วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก แกว่งตัวออกข้าง

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก แกว่งตัวออกข้าง

วันอังคารที่ผ่านมา ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ มีแรงซื้อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ และพลังงาน แต่มีแรงขายหุ้นกลุ่มขนส่ง โดยเฉพาะหุ้น AOT หลังจากรายงานกำไรต่ำกว่าที่ตลาดคาด

โดยนักลงทุนติดตามการเปิดเผยรายงานการประชุม FOMC ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดตลาดที่ 1,423.61 จุด +4.17 จุด +0.29% มูลค่าการซื้อขาย 37,773 ลบ. Program Trading +326.81 ลบ. ต่างชาติ -604.44 ลบ. TFEX +1,224 สัญญา ตราสารหนี้ -2,701.08 ลบ.

ปัจจัยบวก    

+ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหรัฐเชื่อว่าอิสราเอลและฮามาสใกล้ทำข้อตกลงปล่อยตัวประกันบางส่วนที่ถูกควบคุมตัวไว้ที่ฉนวนกาซาแล้ว
+ ตลท. ยกระดับกำกับ การซื้อขายโปรแกรมเทรด-ชอร์ตเซล ตั้งคณะทำงานพิเศษ-สั่งโบรกส่งข้อมูลลูกค้า ขายชอร์ตภายใน 15 วัน-ทบทวนความเท่าเทียม ของผู้ใช้โปรแกรมเทรด กับไม่ใช้โปรแกรม เทรด พร้อมประสานก.ล.ต.ตรวจสอบ บัญชีออมนิบัส
+ กบข.คาดการณ์สภาวะตลาดโลกและมุมมองการลงทุนระยะข้างหน้า เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นในช่วงปลายปีหลังจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวไทย ที่ท่องเที่ยวตามฤดูกาลมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รวมถึงการส่งออกที่มีสัญญาณที่ดี ตามการฟื้นตัวของประเทศคู่ค้าที่สำคัญของไทยในภูมิภาคเอเชีย
+ SCB EIC คาดเศรษฐกิจไทย 4Q66 จะเติบโตสูงกว่า 3 ไตรมาสแรกที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากการบริโภคภาคเอกชน ที่มีแนวโน้มขยายตัวดีตามตลาดแรงงานที่ฟื้นตัวแข็งแกร่ง รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับสูงขึ้นต่อเนื่อง ประกอบกับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทย มีแนวโน้มเร่งตัวอย่างเห็นได้ชัดในไตรมาสนี้ หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
+ ต่างชาติแห่เที่ยวไทยพุ่ง 23.8 ล้านคน เงินสะพัด 1 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวสัญชาติมาเลเซียสูงเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็น คาด ไฮซีซั่น พุ่งอีก จับตาภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ภาวะสงครามที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยลบ 

 

 

- ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 62.75 จุด หรือ -0.18% ถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มค้าปลีก หลังจากบริษัทค้าปลีกหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่น่าผิดหวัง และจากรายงานการประชุมของเฟด ซึ่งระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากภารกิจการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 77.77 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โอเปคพลัส จะจัดการประชุมในวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย.นี้
- หน่วยยามฝั่งสหรัฐเปิดเผยว่า กำลังเร่งค้นหาจุดรั่วไหลของน้ำมันจากท่อส่งน้ำมันใต้น้ำที่อยู่ห่างจากชายฝั่งรัฐหลุยเซียนาในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งคาดว่าได้ปล่อยน้ำมันดิบออกมาแล้วมากกว่า 1 ล้านแกลลอน
- สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองลดลง 4.1%MoM สู่ระดับ 3.79 ล้านยูนิตในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.90 ล้านยูนิต

แนวโน้มตลาดวันนี้  

คาดดัชนีในวันนี้มีโอกาสแกว่งตัวผันผวนระหว่างวัน โดยมีแรงกดดันจากรายงานการประชุมของเฟด ซึ่งระบุว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากภารกิจการควบคุมเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังอ่อนตัวลงเป็นปัจจัยหนุนตลาด มองกรอบดัชนีในวันนี้ 1,415-1,430 จุด

กลยุทธ์การลงทุน  

• หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก Bond Yield ปรับตัวลง : TIDLOR SAWAD MTC
• Digital Wallet และ e-Refund : BJC CPALL CPAXT CRC CPN COM7 SPVI CPW JMART HMPRO DOHOME GLOBAL ZEN M AU TNP KK
• MSCI Global Standard เข้า : - ออก : BGRIM EGCO RATCH MSCI Small cap เข้า : BGRIM EGCO RATCH ออก : ACE ASK KEX ONEE RAM SABUY TTA TFG VIBHA ใช้ราคาปิด 30 พ.ย.
• หุ้นที่มี ESG สูง และอยู่ใน SET50 : ADVANC CPALL CPF CRC OR PTTEP TOP

 

หุ้นรายงานพิเศษ  

SJWD (Bloomberg Consensus 18.50 บาท)
โลจิสติกส์และซัพพลายเชนเริ่มฟื้นตัว

วิเคราะห์แนวโน้มตลาด : บล.โกลเบล็ก แกว่งตัวออกข้าง

•3Q66 มีรายได้ 6,416 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7%QoQ เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากทุกธุรกิจภายหลังการรวมกิจการกับบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจเม้นท์ จำกัด และ 305.4%YoY เนื่องจากเทียบกับงบเดียวของ JWD ก่อนควบรวม อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12.6% ดีกว่าไตรมาสก่อนที่ระดับ 12.0% โดยมีสาเหตุหลักจากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้นในหลายกลุ่มธุรกิจ ประกอบกับธุรกิจ Automotive มีปริมาณงานเพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ทั้งค่าใช้จ่ายค่าไฟและต้นทุนราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงที่ได้รับอานิสงค์จากมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐที่มีผลตั้งแต่เดือน ก.ย. นอกจากนั้นยังมีค่าใช้จ่ายพิเศษจำนวน 96.9 ล้านบาท จากการรับโอนกิจการบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์ แมเนจ-เม้นท์ จำกัด ส่งผลให้ 3Q66 มีกำไรสุทธิเท่ากับ 139.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.1%QoQ และ 25.2%YoY

•แนวโน้มผลการดำเนินงาน 4Q66 เติบโตต่อเนื่อง QoQ เนื่องจากความต้องการใช้บริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนในหลายธุรกิจกำลังฟื้นตัว โดยเฉพาะธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าและธุรกิจให้บริการจัดเก็บและบริหารสินค้าที่เป็นพอร์ตรายได้หลักของบริษัทการขนส่งถ่านหินที่มีดีมานด์เพิ่มขึ้นหลังจากราคาในตลาดโลกทยอยลดลงและการขนส่งซีเมนต์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูการก่อสร้าง

ความเห็น : เรามีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการของบริษัท โดยคาดว่าผลประกอบการใน 4Q66 จะฟื้นตัวต่อเนื่องไปจนถึงปี 67 โดยปัจจุบันบริษัทมีดีลที่อยู่ระหว่างการเจรจาและมีแนวโน้มที่จะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการ ดำเนินงานปี 67 นอกจากนี้บริษัท ยังคงพิจารณาโอกาสการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง Bloomberg Consensus คาดกำไรสุทธิปี 66 ที่ 805 ล้านบาท +60%YoY โดยกำไรสุทธิ 9M66 คิดเป็น 81% ของประมาณการ แนะนำ “ซื้อ”

หุ้นมีข่าว

(+) PTTGC (Bloomberg consensus 38.50 บาท) “พีทีทีจีซี” จับมือ “ดับบลิวเอชเอ” ร่วมทุน “จีซี โลจิสติกส์” ฝ่ายละ 50% ฟาก “คงกระพัน” เดินหน้าขยายฐานกลุ่มลูกค้าธุรกิจเคมีภัณฑ์ เข้านิคมอุตสาหกรรมในเครือ WHA พร้อมดันแวร์เฮ้าส์บริษัทลูกเข้ากองรีทดับบลิวเอชเอ มองรับประโยชน์ด้วยกันทั้งคู่ ด้าน “จรีพร” พร้อมช่วยดูแลแผนลดต้นทุนโลจิสติกส์ให้กลุ่ม PTTGC และ ซัพพอร์ตก่อสร้างคลังสินค้าใหม่เพิ่มเติมให้กับ GCL ในอนาคต (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) JPARK (Bloomberg consensus 6.40 บาท) คว้างานพัฒนาพื้นที่เพื่อก่อสร้างและบริหารอาคารจอดรถยนต์ ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล 1,014 ช่องจอด สัมปทานยาว 30 ปี มูลค่ากว่า 3,600 ล้านบาท แย้มไตรมาส 4/66 โตไม่หยุด ดันรายได้ปีนี้พุ่ง 15-25% จ่อปิดดีลใหญ่ที่จอดรถ 1,000 ช่องภายในครึ่งแรกปีหน้า (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) EKH (Bloomberg consensus 9.76 บาท) แย้มผลงานไตรมาส 4/66 แนวโน้มดี โชว์อัตราการครองเตียงแน่น 80-88% มั่นใจหนุนรายได้ปีนี้โต 10% ลั่นผลงานปีหน้าโตไม่หยุด คาดรายได้-กำไรพุ่งไม่ต่ำกว่า 7% ส่วนวันนี้ (22 พ.ย.) แถลงลงทุน “รพ.เฉพาะทางด้านสุขภาพจิต และจิตเวช” มูลค่ากว่า 340 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) JR (Bloomberg consensus - บาท) เริ่มงานเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าลงใต้ดิน 2 โครงการใหญ่ ทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เฟส 2 และสีชมพู เฟส 2 รวมมูลค่า 6,994 ล้านบาท พร้อมประกาศรุกประมูลงานใหม่ต่อเนื่อง งานวางระบบไฟฟ้า-งานออยล์แอนด์แก๊ส หนุนรายได้โต จาก ณ สิ้นไตรมาส 3/66 มีแบ็กล็อก 9,963 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)