วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง ลุ้นข่าวดีจากผลประชุมครม.

แต่เริ่มมีสัญญาณลุ้นรีบาวนด์ หลังจากวานนี้ฟอร์มตัวเป็นรูปแบบ Doji และหากดัชนีฯ ปิดเขียววันนี้)

 

ประเด็น Event สำคัญ วันนี้

+ผลประชุมครม.: ไฮไลท์สำคัญอยู่ที่ 1. การพิจารณาปัญหาหนี้นอกระบบ (ส่วนหนี้ในระบบจะมีการพิจารณาในวันที่ 12 ธ.ค.) โดยให้นายอำเภอแต่ละท้องที่ และผู้กำกับการแต่ละโรงพัก (สภอ.) ของสำนักงานตารวจแห่งชาติ เป็นผู้ประสานงานในการแก้ไขปัญหาหนี้ที่มีการเก็บดอกเบี้ยที่สูงกว่ากฎหมายกำหนด โดยจะเรียกให้ลูกหนี้ทั้งหมดมาแสดงตนขึ้นทะเบียน เพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่งหากประสบความสำเร็จคาดว่าจะช่วยเพิ่มภาระหนี้สิน และเพิ่มกำลังซื้อของการบริโภคในประเทศได้ดีขึ้น 2. การอนุมัติมาตรการ E-Refund ลดหย่อนภาษีสูงสุดไม่เกิน 5 หมื่นบาท ในการซื้อสินค้าจากร้านค้าที่อยู่ในระบบภาษี เฉพาะที่ออกใบกำกับภาษีในรูปแบบ E-Electronics ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ. 2024 (รวม46 วัน) โดยจะมีการเพิ่มรายการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว “ตั๋วเครื่องบิน-ค่าโรงแรม-ค่าไกด์-ค่ารถนำเที่ยว” ได้สิทธิด้วย สำหรับมาตรการปีนี้นายกรัฐมนตรีระบุว่าเป็นการให้กลุ่มผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเลต หรือเป็นผู้ที่มีรายได้เกิน 70,000 บาท หรือมีเงินฝากเกิน 500,000 บาท 3. มาตรการอื่น ๆ เช่น การแจกโฉนด การช่วยเหลือเกษตรกร ฯลฯ รวมถึงการพิจารณาเรื่องปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ โดยกระทรวงแรงงาน

 

-ไทย: ดุลการค้าเดือน ต.ค. พลิกกลับมาขาดดุลครั้งแรกรอบ 3 เดือน -USD832mn (ลดลงมาก เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย. เกินดุล +USD2.1bn. และต่ำกว่าคาดการณ์ของ Consensus ที่ +USD0.53bn.) ส่งผล 10M23 ขาดดุลการค้า -USD6.66bn. ส่งออก -2.7% YoY เป็น USD236,648mn นำเข้า -4.6% YoY เป็น USD243,313mn ทั้งนี้ การส่งออก 4Q23E มีแนวโน้มขยายตัวเป็นบวก ตามการทยอยฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าที่ต่างออกมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และอุปสรรคด้านห่วงโซ่อุปทานคลี่คลายลงจากปีก่อนหน้าที่ต้องเผชิญกับ COVID-19 ทั้งปี 2023E ธปท. คาดส่งออกเติบโต -1.7% YoY นำเข้า -0.1% YoY ขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดคาดเกินดุล USD5bn. (ดีขึ้นมากจาก -USD14.7bn.ในปี 2022) เป็นผลจากภาคบริการที่ดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 11.2 ล้านคน เป็น 28-28.5 ล้านคน

+/-Opportunity Day: จับตาสัญญาณ Earnings Guidance ของบจ. VL KLINIQ KISS BEM SHR MTW PTG ZIGA CNT TOA JKN K GFC CRC IND/Digital Online SCGP SCCC NRF SPRC TTA WHA คาดส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นรายตัวหากมีสัญญาณ Negative/Positive Guidance

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญวันนี้

+/-US: รายงาน CB Consumer Confidence เดือน พ.ย. Consensus คาดลดลงเป็น 101 (Vs เดือน ต.ค. 102.6) และตัวเลขราคาบ้าน S&P/Case-Shiller Home Price เดือน ก.ย. คาดเติบโตลดลงเล็กน้อยเป็น +0.3% MoM, +2.5% YoY (จาก +0.4% MoM, +2.2% YoY)

กลยุทธ์ลงทุน แนะนำ ICHI SABINA RBF คาดผลกำไรเติบโตดีต่อเนื่อง

 

 

Strategic daily picks

ICHI    ปิด 14.40 บาท/แนวรับ 13.80 บาท แนวต้าน 15.20 บาท

9M23 ทำรายได้ 5.94 พันล้านบาท +26% และกำไรสุทธิ 805 ล้านบาท +80% พร้อมกันนี้บริษัทปรับเป้ารายได้ใหม่ที่ 7.8 พันล้านบาท (+23% YoY) สู่ระดับ 1 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี (ปี 2025) ขณะที่กำไรปีนี้จะได้รับแรงสนับสนุนจากยอดขายที่เติบโต การบริหาร Product Mix ที่ดี และการบริหารต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 1.05 พันล้านบาท (+ 63.49% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 19.14 บาท

 

SABINA    ปิด 26.75 บาท/แนวรับ 25.00 บาท แนวต้าน 27.75 บาท

ปี 2023 คาดกำไรเติบโตสูงกว่า 10% ส่วน 9M23 มีรายได้จากการขาย 2.58 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 348.95 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทในปี2024 เพราะบริษัทได้สั่งซื้อเครื่องจักรระบบใหม่เข้ามาเพิ่มเติม ช่วยให้ลดต้นทุนแรงงานคนได้ เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้มากขึ้น สามารถประหยัดต่อขนาด ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับดีขึ้นเช่นเดียวกัน Bloomberg Consensus ประมาณการกำไรสุทธิปี 2023 ที่ 467 ล้านบาท (+ 11.94% YoY) และมูลค่าเหมาะสมที่ 30.92 บาท

 

RBF     ปิด 13.10 บาท/แนวรับ 12.50 บาท แนวต้าน 14.10 บาท

KTX ปรับประมาณการกำไรปกติปี 2023-25E เพิ่มจากเดิม 6-12% เป็น 678/802/946 ล้านบาท ตามลำดับ เพื่อสะท้อนอัตรากำไรที่ดีกว่าคาด 190bps ใน 3Q23 นอกจากนี้ แนวโน้มอัตรากำไรที่คาดจะแข็งแกร่งต่อใน 4Q23E และโมเมนตัมจะเพิ่มได้อีก 2-3% ในปี 2024E แนวโน้มการเติบโตของกำไรราว 17% ต่อปี ใน 3 ปีข้างหน้า จึงคงคำแนะนำ “Outperform” ด้วยมูลค่าเหมาะสมใหม่ 13.72 บาท ด้วยวิธี Earning Yield และอัตราผลตอบแทนคาดหวัง 2.92%