วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เริ่มฟื้นตัว อาจมีแรงทำกำไรสลับ

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.ยูโอบี เคย์ เฮียนฯ เริ่มฟื้นตัว อาจมีแรงทำกำไรสลับ

ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับลงต่อเนื่องสนับสนุนมุมมองตลาดฟื้นเพราะเงินเฟ้อชะลอต่อเนื่องของเรา ผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปี สหรัฐฯ ช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมาปรับลดลงจาก 4.51% เหลือ 4.32% หลังตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาอยู่ในทิศทางทยอยลดความร้อนแรง

ขณะที่ยอดการใช้จ่ายช่วง Black Friday ยังออกมาดี ส่งสัญญาณเศรษฐกิจยังเดินหน้าได้โดยไม่ต้องกังวลการถดถอย ขณะที่ความเห็นของกรรมการเฟดที่มีแนวคิดสนับสนุนนโยบายการเงินตึงตัว (Hawkish) มากที่สุดสองท่าน อย่าง Christopher J. Waller หนึ่งใน มองระดับดอกเบี้ยของเฟดปัจจุบันเพียงพอแล้ว และ Michelle Bowman ที่ไม่สนับสนุนการขึ้นดอกเบี้ยต่อในการประชุมรอบหน้า ทำให้นักลงทุนมองเห็นความเป็นไปได้ที่เฟด อาจจะเริ่มลดดอกเบี้ยลงเร็วกว่าที่ตลาดเคยคาดการณ์กันที่กลางปี 2567 

แรงส่งจากการกระตุ้นทางเศรษฐกิจหนุนตลาด วานนี้ ครม.อนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายประการ ได้แก่ 1) มาตรการช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท 2) แผนปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการบรรจุใหม่ และผลักดันเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรีที่ 18,000 บาท 3) ประกาศแก้หนี้นอกระบบ เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งน่าจะต้องมีกลไกแปลงหนี้นอกระบบเป็นในระบบ “อาจจะ” เป็นปัจจัยบวกกับกลุ่มการเงิน ซึ่งในระยะสั้น น่าจะได้แรงหนุนจากประชุมกนง.วันนี้ ที่น่าจะคงดอกเบี้ยนโยบาย และนโยบายแก้หนี้ในระบบที่รัฐบาลจะแถลง 12 ธ.ค. ขณะที่มาตรการ E-refund (คล้ายช้อปดีมีคืน) คาดจะมีการเสนอในการประชุมรอบหน้า
 

ปัจจัยในประเทศ โดยฉพาะ TESG หนุนการเกิด Santa Clause Rally มองตลาดน่าจะเริ่มฟื้น ประเด็นที่ต้องติดตาม 1) ประชุมโอเปคและพันธมิตร 2) ประชุม กนง. (29 พ.ย.) คาดคงดอกเบี้ย แต่คนน่าจะโฟกัสมุมมองตัวเลขเศรษฐกิจ ที่น่าจะ contrast กับสภาพัฒน์ (NESDC) 3) คาดกองทุน TESG เริ่มขาย 1 ธ.ค. หนุน Santa clause rally ช่วงปลายปี 4) แถลงแก้หนี้ในระบบ 12 ธ.ค. 5) ประชุมเฟด 13 ธ.ค. 

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัว 1,390-1,430 และน่าจะใกล้จุดฟื้น คาดบรรยากาศเก็งกำไรรายตัวโดยเฉพาะหุ้นกลาง-เล็ก ยังเป็นบวก และคงประเมินภาพใหญ่ของตลาดช่วงปลายปีต่อต้นปีฟื้น จากเงินเฟ้อชะลอ กดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง บวกต่อการฟื้นตัวของหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยง

หุ้นแนะนำ: SCGP, BTG*, EA*, AAI*

แนวรับ: 1,390 / แนวต้าน : 1,425-1,435 จุด 

สัดส่วนลงทุน: เงินสด 40% vs พอร์ตหุ้น 60%
 

ประเด็นการลงทุนที่น่าสนใจ

ชาร์ลี มังเกอร์ มือขวา วอร์เรน บัฟเฟตต์ เสียชีวิตในวัย 99 ปี  คืนนี้รายงาน GDP Q3 ของสหรัฐ แบบจำลอง “GDPNow” ชี้เศรษฐกิจสหรัฐ Q4 ขยายตัว 2% - เฟดเปิดแบบจำลอง GDPNow ชี้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/66 ขยายตัว 2% คาดไตรมาส 3/66 GDP จะโตที่ 4.9% (อินโฟเควสท์)

S&P คงอันดับความน่าเชื่อถือไทยที่ “BBB+” ระดับมีเสถียรภาพ – บริษัท S&P Global Ratings (S&P) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทยที่ระดับมีเสถียรภาพ (ฐานเศรษฐกิจ)

รัฐบาลประกาศ "แก้หนี้นอกระบบ" เป็นวาระชาติ ดึงเจ้าหนี้-ลูกหนี้ทำสัญญา – นายกฯ ประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาติ ดึงเจ้าหนี้-ลูกหนี้ทำสัญญาถูกกฎหมาย "ปลัดคลัง" ดึง ออมสิน-ธกส. ปล่อยสินเชื่อพิเศษ (ฐานเศรษฐกิจ)

ประกาศขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ปวช.-ป.ตรี ปรับฐาน 1.1-1.8 หมื่น -  ที่ประชุมครม.เห็นชอบการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามที่ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เสนอ มีเป้าหมายการปรับฐานเงินเดือนใหม่ และรายได้ต่าง ๆ ให้กับผู้ที่จบปริญญาตรี และระดับปวช. ที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่ (ฐานเศรษฐกิจ)

ประชุมบอร์ด กสทช. ‘ล่ม’ เลื่อนพิจารณาเลือกเลขาฯ คนใหม่ - ประธาน กสทช. สั่งงดประชุมภายหลังจากมีการนัดประชุมกรรมการ กสทช.ครั้งที่ 24/2566 เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ  (กรุงเทพธุรกิจ) 

 

ประเด็นติดตาม: 29 พ.ย. - US GDP (QoQ) / 30 พ.ย. - US Core PCE, US Pending Home Sales, EU CPI / 1 ธ.ค. -US ISM Manufacturing PMI, ISM Manufacturing Services

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)