.ค.-ส.ค.58 ก่อนปรับลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ อย่างไรก็ตามเรามองการออกมาตรการกระตุ้นเศรษบกิจของจีนจะช่วยยับยั้งการปรับลดลงของตลาดในระยะสั้น และทำให้เกิดจิตวิทยาเชิงบวกของตลาดหุ้นอื่นๆ หรือกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีผลประกอบการอิงกับการฟื้นตัวของจีน

ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่าสมาชิกสภาพ ส.ส.ของพิธาไม่สิ้นสุด เนื่องจาก ณ วันที่สมัครส.ส. ITV ไม่ได้ประกอบกิจการเกี่ยวกับสื่อ เรามองสาเหตุที่ตลาดตอบรับเชิงบวกต่อผลการพิจารณา เนื่องจากผลการวินิจฉัย ทำให้ภาพของการเมืองเข้าสู่ภาวะการแข่งขันปกติมากกว่านิติสงคราม ซึ่งแตกต่างไปจากการเมืองภายใต้รัฐบาลคสช. ทั้งนี้คดีสำคัญที่อาจส่งผลต่อบรรยากาศลงทุนอยู่ที่การพิจารณาการเสนอนโยบายยกเลิก ม.112 ของพรรคก้าวไกลถือเป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่? ที่จะมีการวินิจฉัยในวันที่ 31 ม.ค.67 นี้
 

 

 

หุ้นที่ปรับลดลงมากมีโอกาสเป็นเป้าหมายของการซื้อคืน (short recovery) ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลงระหว่าง 4 ม.ค.-23 ม.ค. ราว 5.44% จากการที่นักลงทุนตอบรับต่อแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/66 ที่อาจจะไม่สดใสทั้งกลุ่มพลังงาน (ราคาน้ำมันดิบลดลง ขณะที่โรงไฟฟ้าเป็นช่วง Low season), กลุ่มค้าปลีก (เกิดการชะลอการซื้อ เพื่อมาใช้สิทธิ์ E-receipt ในช่วงต้นปี) และ กลุ่มธนาคาร (การตั้งสำรองที่สูงขึ้นจากปัญหาหุ้นกู้) ทำให้มีแรงขายทำกำไรหุ้นขนาดใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามจากสัญญาณกลับตัวระยะสั้นของตลาดวานนี้ เราประเมินมีโอกาสที่หุ้นที่ปรับลดลงเยอะเพราะความกังวลหรือการขายชอร์ต มีโอกาสเป็นเป้าหมายของการซื้อคืน (Short recovery target) โดยหุ้นใน SET50 ที่ปรับลดลงเยอะ ได้แก่ EA (-20.54%), COM7 (-19.22%), IVL (17.14%), SCGP (-15.65%), KCE (-14.22%), CRC (-13.29%), CBG (-12.50%), TLI (-12.44%), HMPRO (-12.40%), PTTGC (-12.26%)   

ภาพรวมกลยุทธ์  SET ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่แต่เกิดสัญญาณฟื้นตัวที่มีลุ้นเป็นการกลับตัวระยะสั้น หากย่อไม่หลุด 1,369 แนวโน้มจะมีโอกาสคงภาพการฟื้นตัว การเก็งกำไรเน้นหุ้นเสี่ยงซื้อที่แนวรับ หรือในหุ้นที่มั่นใจการฟื้นตัวของผลประกอบการ และอาจเลือกกลุ่มที่ปรับลดลงมาเยอะนับจากต้นปี (YTD)

หุ้นแนะนำ: EA*, SCGP*, TLI*, SJWD*

แนวรับ: 1,354-1,369 / แนวต้าน : 1,389-1,400 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%

 

 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

รัฐบาล ย้ำเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ตตามนโยบายที่แถลงต่อสภา หวังฟื้นกำลังซื้อแก้วิกฤติเศรษฐกิจ(อินโฟเควสท์)

นายโดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะเหนือนางนิกกี เฮลีย์ อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา ในการหยั่งเสียงขั้นต้นในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ เพื่อเป็นตัวแทนของพรรครีพับลิกันลงชิงชัยเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 5 พ.ย (อินโฟเควสท์)

เครื่องบินกองทัพรัสเซียตก นักโทษยูเครน 65 รายอยู่บนเครื่องบิน ก่อนการแลกเปลี่ยนนักโทษและชาวรัสเซียอีก 9 คน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีรายงานชะตากรรม (อินโฟเควสท์)

ASML US ทำรายได้ปี 66 พุ่ง 30% แต่ส่งสัญญาณชะลอตัวในปี 67

SABINA ปักหมุดปี 67 รายได้โต 10% ทำนิวไฮอีกครั้ง มั่นใจปังทุกช่องทางขาย (อินโฟเควสท์)

ADVICE ปิดจอง IPO ครบถ้วน 170 ล้านหุ้นพร้อมเทรดกระดาน SET 31 ม.ค.(อินโฟเควสท์)

IIG - จับมือพันธมิตรเวียดนามตั้งบริษัทร่วมทุนลุยธุรกิจ IT Outsourcing

จับตา US GDP 4/66 และ EU Interest rate Decision คืนนี้

 

ประเด็นติดตาม: 25 ม.ค. – TH Balance of Trade (Dec)/Exports(Dec)/ Imports(Dec)/TH New Car Sales(Dec)/ EU Interest Rate Decision / US GDP Growth Rate Adv(Q4) / US Initial Jobless Claims / 26 ม.ค.  - US PCE(Dec) / Personal Income(Dec)

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)